ข่าวเด่น » ปัตตานีเดือด!คนร้ายบุกจับ รปภ. 4 คนขังห้อง ก่อนปล้นรถ อบต. ซุกระเบิดก่อเหตุคาร์บอม

ปัตตานีเดือด!คนร้ายบุกจับ รปภ. 4 คนขังห้อง ก่อนปล้นรถ อบต. ซุกระเบิดก่อเหตุคาร์บอม

24 ตุลาคม 2024
17   0

ปัตตานีกลับมาระอุ!คนร้ายบุกจับ รปภ. 4 คนขังห้อง ก่อนปล้นรถ อบต. ไปซุกระเบิดก่อเหตุคาร์บอม ทำอำเภอและโรงพักพังยับ ขณะที่ตำรวจเชื่อเหตุการณ์นี้เชื่อมโยงกับ “คดีตากใบ”

เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 24 ต.ค. 2567  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ ร.ต.ท.วีรพงศ์ ทองงาม รอง สว.(สอบสวน) สภ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในโรงพัก ปรากฏว่าได้เกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหวทำให้ตัวอาคารของโรงพักสั่นสะเทือนและมีเศษกระจกแตกตกเกลื่อนกระจายตกลงพื้น ต่อมาทราบว่าได้เกิดเหตุระเบิดคาร์บอมบ์บนถนนข้างโรงพักติดกับที่ว่าการอำเภอปะนาเระ หมู่ 1 ตำบลปะนาเระ

ทั้งนี้ ทำให้เจ้าหน้าที่ที่อยู่ในโรงพักรีบหนีออกจากตัวอาคารโรงพัก ก่อนจะพบว่ามีเพลิงกำลังลุกไหม้ซากรถยนต์ซึ่งเป็นรถคาร์บอมบ์ เจ้าหน้าที่จึงทำการปิดกั้นพื้นที่ ปิดถนนเพื่อความปลอดภัย ก่อนจะแจ้งให้ พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ ปานบุญทอง ผกก.ทราบ โดยจุดเกิดเหตุพบเพลิงไหม้รถยนต์คันเกิดเหตุคาร์บอมบ์ จึงได้ประสานชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบ พร้อมรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ

ขณะที่ นายมนชัย หนูสาย นายอำเภอปะนาเระ ซึ่งขณะเกิดเหตุอยู่ภายในบ้านพักฝั่งตรงข้ามที่ว่าการอำเภอและอยู่ห่างจากจุดระเบิดคาร์บอมบ์เพียง 50 เมตร ได้รีบออกมาตรวจสอบสถานการณ์พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ระวังเหตุซ้ำซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้น ประมาณ 30 นาทีไฟที่ไหม้รถคาร์บอมบ์ได้ดับลง ตรวจสอบเบื้องต้นไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต มีเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจและ อส.ซึ่งกำลังเฝ้าเวรที่ป้อมมีอาการหูอื้อเท่านั้น

จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบซากรถยนต์กระบะ 4 ประตู ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีเทา ทะเบียน กค 4052 ปัตตานี ซึ่งเป็นรถของ อบต.บ้านน้ำบ่อ สภาพเหลือแต่ซากแรงระเบิดทำให้ชิ้นส่วนรถกระจัดกระจายไปทั่ว บางชิ้นกระเด็นตกลงหลังคาบ้านพักของ นายมนชัย หนูสาย นายอำเภอปะนาเระ จนแตกทะลุชั้นสองของบ้าน โชคดีที่ไม่มีใครได้รับอันตราย

นอกจากนี้ ยังทำให้ผนังอาคารไม้ที่ว่าการอำเภอปะนาเระหลังเก่าเสียหาย กระจกอาคารอำเภอหลังใหม่แตกทุกบาน กำแพงพังเสียหาย เช่นเดียวกับกระจกอาคารโรงพักทั้ง 4 ชั้นแตกเสียหายหมด และยังทำให้รถยนต์และรถจักรยานยนต์หลายคันเสียหายไปด้วย

ภายหลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ ปานบุญทอง ผกก. สั่งการให้ชุดสืบสวนสอบสวน สภ.ปะนาเระ เข้าไปตรวจสอบที่ทำการ อบต.บ้านน้ำบ่อ เนื่องจากรถคาร์บอมที่คนร้ายนำมาก่อเหตุเป็นรถของ อบต.บ้านน้ำบ่อ ปรากฏว่าเมื่อไปถึงพบสิ่งผิดปกติเนื่องจากไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่ดูแลด้านนอก อบต. และเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบภายในอาคาร อบต. พบว่ามีเจ้าหน้าที่และ รปภ.จำนวน 4 คน ถูกมัดมือมัดเท้าขังไว้ จึงได้รีบเข้าไปช่วยเหลือก่อนจะเชิญตัวมาสอบปากคำที่ สภ.ปะนาเระ ทราบชื่อ 1. นายมูฮัมหมัดซอฟี มิงซู 2. นายมาหามะ สาแม 3. นายอาหะมะ อาแว และ 4. นายมะฮูเซ็ง วานิ ซึ่งทั้ง 4 คนไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

จากการสอบสวนทราบว่า ช่วงเวลาประมาณ 23.00 น. ก่อนเกิดเหตุคาร์บอมประมาณ 1 ชั่วโมง ขณะที่ทั้ง 4 คนเข้าเวรดูแลความปลอดภัย ปรากฏว่ามีคนร้ายประมาณ 10 คนแต่งกายชุดดำปกปิดใบหน้าพร้อมอาวุธปืนยาวบุกเข้ามา พร้อมข่มขู่ไม่ให้เสียงดังก่อนจะจับทั้ง 4 คนมัดมือมัดเท้าแล้วบังคับให้นำกุญแจรถคันดังกล่าวให้ จากนั้นคนร้ายจึงรีบขโมยรถขับหนีออกไป โดยขังทั้ง 4 คนไว้ในอาคารต่อมา เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบพฤติการณ์ของคนร้ายหลังจากขโมยรถขับออกจาก อบต. ก่อนจะหายไป จากนั้นกล้องจับภาพได้อีกครั้ง ขณะที่คนร้ายขับรถมาตามเส้นทางด้านหลังอำเภอ โดยมีคนร้าย 1 คนขับขี่รถจักรยานยนต์ตามหลัง 1 คัน และเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุคนร้ายจึงได้จอดรถคาร์บอมไว้ ซึ่งเป็นถนนคั่นกลางระหว่างที่ทำการอำเภอปะนาเระและ สภ.ปะนาเระ คนร้าย 1 คน ออกจากรถแล้วรีบขึ้นนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ 

ก่อนจะขับหลบหนีกลับไปเส้นทางเดิมประมาณ 5 นาที คนร้ายจึงได้กดชนวนระเบิดแสวงเครื่อง น้ำหนักประมาณ 20 กิโลกรัมขึ้น จนเกิดความเสียหายแต่โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บรวบรวมวัตถุพยานพร้อมตรวจสอบหลักฐานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องรวมไปถึงภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามคนร้ายต่อไป ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุนั้น

ทั้งนี้ เบื้องต้นชุดสืบสวนสอบสวนคดีความมั่นคง ระบุว่า เหตุครั้งนี้เชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มนายอับดุลเลาะ มูดอ ซึ่งเป็นมือระเบิดที่เคยก่อเหตุมาแล้วในพื้นที่ เนื่องจากพบว่าเมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2556 คนร้ายเคยบุกเข้าไปปล้นรถกระบะของ อบต.บ้านน้ำบ่อมาแล้ว แต่ยังไม่พบว่ารถคันดังกล่าวคนร้ายนำไปก่อเหตุที่ใด และเชื่อว่าเหตุคาร์บอมครั้งนี้น่าจะเชื่อมโยงกับคดีตากใบ ซึ่งคนร้ายมีความพยายามตอบโต้เพื่อสร้างสถานการณ์.