เมื่อวันที่ 13 กันยายน เวลา 11.45 น. ที่ด่านพรมแดน ด่านศุลกากรแม่สาย จ.เชียงราย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย และนายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัย พร้อมให้กำลังใจประชาชนในพื้นที่
นายกรัฐมนตรีรับรายงานจากข้าราชการทหาร พลเรือน และข้าราชการท้องถิ่น รวมทั้งอาสาสมัคร และจิตอาสาที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ ซึ่งขณะนี้ ปริมาณน้ำในพื้นที่ได้ลดลงและเข้าสู่ขั้นตอนเก็บกวาดทำความสะอาดถนน สะพาน สถานที่สาธารณะ เพื่อเร่งคืนพื้นที่ให้กับประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ให้เร็วที่สุด พร้อมทั้งยังสอบถามการช่วยเหลือของทางเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปถึงพี่น้องประชาชน ซึ่งได้เจ้าหน้าที่รายงาน ในช่วงแรกการช่วยเหลือเต็มไปด้วยความยากลำบากช่วงกระแสน้ำเชี่ยว ต้องอาศัยเจ็ตสกีจากผู้มีความชำนาญพิเศษ รวมทั้งการใช้เฮลิคอปเตอร์ในการส่งเสบียง อาหารและเครื่องดื่มเข้าไป ซึ่งเป็นการบูรณาการจากหลายหน่วยงานร่วมกัน เร่งช่วยเหลือประชาชนเริ่มตั้งแต่การช่วยขนย้ายของขึ้นที่สูง รวมทั้งช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษ โดยเฉพาะการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุ และได้จัดตั้งศูนย์เพื่อช่วยเหลือทันที
นายกรัฐมนตรี ยังมอบหมายกระทรวงกลาโหมและกระทรวงมหาดไทย รวบรวมข้อมูล ความคิดเห็น และคำแนะนำต่าง ๆ จากเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้างาน เพื่อถอดบทเรียน และวางแผนแก้ไขปัญหา รวมถึงกำหนดแนวปฏิบัติการงานในการจัดการช่วยเหลือต่อไปด้วย จากนั้น นายกรัฐมนตรีตรวจดูแม่น้ำสาย ซึ่งกระแสน้ำได้ลดระดับและความรุนแรงลงบ้างแล้ว นายกรัฐมนตรีกล่าวทักทายและขอบคุณนายกษิดิศ ธีระประทีป ผู้ที่ขับเจ็ตสกีเข้าไปช่วยเหลือลุงเขียงหมูที่ติดเต็นท์แดงด้วย
จากนั้น เวลา 12.30 น. เยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัย ณ ศูนย์พักพิงชั่วคราว วัดพรหมวิหาร ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย กล่าวว่ารัฐบาลจะดูแลเรื่องการเยียวยาให้ดีที่สุด ถือว่าการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนเป็นความสำคัญเร่งด่วน รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจ และมีความห่วงใยทุกคน ทั้งนี้ ขอให้ช่วยกันดูแลเพื่อนบ้านด้วยกันไม่ทอดทิ้งกัน
นายกรัฐมนตรี สอบถามผู้สูงอายุ และหญิงตั้งครรภ์ใกล้คลอดถึงความเป็นอยู่ในศูนย์ฯ ด้วยความห่วงใย ซึ่งตอบว่า เจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลืออย่างดี รวมทั้ง น้ำ อาหาร และยาด้วย ขณะที่ชาวบ้านบางส่วนกล่าวกับนายกรัฐมนตรีทั้งน้ำตาว่า หมดตัวแล้วไม่เหลืออะไรแล้ว ซึ่งนายกรัฐมนตรีตอบว่า “ยังเหลือชีวิต เหลือกำลังใจที่ต้องสู้ต่อไป” ซึ่งชาวบ้านได้กอดนายกรัฐมนตรีและบอกว่า “แค่อ้อมกอดของนายกฯ ก็พอแล้ว” ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ตอบว่า นี่ก็เป็นกำลังใจให้นายกรัฐมนตรีเหมือนกัน จะรีบกลับไปทำงานในเรื่องชดเชยเยียวยาช่วยเหลือ ซึ่งผู้ประสบภัยคนหนึ่งยังบอกกับนายกรัฐมนตรีว่า “อย่าทิ้งกัน” ซึ่งนายกรัฐมนตรีตอบกลับว่า “ไม่ทิ้งอยู่แล้ว”
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เดินเยี่ยมชมรถโรงครัวจิตอาสา ซึ่งได้ผลิตอาหารวันละประมาณ 1,500 – 2,000 กล่อง เพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่และได้ร่วมทำอาหารเมนูกะหล่ำปลีผัดไข่กับกลุ่มแม่บ้านตำรวจภูธรจังหวัดเชียงรายเมนูไก่กระเทียม ณ โรงครัวพระราชทาน
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวกับประชาชนที่เข้ามาพักพิงในศูนย์ ฯ เน้นย้ำว่า จากนี้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีจะเร่งช่วยเหลือ เรื่องการเยียวยา ทั้งการดูแลบ้านพัก ที่อยู่อาศัยให้เร็วที่สุด เพื่อให้ทุกคนกลับไปอยู่ที่พักของตนเองได้อย่างรวดเร็วและอยากให้การเยียวยาเข้าถึงทุกคนอย่างรวดเร็ว วันนี้เรื่องสถานการณ์น้ำดีขึ้นตามลำดับ ขอให้ทุกคนอดทนอีกนิดวันนี้มาให้กำลังใจด้วยความจริงใจและขอพูดจากใจว่า “ทุกคนเก่งมาก ที่ยังมีรอยยิ้ม หลังจากที่ผ่านสถานการณ์รุนแรง” บางคนถึงพูดว่าไม่เหลืออะไรแล้ว นายกรัฐมนตรีบอกว่า ยังเหลือชีวิตและยังเหลือกำลังใจ เหลือความหวังสิ่งที่เหลืออยู่ในวันนี้ ขอให้ทุกคนภูมิใจในตนเองว่า เก่งจริง ๆ เจอเหตุการณ์ขนาดนี้ยังสามารถยืนหยัดได้ นายกรัฐมนตรีเป็นตัวแทนคณะรัฐมนตรีรวมทั้งสมาชิกรัฐสภาไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้านมาให้กำลังใจพี่น้องประชาชน ซึ่งหนึ่งในกลุ่มประชาชนที่พักพิงในศูนย์ยังกล่าวอวยพรนายกรัฐมนตรี “ขอให้เป็นนายกรัฐมนตรีไปนาน ๆ”
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้มอบถุงยังชีพ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยให้กับพี่น้องประชาชน พร้อมยาเวชภัณฑ์อุปกรณ์การรักษาพยาบาลให้กับนายอำเภอเพื่อเป็นตัวแทนส่งมอบต่อให้กับพี่น้องประชาชน ก่อนจะเดินทางต่อไปมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย เยี่ยมผู้ประสบภัยและพร้อมมอบถุงยังชีพให้แก่ประชาชนต่อไป