ปี 2568 เป็นปีที่ธุรกิจต้องปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ธุรกิจที่สามารถปรับตัวและนำเทคโนโลยีมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ธุรกิจที่ยังคงยึดติดกับวิธีการเดิมๆ อาจต้องเผชิญกับความท้าทายมากยิ่งขึ้น ดังนั้นในปี 2568 นี้ ต้องวางแผนและรับมือการเปลี่ยนแปลง
1.ต้องติดตามเทรนด์ใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องอยู่เสมอ อย่าได้ตกกระแสเป็นอันขาด
2.ปรับธุรกิจให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของตลาด อย่าพึงมีอัตตาว่า ไม่ต้องเร่งรีบแก้ไขแต่อย่างใด
3.ต้องเปิดรับกับการเปลี่ยนแปลงของสิ่งใหม่ๆ นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและลดต้นทุน
4.คำนึงเสมอว่า “ลูกค้าคือพระเจ้า” ต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าเพื่อให้ลูกค้ามีความภักดีต่อแบรนด์
5.หลังจากติดตามเทรนดใหม่ๆ แล้ว ต้องขับเคลื่อนพัฒนานวัตกรรม เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า
ช่วงต้นปีนี้ คนส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญอย่างมากว่า อุตสาหกรรมหรือธุรกิจด้านใด ที่เป็น “ดาวรุ่ง” และ “ดาวร่วง” ในช่วงต่อไป โดยจะพบว่า

ธุรกิจดาวรุ่ง ประกอบด้วย
1.เทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ โดยจะพบว่า การพัฒนา AI ในยุคของ Web3, Blockchain และการปรับตัวเข้าสู่โลก Metaverse จะมีบทบาทสำคัญในธุรกิจการเงิน, การศึกษา, และการแพทย์ตัวอย่าง เช่น การนำ AI มาช่วยวิเคราะห์ข้อมูล, ระบบแชตบอท และระบบ Automation Cloud Computing & Cybersecurity: ธุรกิจด้านคลาวด์ และการป้องกันความปลอดภัยไซเบอร์เติบโตสูงจากการทำงานออนไลน์ พลังงานสะอาดและยั่งยืน (Clean & Renewable Energy)ในส่วนของแนวโน้มนั้น สิ่งที่จะตามมาคือ นโยบายลดคาร์บอนทั่วโลกและการลงทุนในพลังงานสะอาด เช่น พลังงานแสงอาทิตย์, พลังงานลม, และรถยนต์ไฟฟ้า (EV) จะขับเคลื่อนอุตสาหกรรมนี้ ตัวอย่าง เช่น ธุรกิจผลิตแบตเตอรี่ EV ระบบชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า การพัฒนาเทคโนโลยี Carbon Capture
2.สุขภาพและการแพทย์ (Healthcare & Biotech) จะพบว่า ความสนใจในสุขภาพส่วนบุคคล (Personalized Healthcare) และการวิจัยด้านชีวเวชภัณฑ์ (Biopharmaceuticals) จะเติบโตสูง อาทิเช่น เทคโนโลยี Telemedicine และ Health Tech การพัฒนายาในส่วนของ Precision Medicine รวมถึง โลจิสติกส์ และอีคอมเมิร์ซ (Logistics & E-commerce)
3.ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ: พฤติกรรมการช้อปปิ้งออนไลน์ของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซขยายตัวอย่างมากในปี 2568 จะพบว่าการเติบโตของการช้อปปิ้งออนไลน์และการขนส่งสินค้าแบบรวดเร็ว (Same-Day Deliver)เริ่มกันจาก การลงทุนในระบบ Smart Warehousing และ AI Logisticsบริการส่งอาหารและพัสดุ รวมถึงการท่องเที่ยวเชิงยั่งยืน (Sustainable Tourism) การฟื้นตัวของการท่องเที่ยวหลังโควิด และความสนใจในรูปแบบการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน เช่น การท่องเที่ยวชุมชนและ Eco-Tourism เช่นธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
4.ธุรกิจคอนเทนต์: ธุรกิจที่สร้างสรรค์คอนเทนต์ต่างๆ เช่น ยูทูบเบอร์, อินฟลูเอนเซอร์, และผู้ผลิตคอนเทนต์ต่างๆ มีความต้องการสูงขึ้น
5.ธุรกิจซอฟต์พาวเวอร์: อุตสาหกรรมบันเทิงไทยได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทั่วโลก ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์พาวเวอร์ เช่น ซีรีส์, ภาพยนตร์, และธุรกิจบันเทิงอื่นๆ มีโอกาสเติบโตอย่างมาก

ขณะที่ธุรกิจดาวร่วงประกอบด้วย
1.สื่อสิ่งพิมพ์ (Print Media) อันเกิดจากความเปลี่ยนแปลงสู่โลกดิจิทัลทำให้สื่อสิ่งพิมพ์ เช่น หนังสือพิมพ์ นิตยสาร และสิ่งพิมพ์โฆษณา ถูกแทนที่ด้วยสื่อออนไลน์ ซึ่งแน่นนอว่า เกิดจากรายได้จากการโฆษณาลดลง
2.เชื้อเพลิงฟอสซิล (Fossil Fuels) การเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาดและนโยบายลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลส่งผลให้อุตสาหกรรมนี้ชะลอตัว โดยจะพบว่า เหตุมาจากความต้องการน้ำมันและถ่านหินลดลง
3.ธุรกิจค้าปลีกแบบดั้งเดิม (Traditional Retail)พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปสู่การช้อปปิ้งออนไลน์ และค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจเพิ่มขึ้น เกิดจากการที่ ห้างสรรพสินค้าและร้านค้าขนาดเล็กที่ไม่ได้ปรับตัวอาจถูกลดบทบาทลงมา
4.ยานยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน (Internal Combustion Engine Vehicles)ความนิยมในรถยนต์ไฟฟ้าและข้อจำกัดการปล่อยมลพิษในหลายประเทศ มาจากการที่ ความต้องการรถยนต์เบนซินและดีเซลลดลง การผลิตแบบดั้งเดิมที่ใช้แรงงานคนจำนวนมาก (Labor-Intensive Manufacturing) รวมถึงการพัฒนา Automation และหุ่นยนต์จะลดความต้องการแรงงานในโรงงาน ส่งผลให้ ธุรกิจที่ไม่สามารถปรับใช้เทคโนโลยีอาจสูญเสียความสามารถในการแข่งขันความยั่งยืน ต้องคำนึงถึงเป็นพิเศษ
โดยสรุป ภายในปี 2568 ความยั่งยืนจะเป็นส่วนสำคัญในกลยุทธ์ทางธุรกิจ เนื่องจากบริษัทต่างๆ ปรับตัวเข้ากับความต้องการด้านกฎระเบียบและความคาดหวังของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป องค์กรที่ให้ความสำคัญกับแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและความอยู่รอดในระยะยาวในตลาดโลกที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ภายในปี 2568 ความยั่งยืนคาดว่าจะมีบทบาทสำคัญในกลยุทธ์ทางธุรกิจในภาคส่วนต่างๆ การเปลี่ยนแปลงนี้จะได้รับแรงผลักดันจากการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบ ความต้องการของผู้บริโภค และความจำเป็นสำหรับบริษัทต่างๆ ที่จะรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ประเด็นสำคัญที่ความยั่งยืนจะส่งผลต่อกลยุทธ์ทางธุรกิจมีดังนี้
กลยุทธ์การลงทุน ที่จะเกิดขึ้นในปี 2568 คือ
-มุ่งเน้นการลงทุนในธุรกิจที่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีและความยั่งยืน
-หลีกเลี่ยงการลงทุนในอุตสาหกรรมที่ไม่ได้ปรับตัวต่อพฤติกรรมผู้บริโภคและนโยบายระดับโลก
-ธุรกิจดั้งเดิมจำเป็นต้องปรับใช้เทคโนโลยีใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน
-เน้นนวัตกรรมและตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่
ปี 2568 จะเป็นปีที่ความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและความต้องการด้านความยั่งยืนกำหนดทิศทางธุรกิจใหม่อย่างชัดเจน ผู้ที่สามารถปรับตัวได้ทันจะมีโอกาสเติบโต ขณะที่ธุรกิจที่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงจะเผชิญความเสี่ยงในการแข่งขัน.