ข่าวเด่น » เปิดปฏิบัติการ 3 ป.เด็ดปีกอัยการ รับเงินแลก “ไม่ฟ้อง” ของกลางเต็มโต๊ะ

เปิดปฏิบัติการ 3 ป.เด็ดปีกอัยการ รับเงินแลก “ไม่ฟ้อง” ของกลางเต็มโต๊ะ

31 กรกฎาคม 2024
289   0

เปิดปฏิบัติการ 3 ป. ซ้อนแผนจับเจ้าพนักงานในกระบวนการยุติธรรม “อัยการจังหวัด” เรียกรับเงินจากผู้ต้องหา แลกไม่ฟ้องคดี ระบุเป็นมิติใหม่การแก้ไขปัญหาการทุจริตของประเทศ ของ “4 หน่วยงาน” ในอนาคตจะมี สตง. มาร่วมด้วย เตรียมขยายผลตรวจสอบเส้นทางการเงินไปถึงใครบ้าง

เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 67 ผู้สื่อข่ายรายงานความคืบหน้าและรายละเอียด คดีจับกุมอัยการที่ จ.นครศรีธรรมราช ว่า สำนักงาน ป.ป.ช. ภายใต้การอำนวยการของ นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช., นายจักรกฤช ตันเลิศ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. และนายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ

ทั้งนี้ได้สั่งการให้ นายไพโรจน์ นิยมเดชา ผู้อำนวยการสืบสวนกลุ่มสืบสวนและปฏิบัติการข่าว 2 และเจ้าหน้าที่สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ ร่วมกับ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประฤติมิชอบ (บก.ปปป.) และสำนักงาน ป.ป.ท. เข้าจับกุม นายชาตินรินทร์ เกตุกำพล พนักงานอัยการสำนักงานอัยการจังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่ จ.60/2567 ลงวันที่ 26 กรกฎาคม 2567 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน

หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เป็นพนักงานอัยการ เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ เป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต

เป็นเจ้าพนักงานของรัฐ เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่น โดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 มาตรา 157 มาตรา 201 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 และมาตรา 173 โดยเข้าจับกุมที่สำนักงานอัยการจังหวัดนครศรีธรรมราช ถนนศรีธรรมโศก ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช

สืบเนื่องจากผู้ต้องหาซึ่งมีตำแหน่งหน้าที่อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุดได้มีพฤติกรรมเรียกรับผลประโยชน์จากผู้เสียหายรายหนึ่งในคดีลักทรัพย์โฉนดที่ดินและปลอมเอกสาร ถูกดำเนินคดีพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายและมีความเห็นสั่งฟ้องสำนวนให้พนักงานอัยการ เมื่อพนักงานอัยการรายนี้ได้รับสำนวน ได้เรียกรับเงินจากผู้เสียหายจำนวน 250,000 บาท เพื่อที่จะมีคำสั่งไม่ฟ้อง

เบื้องต้นผู้เสียหายจ่ายเงินไป 50,000 บาท มีพยานหลักฐานแล้วและประสานมาที่สำนักงาน ป.ป.ช. ประสานกับทางเจ้าน้าที่ตำรวจ ปปป. ร่วมกันลไปขออนุมัติศาลออกหมายจับ ซึ่งศาลได้อนุมัติหมายจับ และวันนี้ผู้ต้องหาได้นัดกับผู้เสียหายเพื่อจะมาจ่ายเงินสดส่วนที่ขาดอยู่ ซึ่งผู้เสียหายยังหาเงินให้ไม่ได้ หาได้ประมาณ 150,000 บาท จึงนัดแนะกัน เมื่อถึงเวลาผู้เสียหายนำเงินไปมอบให้ที่ห้องสำนักงานอัยการรายนี้ เมื่อพนักงานรายนี้รับเงินจำนวนดังกล่าวแล้วทางผู้เสียหายก็ส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่ขึ้นไป เมื่อขึ้นไปก็พบว่ามีเงินของกลางที่ไปลงบันทึกประจำวันไว้ และได้นำตัวพนักงานอัยการรายนี้มาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำ เบื้องต้นให้การปฏิเสธ

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวว่า ในส่วนของนโยบายทั้ง 4 หน่วยงาน เรามีพระเอกอยู่คนหนึ่งคือ ปปง. วันนี้เมื่อมีการบังคับใช้กฎหมายได้ตัวผู้กระทำความผิดมาแล้วขั้นตอนสุดท้ายจะมีการตรวจสอบเส้นทางทางการเงินแน่นอน การกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่เป็นหนึ่งในธุรกรรมของฐานความผิดของ ปปง. เรื่องนี้เองก็จะเป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง เหมือนที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ พูดมาตลอดว่า ผู้กระทำความผิดฝันร้ายแน่นอน จะต้องมีการตรวจสอบเส้นทางทางการเงินไปถึงใครก็จะต้องมีการพิสูจน์ตามมา วันนี้เป็นการยกระดับการแก้ไขปัญหาการทุจริตของประเทศ เรา 4 หน่วยงาน ในอนาคตจะมี สตง.เข้ามาร่วมตรวจสอบด้วย “เดิมมีคนถามมาโดยตลอดว่าจะจับคนนี้เป็นหน้าที่ของใครอันนี้เป็นอำนาจของใคร แต่วันนี้เป็นการบูรณาการร่วมกันของทั้ง 4 หน่วยงาน วันนี้เป็นคำตอบที่ดีที่สุด และเป็นฝันร้ายของคนที่กระทำความผิด ขอยืนยัน”

ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า เรื่องนี้เมื่อเรามีข้อมูลก็รวบรวมพยานหลักฐานข้อเท็จจริงแล้วดำเนินการ ส่วนจะสาวไปถึงใครก็เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน แต่เฉพาะอัยการรายนี้เราได้รับข้อมูลมีผู้เสียหายแค่รายเดียว

หลังตรวจค้นห้องทำงานนายชาตินรินทร์ เสร็จสิ้น พนักงานสอบสวน กก.5.บก.ปปป. ได้นำตัวไปสอบปากคำพร้อมลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช จากนั้นนายชาตินรินทร์ ได้ขอยื่นประกันตัวในขั้นสอบสวน โดยใช้หลักทรัพย์เป็นที่ดินมูลค่า 4 แสนบาท พนักงานสอบสวนจึงเสนอผู้บังคับบัญชาก่อนพิจารณาให้ประกันตัวชั่วคราวไปในที่สุด