นครราชสีมา -“สุวัจน์”โวสนั่น”แพทองธาร” ปังสุดเป็นนายกฯสุภาพสตรีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ภาพลักษณ์ของนักการเมืองรุ่นใหม่ เปลี่ยนฉากทัศน์ของการเมืองไทยต้องการคนรุ่นใหม่ นักการเมืองเลือดใหม่ เผยนักร้องเป็นเรื่องปรกติ ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะใช้กติกา รัฐบาลต้องระมัดระวังให้มาก
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานพรรคชาติพัฒนา และแกนนำของพรรคชาติพัฒนา กล่าวถึงสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หัวหน้าเพื่อไทย หลังแถงนโนบายจะต้องรีบดำเนินการนั้นว่า วันนี้น้ำท่วมถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ รวมทั้งเรื่องน้ำแล้ง อุทกภัย แผ่นดินถล่มสร้างความเสียหายต่างๆ และความถี่ของการเกิดก็บ่อยขึ้น พื้นที่ก็หลากหลาย มีความสูญเสียและเสียชีวิตไปเป็นจำนวนมาก เช่น ที่ จ.ภูเก็ต , จ.เชียงราย , จ.หนองคาย สถานการณ์จากภาคใต้สู่ภาคเหนือไปสู่ภาคอีสาน ตนคิดว่าสัญญารต่างๆเหล่านี้มีความถี่มากขึ้น ฉะนั้นมันมีความเสียหายทั้งชีวิตผู้คน ทรัพย์สินและความเสียหายทางเศรษฐกิจนับหมื่นนับแสนล้าน ตนคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เราควรที่จะมีมาตรการหรือมีโครงการใหญ่ๆเป็นแบบแผนแม่บทในการวางโครงสร้างพื้นฐานในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง อุทกภัยหรือวาตภัยต่างๆที่จะเป็นพื้นฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศและลดความสูญเสีย
จุดแข็งของประเทศไทยก็คือเกษตร และเกษตรก็ต้องการน้ำ เกษตรต้องน้ำไม่ท่วมและน้ำไม่แล้ง ฉะนั้นถ้ารัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องนี้และมีแผนแม่บทจัดทำเป็นวาระแห่งชาติในการป้องกันน้ำท่วม น้ำแล้ง อุทกภัย วาตภัยต่างๆ ด้วยการมีแผนเหล่านี้ว่า เราจะบริหารจัดการน้ำอย่างไร จะมีการสร้างระบบระบายน้ำไปถึงมือเกษตรอย่างไร ระบบขนส่งน้ำหรือเขื่อน อ่างเก็บน้ำที่จะสามารถรับน้ำไว้ป้องกันปัญหาน้ำแล้ง หรือการระบายน้ำต่างๆไปตามแม่น้ำ ลำคลอง เขื่อนต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาน้ำท่วม ตนคิดว่าเรื่องนี้ยังไม่ได้มีการทำอย่างจริงจัง ตนคิดว่าถ้ารัฐบาลได้หยิบยกเรื่องนี้มาทำมันจะเป็นการสร้างความยั่งยืนในการแก้ไขปัญหาและยั่งยืนในการพัฒนาประเทศ ตอนนี้เป็นเรื่องของการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าพอเกิดขึ้นมาก็ไปช่วยกัน ไปแจกสิ่งของ ไปช่วยกันให้กำลังใจ แต่ถ้าจะถาวรตนคิดว่ารัฐบาลจะต้องทำเรื่องนี้
ส่วนเรื่องเร่งด่วนมากๆที่จะต้องทำคือเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจนั้น นายสุวัจน์ฯกล่าวว่า วันนี้เราอยู่ในห้วงระยะเวลาของการที่จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และก็มีนายกรัฐมนตรีคนใหม่คือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร มีรัฐบาลใหม่ และเป็นนโยบายที่สำคัญของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจต่างๆ วันนี้ได้ดำเนินการหลายๆอย่างที่กระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงนี้ได้ อาทิ กระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการแจกเงิน 10,000 บาทให้กลีมเปราะบาง หรือกลุ่มคนพิการ อันนี้เป็นเรื่องที่สามารถมากระตุ้นได้หรือในส่วนที่เกี่ยวกับตลาดทุนในตลาดหลักทรัพย์กับการจัดตั้งกองทุนวายุภักษ์ 150,000 ล้านมันจะทำให้เกิดความเคลื่อนไหวการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ที่มากขึ้นและทำให้มีเสถียรภาพมากขึ้น หรืองบประมาณปี 2568 ตอนนี้ผ่านรัฐสภาไปแล้ว 3 ล้านล้าน ตนคิดว่าเม็ดเงินตรงนี้ที่กำลังจะใช้และเม็ดเงินจากการกระตุ้นเศรษฐกิจที่แจก 1 แสน 4 หมื่นล้าน และกองทุนวายุภักษ์ในตลาดกหลักทรัพย์อีกประมาณ 1 แสน 5 หมื่นล้าน เหมือนกับแม่น้ำ 3 สายที่จะนำเม็ดเงินมหาศาลเข้าไปสู่พี่น้องประชาชนละเข้าไปสู่การจ้างงาน เข้าไปสู่ภาคธุรกิจ ฉะนั้น 3 ส่วนนี้จะเป็นช่วงที่ทำให้เกิดการกระเตื้องขึ้นของภาวะเศรษฐกิจในช่วงปลายปี และตนคิดว่าวันนี้ผลที่ทางธนาคารกลางสหรัฐหรือ (เฟด) เขาประกาศลดดอกเบี้ย 0.5% อันนี้ถือว่าเป็นข่าวใหญ่ทั่วโลกและเป็นสัญญาณที่บวกต่อภาวะเศรษฐกิจ เพราะที่ผ่านมาหลังโควิดเกิดปัญหาหนี้สินเยอะมากและเกิดปัญหาเงินเฟ้อเยอะ
ฉะนั้นเพื่อเป็นการควบคุมของเขาก็เลยขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาตั้ง 4 ปีไม่เคยลด ฉะนั้นการลดจะทำให้ต้นทุนทางการเงินของคนทำธุรกิจถูกลง และเป็นการกระตุ้นการลงทุน กระตุ้นเศรษฐกิจของโลกให้กลับมาฟื้นตัวและให้กลับมาเข้มแข็งถือว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดี ฉะนั้นเศรษฐกิจไทยก็ไปผูกกับเศรษฐกิจโลกก็จะทำให้เศรษฐกิจไทยก็จะดีขึ้นตามไปด้วย ตนถือว่าเป็นเรื่องที่ดี จากนี้ไปคงจะเห็นความเคลื่อนไหวของตลาดทุน ตลาดเงินต่างๆ การลงทุนต่างๆประเทศไทยก็จะได้อานิงสงค์ และจะเป็นขวัญกำลังใจให้ผู้ประกอบการต่างๆ รวมทั้งเรื่องการท่องเที่ยวว่าเราสามารถกระตุ้นเรื่องการท่องเที่ยวก็จะเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยวได้ผลเร็ว รวดเร็ว ไม่ช้า มีมาตรการดีๆก็เที่ยวกันแล้ว เงินก็กระจาย การท่องเที่ยวไปทุกหมู่บ้าน ไปทุกอาชีพ สร้างความเสมอภาคด้วย เรื่องอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะได้ผลที่เร็วมาก ตนคิดว่าการที่เราจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจในเรื่องนี้หรือการที่เร่าจะมีนโยบาย ไทยเที่ยวไทย ส่งเสริมให้คนไทยเที่ยวเมืองไทย เป็นการรักษาการไหลออกของเงินไปต่างประเทศด้วย และแสดงออกถึงความรักชาติ ความชาตินิยม ไทยนิยม วันนี้ต้องเอาความไทยนิยม ชาตินิยม มาช่วยเศรษฐกิจของประเทศ
ส่วนที่เสียงสะท้อนเกรงว่านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆของรัฐบาลระยะยาวจะถังแตกหรือเปล่านั้น นายสุวัจน์ฯกล่าวว่า อันนี้เมื่อเศรษฐกิจดีขึ้น มีการลงทุนมากขึ้น มีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น มีการจัดเก็บภาษีที่เหมาะสม ขยายฐานภาษีต่างๆที่เหมาะสมมันก็จะเป็นรายได้ของประเทศ ฉะนั้นเราก็ต้องพยายามที่จะคิดหานโยบายใหม่ๆ สมมุตินโยบายเร่งด่วนของประเทศ 10 เรื่องก็จะมีอยู่ข้อหนึ่งที่ดีมากคือนโนบายในการที่จะนำภาษีจากระบบธุรกิจที่อยู่นอกระบบภาษีคือพวกที่อยู่ใต้ดินต่างๆขึ้นมา ซึ่งส่วนนี้มาอีกมากมายที่เราไม่สามารถจัดเก็บภาษีได้ อันนี้จะเป็นรายได้ใหม่ให้กับประเทศ นายสุวัจน์ฯ กล่าวถึงทีมที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี หรือบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจว่า ตนเชื่อว่าประสบการณ์ต่างๆที่แต่ละคนมีคงจะเป็นประโยคในการนำเสนอในเชิงนโยบายต่างๆให้กับรัฐบาลให้กับนายกรัฐมนตรี
ต่อข้อถามถึงอยากให้นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ทำงานอย่างเต็มที่ และพรรคชาติพัฒนาพร้อมให้กำลังใจให้ประสบความสำเร็จในการบริหารประเทศ อย่างไร นายสุวัจน์ฯกล่าวว่า ตนก็ให้กำลังใจท่านนายกรัฐมนตรี เพราะว่า 1.ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีสุภาพสตรีด้วย และ 2.อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ เราเองก็พูดกันมานานว่า อยากเห็นคนรุ่นใหม่เล่นการเมือง อยากเห็นนักการเมืองรุ่นใหม่ อยากเห็นผู้นำทางการเมืองรุ่นใหม่ ฉะนั้นตนว่าท่านนายกฯ แพทองธารฯ ถือว่าเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ได้เลย เพราะว่าไม่เคยอยู่ในวงการการเมืองมาก่อนแล้วก็เข้าสู่การเมือง และเป็นคนรุ่นใหม่มาจากภาคธุรกิจ อายุก็น้อยมาก เพียง 38 ปี ฉะนั้นตนถือว่าท่านนนายกฯ แพทองธารฯ เป็นตัวแทน เป็นภาพลักษณ์ของนักการเมืองรุ่นใหม่ นักการเมืองรุ่นใหม่ที่จะมาทำงานแก้ไขปัญหาให้กับประเทศ ฉะนั้นตนก็อยากให้ท่านประสบความสำเร็จ เพราะถ้าท่านนายกฯ แพทองธารฯประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาหรือในการทำงานมันก็จะเป็นโอกาสที่เราจะได้เห็นภาพการเมืองใหม่ๆ เห็นนักการเมืองรุ่นใหม่ เห็นคนใหม่ๆเข้าสู่ระบบการเมือง นี่คือสิ่งที่เราจะเปลี่ยนฉากทัศน์ของการเมืองไทยว่าเราต้องการคนรุ่นใหม่
นักการเมืองเลือดใหม่ ฉะนั้นตนคิดว่าท่านนายกฯ แพทองธารฯ ถ้าเกิดสามารถที่จะบริหารประเทศแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจต่างๆได้ลุล่วงก็จะทำให้ภาพลักษณ์ของการเมืองหรือความหวังของการเมืองไทยกับคนรุ่นใหม่มีมากขึ้นก็จะเป็นการเปิดประตูตอนรับฉากทัศน์การเมืองใหม่ๆจากนักกการเมืองรุ่นใหม่ ฉะนั้นตนก็เป็นกำลังใจให้ท่านนายกรัฐมนตรี อยากให้ท่านได้ทุ่มเทการทำงานและประสบความสำเร็จในการทำงานในฐานะนายกรัฐมนตรีของประเทศ แต่ว่าวันนี้ก็ต้องยอมรับว่า สภาวะการณ์ต่างๆหนักหนาสาหัส โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจก็คงจะต้องมีความร่วมมือช่วยกันทำงานกันอย่างเต็มที่ แล้วก็ในการที่ท่านขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ก็มีการปรับโครงสร้างรัฐบาลด้วย มีการจัดทัพพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลใหม่ก็นำไปสู่เสถียรภาพของการเมืองที่เพิ่มขึ้น อย่างเคยมี 310 เสียงก็เป็น 320 กว่าเสียง ฉะนั้นด้วยหลักสนับสนุนของพรรคการเมืองรวมกันแล้วกว่า 10 พรรคกับเสียวของรัฐบาลที่มีมากขึ้นอย่างน้อยก็เป็นกำลังใจให้กับรัฐบาลได้ว่าเสถียรภาพในรัฐบาลไม่ต้องห่วง ไม่ต้องห่วงเสียงในสภา ไม่ต้องห่วงองค์ประชุม ขอให้รัฐบาลมุ่งมั่นตั้งใจทำงานให้เต็มที่ โดยเฉพาะในนโยบายเร่งด่วน 10 ข้อเป็นเรื่องที่มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ ฉะนั้นทั้ง 10 ข้อต้องผลักดันให้ได้โดยใช้เสถียรภาพทางการเมืองตนว่าพี่น้องประชาชนก็จะพึงพอใจ
ตอบข้อถามถึงปัญหานักร้องต่างๆจะทำให้รัฐบาลสั่นคลอนหรือไม่ นายสุวัจน์ฯ ตอบว่า ก็เป็นเรื่องปรกติ เนื่องจากว่ามันเป็นไปตามกติกา ทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะใช้กติกา เพียงแต่ว่ารัฐบาลก็จะต้องระมัดระวังให้มาก เหมือนกับมีคนตรวจสอบในเรื่องของการตรสจสอบที่มีมากขึ้น นักร้องก็เป็นหนึ่งในกระบวนการของการตรวจสอบ ฉะนั้นในการทานทุกอย่างก็ต้องมีความระมัดระวัง แต่ว่าตนยังเชื่อว่าเราก็มีเสถียรภาพที่เข้มแข็งแล้วและก็มีนโยบายที่ดีที่เหมาะสม ตอนนี้เป็นเรื่องของการปฏิบัติ เราต้องพยายามร่วมมือกันเพื่อให้การปฏิบัตินำไปสู่ความสำเร็จในเป้าหมายร่วมกัน ส่วนรัฐบาลนี้ครบเทอมแน่นั้น นายสุวัจน์ฯกล่าวว่า รถออกจากบ้านไม่มีใครรู้หรอกจะมีอุบัติเหตุหรือเปล่า แต่ตามฟอร์มรถดี สภาพดี นายสุวัจน์ฯกล่าว.
โดย…ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ// นครราชสีมา