อาหารและสุขภาพ » ไอเดียเจ๋ง!ไอศกรีมทุเรียนมูซังคิงเบตง เอาใจ คนชอบทุเรียนที่มา เยือนเมืองเบตง ท้าให้ลอง

ไอเดียเจ๋ง!ไอศกรีมทุเรียนมูซังคิงเบตง เอาใจ คนชอบทุเรียนที่มา เยือนเมืองเบตง ท้าให้ลอง

25 มิถุนายน 2024
217   0

ยะลา-ไอศกรีมทุเรียนมูซังคิงเบตง เอาใจ คนชอบทุเรียนที่มา เยือนเมืองเบตง ท้าให้ลองจะติดใจ มุ่งชูรสชาติและกลิ่นเป็นเอกลักษณ์ แถมราคามิตรภาพ

“ทุเรียนมูซังคิง” เป็นทุเรียนสายพันธุ์พื้นเมืองของประเทศมาเลเซียที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นราชาแห่งทุเรียนมาเลเซีย มีรสชาติหวานหอมอร่อย ถ้าเป็นผลสุกคาต้นจะมีรสชาติอร่อยมากยิ่งขึ้น สำหรับในประเทศไทยปลูกกันมากในพื้นที่เนินเขาของ อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งช่วงนี้ถือว่าเริ่มเข้าสู่ฤดูทุเรียนแล้ว และเมื่อผลผลิตทุเรียนทยอยออกสู่ท้องตลาดในช่วงนี้ ทำให้พ่อค้าทุเรียนออนไลน์ในพื้นที่ อ.เบตง อย่าง นายเอกสิทธิ์ ธารีลาภรักษา หรือ “โกเอ็กซ์” ได้ผุดไอเดียเพิ่มช่องทางการตลาด นำทุเรียนสายพันธุ์มูซังคิง มารังสรรค์เป็น “ไอศกรีม โฮมเมด” ทุเรียนมูซังคิง เพื่อเสิร์ฟเป็นเมนูของหวานต้อนรับนักท่องเที่ยวและคนที่ชื่นชอบทุเรียน

และในวันนี้เป็นช่วงสุดสัปดาห์จึงมีนักท่องเที่ยวชาวไทยจากหลากหลายพื้นที่มุ่งสู่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา เพื่อเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวพักผ่อนในช่วงวันหยุด เสาร์ – อาทิตย์ และมีเป้าหมายที่จะมาลิ้มลองความอร่อยของไอศกรีม โฮมเมด ทุเรียนมูซังคิง ที่ร้าน The Red House Betong ที่ขึ้นชื่อของอำเภอเบตง

นายเอกสิทธิ์ เล่าว่า ช่วงฤดูผลไม้ ถือว่าเป็นช่วงไฮซีซั่นของ อ.เบตง ก็ว่าได้ เพราะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย สิงคโปร์ เดินทางมาทานผลไม้ในพื้นที่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะทุเรียนพื้นบ้าน อย่างทุเรียนมูซังคิง หรือ “เหมาซานหว่อง” แปลเป็นภาษาไทยก็คือ “ราชาแมวป่า” และทุเรียนโอวฉี่ ที่แปลเป็นภาษาไทยได้ว่า “ทุเรียนหนามดำ” ซึ่งเป็นทุเรียนสายพันธุ์ดั้งเดิมจากประเทศมาเลเซีย แต่ก็จะมีการปลูกอย่างแพร่หลายมากที่เบตงด้วย

แต่ด้วยสภาพดิน น้ำ และอากาศในพื้นที่ อ.เบตง ที่แตกต่างจากฝั่งมาเลย์ ทำให้ทุเรียนทั้งสองสายพันธุ์มีรสชาติที่อร่อยต่างออกไปจากต้นตำรับมาเลเซีย ซึ่งทุเรียนที่ปลูกในอำเภอเบตงจะให้รสชาติหวานมัน และมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เนื้อเยอะเป็นที่โปรดปรานสำหรับนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเป็นอย่างมาก และนอกจากรสชาติความอร่อยแล้ว ราคาทุเรียนยังถูกกว่าประเทศบ้านเกิดเป็นเท่าตัว โดยปีนี้ราคาทุเรียนมูซังคิง เกรด A ทางร้านขายกิโลกรัมละ 550 บาท ส่วนทุเรียนโอวฉี่ เกรด A ขายกิโลกรัมละ 650 บาท นอกจากขายหน้าร้านแล้วยังส่งขายออนไลน์ทั่วประเทศด้วย

ส่วน เมนูไอศกรีมทุเรียนมูซังคิง มีกรรมวิธีการทำโดยใช้เนื้อทุเรียนมูซังคิงล้วนๆ 100 % ผสมกับน้ำและเนื้อมะพร้าวน้ำหอม เมื่อ 2 อย่างมาผสมกันก็จะได้ “ไอศกรีมโฮมเมด ทุเรียนมูซังคิง” ที่ไม่มีการแต่งรส แต่งกลิ่น ซึ่งตนเองพยายามนำเสนอของกินที่อร่อย มีคุณภาพเพื่อให้นักท่องเที่ยวประทับใจและกลับมาเที่ยวเมืองเบตงอีกครั้ง

ส่วนราคาของไอศกรีม แบบกระปุก ขนาด 100 กรัม กระปุกละ 50 บาท หากจะทานที่ร้านก็จะตักเสิร์ฟเป็นถ้วย ราคา 59 บาท หากทานคู่กับข้าวเหนียวมูล ถ้วยละ 79 บาท ถ้าเป็นไอศกรีมพร้อมข้าวเหนียวมูลและเพิ่มเค้กทุเรียนด้วยก็จะอยู่ที่ถ้วยละ 129 บาท ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่บอกว่าอร่อยมาก เหมือนได้กินทุเรียนแช่เย็น

สำหรับผู้ที่อยากมาลิ้มลอง “ไอศครีม โฮมเมด ทุเรียนมูซังคิง” ไปหาทดลองลิ้มชิมรสได้ที่ร้าน The Red House Betong ซึ่งร้านก็หาไม่ยากเลย อยู่ใจกลางเมือง ใกล้หอนาฬิกาเมืองเบตง ทางไปศาลจังหวัดเบตง อาคารสีแดง มองเห็นได้อย่างชัดเจน

นอกจากจะมีไอศกรีมทุเรียนมูซังคิงแล้ว The Red House Betong ยังเป็นศูนย์รวมของอาหารรสชาติเบตง จากร้านอาหารต่างๆ ที่ขึ้นชื่อในเมืองเบตง ที่นำมาต้อนรับลูกค้าโดยไม่ต้องไปตระเวนตามร้านต่างๆให้เมื่อย ทางร้านพร้อมจัดเสิร์ฟความอร่อยให้รวมอยู่ในโต๊ะเดียวตามความต้องการของลูกค้า

ทั้งยังเปิดเป็นจุดประสานรถรับจ้างให้นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในเบตง รวมไปถึงยังมีบริการห้องพักไว้รับรองนักท่องเที่ยวในรูปแบบครอบครัวและกลุ่มเพื่อนอีกด้วย

โดย….เจษฎา สิริโยทัย จ.ยะลา