ยกตัวอย่าง “ชูวิทย์”แฉจีนเทา อาจรับทรัพย์ถึง 200 ล้านบาท มั่นใจไม่มีเจ้าหน้าที่ช่วยคดี หลังมีส่วนแบ่ง 25% เผย บุกทลายโรงงานผลิตยาไม่ได้ แต่สกัดส่งออกสารตั้งต้นแล้ว
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 เมื่อเวลา 14.00 น. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดโครงการสร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ในการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด รองรับประมวลกฎหมายยาเสพติด โดยมีนายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. นายวราดิศร อ่อนนุช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศรชัย มุ่งไธสง อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย พล.ต.ต.ดุลเดชา อาชวะสมิตระกูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย นางแววตา แสงบุญ ประธานเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดินจังหวัดเชียงราย และสมาชิกกองทุนแม่ของแผ่นดินกว่า 1,250 คน เข้าร่วม ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย จังหวัดเชียงราย
โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้มีความยินดีที่ได้มีโอกาสมาพูดคุยกับพี่น้องประชาชน เพื่อช่วยกันป้องกันและแก้ปัญหายาเสพติด ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน เพราจังหวัดเชียงราย ถือเป็นทางผ่านของการใช้ขนย้ายยาเสพติด เนื่องจากแหล่งผลิตยาเสพติด อยู่ชายแดนรอบประเทศ ทำให้ประเทศเรา กลายเป็นทางผ่าน เพื่อส่งต่อไปยังประเทศที่สาม ดังนั้น รัฐบาล จึงแก้ปัญหายาเสพติดแบบจริงจัง ด้วยการบูรณาการทุกหน่วยงาน โดยมีตน เป็นผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามยาเสพติด และแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง 24 ฉบับ มาเป็นประมวลกฎหมายยาเสพติด ที่เน้นการยึดอายัดทรัพย์สินของเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด เพื่อเป็นการตัดวงจรการค้ายา
“กฎหมายฉบับใหม่ ยังให้รางวัลนำจับกับผู้แจ้งเบาะแส 5% อย่างที่เป็นข่าวใหญ่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาเปิดโปงกลุ่มจีนเทา จนทำให้ขณะนี้ ป.ป.ส.อายัดทรัพย์สินได้แล้วกว่า 5 พันล้านบาท ซึ่งหากศาลสั่งยึดทรัพย์ 4 พันล้านบาท นายชูวิทย์ ก็จะได้รางวัลนำจับถึง 200 ล้านบาท ส่วนข้อกังวลว่า เจ้าหน้าที่จะรับสินบนช่วยผู้ต้องหานั้น เราก็มีการให้รางวัลเจ้าหน้าที่ด้วย 25% เพื่อปิดช่องนี้ โดยเจ้าหน้าที่จะได้ถึง 1 พันล้านบาท ทำให้มั่นใจได้ว่า จะไม่มีเจ้าหน้าที่ไปช่วยผู้ต้องหาอย่างแน่นอน” รมว.ยุติธรรม กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า การยึดอายัดทรัพย์สินของเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด ปีนี้ ตนได้ตั้งเป้าไว้ที่ 1 แสนล้านบาท โดยผลงานในรอบ 3 เดือนแรก สามารถยึดได้แล้วกว่า 2 หมื่นล้านบาท และก่อนตนเข้ามารับตำแหน่งรมว.ยุติธรรม มีการยึดทรัพย์เข้ากองทุนยาเสพติดได้เพียงปีละ 20-30 ล้านบาท แต่ปัจจุบัน ยึดทรัพย์เข้ากองทุนยาเสพติดได้แล้ว 541 ล้านบาท จะเห็นได้ว่า ตัวเลขมีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน ดังนั้น ขอเชิญชวนให้พี่น้องประชาชน ช่วยกันเป็นหูเป็นตา ในการแจ้งเบาะแสยาเสพติด ผ่านสายด่วน 1386 และระบบบล็อคเชน ในการแจ้งแบบไม่เปิดเผยตัวตน
รมว.ยุติธรรม กล่าวต่อว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีการผลิตยาเสพติด สามารถผลิตยาบ้าได้มากกว่าเดิมหลายเท่าตัว โดยปี 2540 สามารถผลิตได้เพียงวันละ 6.5 หมื่นเม็ด แต่ปัจจุบัน มีกำลังผลิตได้ถึงวันละ 4 ล้านเม็ด จึงเป็นสาเหตุของการทำให้ยาบ้ามีราคาถูก เนื่องจากมีต้นทุนที่ถูกลงเป็นจำนวนมาก และถึงแม้ เราจะเข้าไปจัดการกับแหล่งผลิตยาเสพติด ที่อยู่รอบประเทศไม่ได้ แต่รัฐบาล ก็ได้แก้ปัญหาเรื่องการส่งออกสารตั้งต้นผลิตยาเสพติดไปยังประเทศเพื่อนบ้านแล้ว เพราะสารตั้งต้น 1 กิโลกรัม สามารถผลิตยาบ้าได้ถึง 15,000 เม็ด
“กระทรวงยุติธรรม ยังได้ผลักดันกฎหมายป้องกันการกระทำความผิดซ้ำ จนสามารถมีผลบังคับใช้แล้ว ซึ่งก็จะมีการนำมาเฝ้าระวังกับผู้ที่ก่อเหตุรุนแรง โดยเฉพาะผู้ที่ติดยาเสพติด แล้วก่อเหตุสะเทือนขวัญ ซึ่งจะมีการใส่กำไลอีเอ็ม สูงสุด 10 ปี เพื่อเฝ้าระวังไม่ให้ไปก่อเหตุซ้ำ โดยนับเป็นกฎหมายที่จะช่วยสร้างความปลอดภัยให้กับสังคมเป็นฉบับแรก นอกจากนี้ ผมก็กำลังผลักดันกฎหมายช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร โดยสัตว์ที่สามารถจัดการแข่งขันได้ ก็จะมีการช่วยยกระดับ สร้างมูลค่าให้สูงขึ้น ซึ่งจะเป็นการช่วยสร้างงานสร้างอาชีพให้กับพี่น้องเกษตรกร” นายสมศักดิ์ กล่าว