จากหนี้ท่วมตัวจากการทำนาแต่ “แม่ลิ”หรือ มะลิ โนนธิง อายุ 64 ปี ไม่เคยคิดท้อแท้ต่อชะตาชีวิตตรงกันข้ามกลับฮึดขึ้นมาสู้อีกครั้ง พลิกชีวิตจากซื้อแมงดานามาปรุงน้ำพริกทานกับผักหวังประทังชีวิตไปวันๆแต่คิดไปคิดมาทำไมแมงดาถึงราคาดีกว่าข้าวเสียอีก แถมความต้องการของตลาดมากขึ้นเรื่อยๆจากนั้นจึงซื้อแมงดาตัวผู้ตัวเมียมาเลี้ยงเอง จากนั้นไม่นานก็ฟักไข่ขยายพันธุ์ไม่หยุดทำให้ต้องขยายพื้นที่เลี้ยงแมงดาโดยทำเป็นฟาร์มเชิงพานิชย์ ชื่อว่า ศูนย์เลี้ยงแมงดานาแม่ลิ ที่บ้านโนนเชือก ต.บ้านขาม อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ซึ่งบ่อเลี้ยงแมงดานานั้น ได้แยกบ่อเลี้ยงเป็นบ่อขนาดใหญ่ จำนวน 8 บ่อ มีผ้ากันแดดล้อมรอบเอาไว้ นอกจากนี้ยังพบบ่อพักแมงดา พ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ ซี่งเป็นแมงดาที่เก็บมาพักให้มีความแข็งแรงก่อนส่งขายตามออเดอร์ที่ลูกค้าสั่ง

แม่ลิ บอกว่า กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ ก็ต่อสู้มาทุกรูปแบบ ทั้งขายอาหาร เลี้ยงปลา เลี้ยงจิ้งหรีด เลี้ยงวัว ขาดทุนจนหมดตัวเป็นหนี้สินจำนวนมาก เพราะขาดทุนและปุ๋ยที่มีราคาแพง จนกระทั่งในปี 2560 ได้ซื้อแมงดานาที่ตลาดมาทำกับข้าวขาย สังเกตุได้ว่าจะขายได้ราคาดีกว่ากับข้าวทั่วไป และลูกค้าก็ต้องการมาก จึงตัดสินใจซื้อแมงดา ตัวผู้กับตัวเมียมาเลี้ยงเอง โดยเตรียมบ่อ เตรียมดิน เตรียมอาหารไว้พร้อม จากนั้นก็ปล่อยแมงดาลงไป ไม่กี่วันแมงดาก็ออกไข่ และฟักเป็นตัว ซึ่งในระยะแรกยังไม่รู้วิธีการเก็บ จึงได้นำสวิงลงไปตักในโคลนตมที่อยู่ในบ่อเลี้ยง แต่เมื่อตักขึ้นมา แมงดาไม่แข็งแรงและตาย

“สำหรับการเลี้ยงแมงดานานั้น เริ่มจากเตรียมบ่อเลี้ยงที่เป็นบ่อปู ผ้าใบ หรือบ่อดินก็ได้ ลึกประมาณ 50 ซม. จากนั้นหาพืชน้ำ จอก แหน มาใส่ลงในบ่อ ทำสแลนครอบเพื่อป้องกันแมงดาบินออก เติมน้ำลงในบ่อ จากนั้นนำอาหารที่ใช้เลี้ยงแมงดา คือกุ้งเล็ก ปลาซิว หรือลูกอ๊อด มาลงที่บ่อ เมื่อแมงดาโตเต็มที่และเป็นตัวแก่ จะบินขึ้นจากบ่อมาเกาะที่สแลน ก็สามารถจับมาไว้ที่บ่อพักเพื่อส่งขาย”

จากวันนั้นถึงวันนี้เป็นเวลาร่วม 8 ปี จึงประสบความสำเร็จ มีลูกค้าทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ออเดอร์แมงดานาเข้ามา เพราะฟาร์มได้ทำเพจศูนย์เลี้ยงแมงดาแม่ลิขอนแก่นให้ประชาชนเข้ามาดูการเลี้ยงแมงดาและสั่งสินค้าและสั่งแมงดานาพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ เพราะขณะนี้นอกจากเลี้ยงแมงดาแล้ว ยังได้ทำผลิตภัณฑ์ อาหารจากแมงดาออกมาจำหน่ายด้วยมีทั้งแจ่วบองแมงดา น้ำพริกนรกแมงดาปลาช่อนและน้ำปลาแมงดา โดยจะมีการขายแมงดาตัวผู้พ่อพันธุ์และแม่พันธุ์คู่ละ 100 บาท และถ้าลูกค้าต้องการแมงดาเอาไปรับประทานหรือเอาไปตำน้ำพริก ซึ่งจะเป็นแมงดาแก่ที่น็อคแล้วนั้นจะขายตัวผู้ ตัวละ 25 บาท ตัวเมียตัวละ 15 บาท

ขณะนี้มีลูกค้าออเดอร์พ่อพันธุ์แม่พันธุ์มาแล้ว 500 คู่ ทางฟาร์มก็มีแมงดาพร้อมส่งให้ลูกค้าได้ทันที เพราะในบ่อพักที่เก็บแมงดามาพักไว้มีจำนวนมาก โดยก่อนหน้านี้มีลูกค้าที่ประเทศเวียดนามได้สั่งแมงดารวม 1,000 ตัว ทางฟาร์มก็จะส่งไปให้เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ที่ฟาร์มยังเปิดเป็นศูนย์เรียนรู้ ให้ประชาชนที่ต้องการเลี้ยงแมงดานา เข้ามาศึกษาหาความรู้วิธีการเลี้ยงที่ฟาร์มได้ตลอดทั้งปี และถ้าประชาชนหรือ หน่วยงานใดจะมาดูงานมาเรียนรู้สามารถประสานงานผ่านเพจศูนย์เลี้ยงแมงดาแม่ลิขอนแก่นได้ตลอด

“แมงดาช่วยให้ครอบครัวหมดหนี้ และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ไม่ต้องดิ้นรนเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เพราะทุกวันนี้ขายแมงดาได้เดือนละหลายหมื่นบาท จึงไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน สามีที่ป่วยเป็นโรคไต ต้องฟอกไตโรงพยาบาล และเลือกฟอกไตในรพ.ซึ่งก็โชคดีที่มีรายได้จากการขายแมงดาและการขายผลิตภัณฑ์อาหารจากแมงดา ทำให้มีเงินพอกับค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายในรพ.”แม่ลิ กล่าว

นอกจากฟาร์มจะเลี้ยงแมงดานาแบบสดเป็นตัวแล้ว ยังได้ทำผลิตภัณฑ์จากแมงดาออกมาขาย มีทั้งแจ่วบองแมงดา น้ำพริกนรกปลาช่อนแมงดา ซึ่งบรรจุในกระบุกมีทั้งกระปุกใหญ่ กระปุกขนาดกลางและกระปุกเล็ก ที่ขายในราคา 100-120-150 บาท ซึ่งในส่วนผสมจะมีแมงดารวมอยู่ด้วยส่งกลิ่นหอมขณะรับประทานกับข้าวเหนียวหรือข้าวสวยและผักสดผักลวก และน้ำปลาแมงดา ที่มีแมงดาอยู่ในขวดอีกด้วย