เพราะงานนี้…กลายเป็นความหวังและความฝันของใครอีกหลายคน โดยเฉพาะกรมภาษีและหน่วยงานจัดทำตัวเลขเศรษฐกิจไทย! เริ่ม 24 มี.ค. – 4 เม.ย.นี้ อิมแพค เมืองทองธานี
ยอดจองในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์” ช่วงต้นปีของทุกๆ ปี กลายเป็นความหวังของใครอีกหลายคน?
ไม่เฉพาะ…เจ้าของค่ายรถยนต์ชั้นนำ ผู้ผลิตอะไหล่และชิ้นส่วนรถยนต์ อุปกรณ์ประดับยนต์ เครื่องเสียง ฯลฯ ผู้เข้าชม และผู้ที่ต้องอัพเดทข้อมูลข่าวสารในแวดวงรถยนต์ รวมถึง “ผู้ซื้อ” ที่ต้องการรถใหม่ป้ายแดง พร้อมโปรฯสุดพิเศษ
และที่ขาดไม่ได้ก็คือ หน่วยงานรัฐ โดยเฉพาะกลุ่มงานซึ่งมีหน้าที่จัดทำตัวเลขอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) และกรมภาษี ที่หวังจะเก็บเกี่ยวรายได้จากธุรกรรมที่เกิดขึ้นภายในงานฯ
ต้องยอมรอบว่า…แต่ละครั้งของการจัดงานแสดงรถยนต์ โดยเฉพาะ เจ้าใหญ่ อย่าง…ค่ายกรังด์ปรีซ์ ที่จัดงานฯ ในชื่องาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์” นั้น ยอดจอง (สัญญาซื้อขาย) ที่เกิดขึ้นภายในงานฯ ก่อนหน้าจะเกิดวิกฤตแพร่ระบาดโควิด-19 เคยมีมากถึง…เกือบ 4 หมื่นคันต่อการจัดงานฯหนึ่งครั้ง และคิดเป็นเม็ดเงินมูลค่านับหลายหมื่นล้านบาท
เมื่อธุรกรรมซื้อขายรถยนต์เกิดขึ้น…สร้างรายได้ภาษี ทั้ง…ภาษีมูลค่าเพิ่ม (Vat 7% ที่จัดเก็บจากธุรกรรมการซื้อขาย) ภาษีนิติบุคคล (กำไรจากการดำดเนินงานของผู้ผลิตรถยนต์) และ ภาษีสรรพสามิตรถยนต์ นี่ยังไม่รวมภาษีและค่าธรรมเนียมอื่นๆ อีกสารพัด
สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับกรมภาษี และยังถูกใช้เป็นฐานรากสำคัญในการนำรายได้ภาษีและเม็ดเงินที่เกิดจากการซื้อขายรถยนต์ มาเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการคำนวณจีดีพีในแต่ละปี
การแถลงข่าวตัวเลขเศรษฐกิจของ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในสังกัดกระทรวงการคลัง เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2564 นั้น “รองโฆษก สศค.” นายวุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง ยอมรับว่า…เหตุที่ภาพรวมตัวเลขของยอดขายรถยนต์ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ลดลงอย่างมาก เป็นเพราะ “แรงซื้อ” ถูกใช้ไปหมดแล้ว นับแต่ช่วงปลายปี 2563
ไม่ใช่เรื่องแปลก! หากยอดขายรถยนต์ในเดือนมกราคม (ที่จริงอาจต้องนับไกลไปถึงช่วงต้นๆ ของเดือนมีนาคมด้วยซ้ำ) จะหล่นวูบลงไป!
แต่ยอดขายรถยนต์…จะกลับมาผงาดอีกครั้ง! นั่นก็ต้องรอให้ถึงการจัดงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์” ครั้งใหม่เกิดขึ้น!!!
ซึ่งงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2021” (ครั้งที่ 42) ภายใต้คอนเซ็ปท์ “วิถีชีวิตใหม่ ใจเป็นสุข” (Shaping the Next Chapter) นั้น จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 24 มีนาคม – 4 เมษายนที่จะถึงนี้ ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพค เมืองทองธานี
จึงเป็นอีกความหวังเล็กๆ ของรัฐบาลและกระทรวงการคลัง
ดร.ปราจิน เอี่ยมลำนำ ปธ.จนท.บห. บมจ.กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล และฐานะ “ปธ.จัดงานฯ” ยอมรับว่า…สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยและทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทย รวมถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย ซึ่งถือเป็นหนึ่งในฐานการผลิตสำคัญของบริษัทรถยนต์ชั้นนำระดับโลก
แต่ด้วยความร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชน ในการรับมือกับวิกฤตโรคระบาดครั้งนี้ ทำให้ภาพรวมความเชื่อมั่นในประเทศไทย เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น และยิ่งภาครัฐเริ่มทำการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดฯให้กับคนในประเทศ ก็ยิ่งเพิ่มความเชื่อมั่นให้มากยิ่งขึ้นไปอีก
เหล่านี้…จะช่วยให้ งาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ฯ” มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย แม้ว่าในปีนี้…จะเหลือค่ายรถยนต์และจักรยานยนต์ ตอบรับเข้าร่วมงานราว 34 บริษัท ก็ตาม แต่ก็เป็นค่ายใหญ่ที่ทั่วโลกให้การยอมรับ
โดยปีนี้ งานฯจัดขึ้นบนพื้นที่ 1.7 แสนตารางเมตรเศษ สะท้อนภาพความยิ่งใหญ่ของการจัดงานฯในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“เราทุกฝ่าย โดยเฉพาะสื่อมวลชน จะต้องช่วยนำเสนอข่าวสารข้อมูล ที่จะปลุกเร้า…กระตุ้นความหวังและความฝันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างบรรยากาศที่เป็นบวกต่ออุตสาหกรรมต่างๆ ในประเทศ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมรถยนต์” ดร.ปราจิน กล่าวและย้ำว่า
หน่วยงานภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงอุตสาหกรรม หรือแม้แต่กระทรวงการคลัง และกรมภาษีที่มีหน้าจัดเก็บรายได้เป็นงบประมาณแผ่นดิน น่าจะเข้ามามีส่วนร่วมกับการจัดงานของภาคเอกชน เพราะรายได้ภาษีที่หน่วยงานภาครัฐจัดเก็บ ก็มาจากธุรกรรมการซื้อขายรถยนต์
ทั้งนี้ หากเป็นไปได้ น่าที่รัฐบาล โดยเฉพาะกระทรวงการคลังและกรมภาษี ควรจัดกิจกรรมพิเศษมอบรางวัลและเกียรติบัตรให้กับบริษัทห้างร้านและบุคคลที่เสียภาษีมากสุดเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ
ดร.ปราจิน ระบุว่า…ไม่เพียงเป็นการขอบคุณผู้เสียภาษีที่อยู่ในระบบภาษีอย่างถูกกฎหมาย หากยังเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับผู้ประกอบการเหล่านี้ ได้ยืนหยัดต่อสู้อย่างมีความหวัง ต่อการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยต่อไปได้
ด้าน นายจาตุรนต์ โกมลมิศร์ ปธ.จนท.ปฏิบัติการ บมจ.กรังด์ปรีซ์ฯ ในฐานะ “รองปธ.จัดงานฯ” และยังเป็น…ผู้ที่กำลังจะได้รับพระราชทาน “เครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นประถมาภรณ์ มงกุฎไทย” ในเร็วๆ นี้ ระบุว่า ความพิเศษของการจัดงานฯในปีนี้ คือ การเพิ่มโซน Smart EV City เสนอความเป็นเมืองแห่งอนาคต ตอบสนองไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของยุคปัจจุบัน ที่ต้องการสินค้าตอบโจทย์ความต้องการได้หลากหลายและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น รวมถึง จัดโซน GLAMPING รองรับไลฟ์สไตล์ของคนที่ชื่นชอบการท่องเที่ยว สัมผัสชีวิตกับธรรมชาติ ที่ยังคงความสะดวกสบายเอาไว้ ทั้งยังได้สัมผัส โซนแสดงรถยนต์ พร้อมติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกการตั้งแคมป์ภายในรถยนต์ อีกด้วย นั่นเป็นเพียงบางส่วนของ งาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 42”
สำหรับมาตรฐานความปลอดภัยนั้น นายจาตุรนต์ ย้ำว่า จะมีการคัดกรองผู้เข้าชม โดยขอความร่วมมือจากผู้เข้าชมงานฯทุกคนให้สวมหน้ากากภายในงานฯ และใช้สเปรย์แอลกอฮอล์พ่นมือทำความสะอาดทุกครั้งก่อนเข้าไปทดลองนั่งรถยนต์ เหมือนปีที่แล้ว ไม่เพียงแค่นั้น ปีนี้…ยังขยายพื้นที่ทางเดินให้กว้างยิ่งขึ้น เพื่อลดความแออัดขณะเข้าชมงานฯ แบบชีวิตวิถีใหม่ ตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข
อย่างไรก็ตาม แม้ปัญหาโควิด-19 อาจส่งผลกระทบต่อการจัดงานฯบ้าง แต่จะไม่มีการเลื่อนจัดงานฯเหมือนปีที่ผ่านมา และแม้ว่า…ยอดเข้าชมและยอดจองรถยนต์ภายในงานฯ อาจลดลงบ้าง แต่ตนยังมั่นใจว่า…สูงสุดก็ไม่เกิน -15% เมื่อเทียบกับปี 2563 และส่วนใหญ่ก็จะเป็นผู้เข้าชมงานฯ ที่เป็น “ตัวจริง” คือ…เป็นกลุ่มที่ต้องการมาชมงานฯและ/หรือ ซื้อรถยนต์จริงๆ
“ปีนี้ ไม่เพียงค่ายเมอร์ซิเดส เบนซ์ จะกลับเข้ามาร่วมงานฯเท่านั้น หากกลุ่ม เกรท วอลล์ มอเตอร์ (GWM) ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากประเทศจีน ซึ่งที่ผ่านมาได้เข้าร่วมงานฯมาตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา และพิเศษปีนี้ พวกเขาพร้อมจะเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่และเป็นทางการเป็นครั้งแรก ระหว่างเข้าร่วมงานฯในครั้งนี้” นายจาตุรนต์ ระบุ