ข่าวเด่น » แพทย์เผยผลผ่า 6 ศพ เวียดนาม ขาดอากาศหายใจ จากสารพิษ “ไซยาไนด์”

แพทย์เผยผลผ่า 6 ศพ เวียดนาม ขาดอากาศหายใจ จากสารพิษ “ไซยาไนด์”

17 กรกฎาคม 2024
92   0

แพทย์เผยผลชันสูตร 6 ศพ ทุกรายมีร่องรอยการขาดอากาศหายใจจากสารพิษ สันนิษฐาน “ไซยาไนด์” เป็นสาเหตุ ส่วนจะมีปริมาณเท่าใด-มีสารประกอบอื่นๆ เพิ่มเติมหรือไม่ ต้องรอผลการตรวจเลือดยืนยันอีกครั้ง คาดทราบผล 19 ก.ค.นี้ และจะทราบผลภาพรวมทั้งหมดใน 1-2 สัปดาห์ ขณะที่ทางตำรวจตั้งข้อสันนิษฐานที่มาของ “ไซยาไนด์” 2 ประเด็น

เมื่อวันที่ 17 ก.ค.2567 เวลา 15.00 น. ที่โรงพยาบาลจุฬาฯ รศ.นพ.กรเกียรติ วงศ์ไพศาลสิน หัวหน้าภาควิชานิติเวชศาสตร์ และ ผอ.ศูนย์อำนวยการชันสูตรพลิกศพ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ คณะบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผบก.พฐก. ร่วมแถลงผลการชันสูตรศพเบื้องต้นของชาวเวียดนามทั้ง 6 ราย

รศ.นพ.กรเกียรติ กล่าวว่า ทางศูนย์ได้ชันสูตรพลิกศพทั้งหมด 6 ศพ เป็นหญิง 3 ร่าง ชาย 3 ร่าง มาตั้งแต่คืนเกิดเหตุจนถึงตอนนี้ โดยได้พิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลและพิสูจน์เอกสารหลักฐาน ซึ่งตรงกับสภาพศพที่ได้รับ และได้เก็บภาพรวมทั้งหลักฐานของผู้เสียชีวิต ประกอบด้วยเลือด ปัสสาวะ น้ำวุ้นในลูกตา เพื่อนำไปพิสูจน์หาสาเหตุการตายร่วมด้วย รวมถึงซีทีสแกนเพื่อหาร่องรอยการถูกทำร้าย เบื้องต้นไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายในทุกราย แต่อวัยวะภายในพบการคั่งเลือดในปริมาณมาก ทีมแพทย์ประเมินว่าทุกรายมีระยะเวลาการเสียชีวิตประมาณ 12-24 ชั่วโมง โดยประเมินจากการตรวจการเปลี่ยนแปลงของร่างกายหลังการตาย ทั้งการคลายตัวของกล้ามเนื้อ การตกสู่เบื้องต่ำของเม็ดเลือด ซึ่งทุกศพมีลักษณะสอดคล้องกัน

จากการตรวจผ่าแยกร่าง พบว่าทั้ง 6 ราย มีร่องรอยของการขาดอากาศ คือ ริมฝีปากเป็นสีม่วงเข้ม ปลายเล็บมือมีสีม่วง การตกสู่เบื้องต่ำของเม็ดเลือดพบเม็ดเลือดมีสีแดงสด อวัยวะมีสีแดงสด ซึ่งบ่งชี้อย่างหนึ่งได้ว่า อาจมีการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับการขาดอากาศหายใจที่เกิดจากสารพิษร่วมด้วย ทำให้ทีมชันสูตรตั้งข้อสันนิษฐานเบื้องต้นว่า ทุกรายเสียชีวิตจากสารไซยาไนด์ ทำให้เกิดการขาดอากาศในระดับเซลล์ของอวัยวะที่สำคัญ คือระบบประสาทและหัวใจ ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุการตายของทุกราย แต่จะมีปริมาณเท่าใด และมีสารประกอบอื่นๆ ที่ส่งเสริมฤทธิ์ด้วยหรือไม่นั้น ต้องรอผลการตรวจเลือดเพื่อยืนยันอีกครั้ง คาดว่าจะทราบผลในวันศุกร์นี้ คาดว่าจะทราบผลภาพรวมทั้งหมดใน 1-2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตามไม่สามารถระบุได้ว่าใครเสียชีวิตก่อนหลัง หรือชักเกร็งก่อนตายหรือไม่ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงหลังการตายนั้น มีปัจจัยรบกวนหลายอย่าง เช่น อุณหภูมิ ระยะเวลา จึงอาจมีความคลาดเคลื่อน

ทั้งนี้ พบว่าทุกศพมีเศษอาหารคงเหลืออยู่ในกระเพาะแตกต่างกัน ซึ่งบางรายอาหารย่อยไปมาก แล้วแต่บางศพยังไม่ย่อยเท่าที่ควร แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นอาหารชนิดใดบ้าง ซึ่งข้อมูลนี้แพทย์จะบันทึกลงผลการชันสูตรแบบละเอียด ส่วนการตรวจสอบสารไซยาไนด์ที่พื้นผิวอื่นๆ ของศพนั้นเป็นเรื่องยาก ต้องยอมรับว่าแพทย์ตรวจเฉพาะไซยาไนด์ในเลือด จึงยังไม่สามารถยืนยันได้ว่ามีไซยาไนด์ติดที่อวัยวะภายนอกของบุคคลใดใน 6 รายนี้บ้าง หลังจากนี้จึงจะมีการตรวจภายนอกต่อไป

ด้าน รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ คณะบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กล่าวว่า เบื้องต้นจากลักษณะที่ตรวจพบทั้งภายนอกและอวัยวะภายใน ไม่พบว่ามีปัจจัยอื่นๆ ที่เป็นเหตุให้เสียชีวิตนอกจากสารไซยาไนด์ ต้องรอผลตรวจอวัยวะภายในเชิงลึกเพื่อหาสารบางอย่างเพิ่มเติม แต่เบื้องต้นหากได้รับสารไซยาไนด์ในปริมาณเกิน 3 มิลลิกรัมต่อเลือด 1 cc. หรือรับในปริมาณมากผ่านการกินดื่ม จะทำให้ผู้ป่วยมีอาการเหงื่อออกชักเกร็ง เพราะขาดออกซิเจนในสมองเฉียบพลัน ก่อนเสียชีวิตภายในเวลาหลักนาที

ด้าน พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตำรวจได้ตั้งข้อสันนิษฐานไว้ 2 ประเด็น คือ เตรียมการนำเข้ามาก่อนเข้าประเทศไทย หรือหาซื้อในประเทศผ่านช่องทางต่างๆ ซึ่งได้สั่งการให้ตรวจสอบตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มผู้เสียชีวิตเริ่มเดินทางเข้าประเทศไปจนถึงวันที่ 12 ก.ค. และยอมรับว่าขณะเดินทางผ่าน ตม.ไม่สามารถตรวจหาสารเหล่านี้ได้ รวมถึงไม่สามารถยืนยันว่าผู้ใดคือผู้นำเข้า ต้องรอการสืบสวนให้เสร็จสิ้นชัดเจนก่อน สำหรับขั้นตอนหลังจากชันสูตรแล้ว ตำรวจจะรอรายงานผลการชันสูตรจากทางแพทย์เพื่อนำไปประกอบในสำนวน ส่วนครอบครัวที่ติดต่อมารับศพ มีเพียงครอบครัวของสามีภรรยาที่มาสอบปากคำที่โรงพัก สน.ลุมพีนี ในวันนี้เท่านั้น