ข่าวกีฬา » นักฟันดาบทั่วโลกตบเท้าแข่งขันระดับนานาชาติ “ดร.พจน์”ลุยสร้างเยาวชนไต่ชั้นระดับโลก

นักฟันดาบทั่วโลกตบเท้าแข่งขันระดับนานาชาติ “ดร.พจน์”ลุยสร้างเยาวชนไต่ชั้นระดับโลก

2 ธันวาคม 2024
39   0

ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามสำหรับงานแข่งขันกีฬาฟันดาบนานาชาติ International Fencing Cup 2024 ครั้งแรกของประเทศไทย จัดขึ้นโดยชมรม Ying Fencing Club ซึ่งจัดการแข่งขันกีฬาฟันดาบครั้งใหญ่  โดยมีนักกีฬาฟันดาบนานาชาติเข้าร่วมกว่า 800 คนจาก 13 ประเทศ และเป็นครั้งแรกของเมืองไทยที่จัดให้มีนักกีฬาอายุ 6 ขวบได้มีโอกาสเข้าร่วมการแข่งขัน โดยงานจัดให้มีขึ้นในวันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2567 และวันอาทิตย์ที่ 1ธันวาคม 2567 ณ ศูนย์การค้าฟีนิกซ์ ประตูน้ำ (หรือเดิมคือ พันธุ์ทิพย์ พลาซ่า)

โดยมี ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ นายกสมาคมกีฬาฟันดาบแห่งประเทศไทยฯ ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน,มี พลโทโชคชัย พลสมัคร กรรมการสมาคมฯ. พร้อมด้วย คุณVictor K.Lau,  คุณพานุศักดิ์ พลาวัสถ์พงษ์,คณะกรรมการจัดการแข่งขัน ให้การต้อนรับ. ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ นายกสมาคมกีฬาฟันดาบแห่งประเทศไทยฯ ได้กล่าวเปิดงานในส่วนของสมาคมกีฬาฟันดาบฯ ดังนี้ 

“ในส่วนของ สมาคมกีฬาฟันดาบแห่งประเทศไทยฯ ขอขอบคุณชมรมสมาชิกที่ให้ความไว้วางใจดํารงตําแหน่ง นายกสมาคมกีฬาฟันดาบแห่งประเทศไทยฯ สมัยวาระ ปี 2567  ถึงปี 2571 สําหรับบทบาทของ สมาคมกีฬาฟันดาบแห่งประเทศไทยฯ เรามุ่งมั่นนักกีฬาฟันดาบของไทยในทุกรุ่นอายุ ตั้งแต่ระดับยุวชน, เยาวชน, รุ่นทั่วไป รวมถึงรุ่นอาวุโส ให้มีความเป็นเลิศทั้งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมไปถึงในระดับ เอเชีย และระดับโลกอีกด้วย โดยเฉพาะในภูมิภาคบ้านเรา ยังคงมีความมุ่งหวังอย่างแรงกล้า ให้ประเทศไทยได้กลับขึ้นมาเป็นเจ้าอาเซียนอีกครั้ง 

นอกจากนี้ทางสมาคมกีฬาฟันดาบแห่งประเทศไทยฯ ยังมุ่งมั่นเผยแพร่กีฬา ฟันดาบ ให้กระจายสู่ทั่วทุกภูมิภาคของเมืองไทย เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนทั้งประเทศได้รู้จัก และหันมาเล่นกีฬาฟันดาบกันมากขึ้นโดยเฉพาะในรุ่นยุวชน และเยาวชน ซึ่งเป็นผลดีต่อทุกภาคส่วน. เพื่อให้สมาคมฯ ได้เฟ้นหานักกีฬาช้างเผือกจากพื้นที่ห่างไกล และเป็นการเปิดโอกาสในด้านความเป็นเลิศของนักกีฬา รวมถึงโอกาสทางการศึกษาของนักกีฬา ที่อยู่ในต่างจังหวัดอีกด้วย”

ภายในงานได้รับเกียรติจากนักกีฬาฟันดาบระดับโลกมาร่วมสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชน อาทิ คุณ Zhang  Ying ผู้ชนะเหรียญทองจากรายการชิงแชมป์โลกจากจีน และ ทีมโค้ชแชมป์โลกจากนานาชาติ อาทิ  โค้ช Hamed Sedaghati  อดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติอิหร่าน และ Fabien Maumus อดีตนักกีฬาทีมฝรั่งเศส ฯลฯ ตบเท้าเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง ที่สำคัญมี 2 โค้ช ไทยผู้สร้างแรงบันดาลใจในงานนี้  คือ “โค้ชปุ๊ย” นันทา จันทสุวรรณสิน ผู้ฝึกสอนของชมรมYing Fencing Club  

ผู้ซึ่งเป็นผู้ฝึกสอนของ “แวว” สายสุนีย์ จ๊ะนะ นักกีฬาวีลแชร์ฟันดาบคนแรกของโลก ที่สร้างประวัติศาสตร์ให้ชาติไทยเจ้าของ 3 เหรียญทองพาราลิมปิกครบทั้ง 3 ประเภทดาบ.  และท่านอาจารย์ ชาติชาย (พลโท ชาติชาย เกษมวงศ์) อุปนายกสมาคมกีฬาฟันดาบ โค้ชไทยที่อุทิศชีวิตและจิตวิญญาณให้กับกีฬาฟันดาบ โดยท่านได้เป็นอาสาสมัครไปเดินทางไปฝึกสอนและสร้างนักกีฬาในชนบทที่ขาดโอกาสและทุนทรัพย์ใ นการเข้าถึงกีฬาฟันดาบให้ได้มีโอกาสในการเรียนโดยไม่มีค่าใช้จ่าย. ก็ได้พานักกีฬาฟันดาบจากท้องถิ่น  เข้าร่วมงานครั้งนี้ด้วยเช่นกัน และที่สำคัญครั้งนี้ประเทศไทยได้ส่งนักกีฬาฟันดาบรุ่นอายุ 6 ขวบมาร่วมแข่งขันเป็นครั้งแรก  ถือว่าเป็นเรื่องใหม่และเป็นก้าวย่างสำคัญในการพัฒนาของวงการฟันดาบแห่งประเทศไทย 

งานนี้ทำให้ต่างชาติมองเห็นว่าเมืองไทยเราสามารถจัดการแข่งขันระดับกีฬาฟันดาบในระดับนานาชาติได้จริง เพราะมีความพร้อมทั้งระบบการจัดการ สถานที่จัดงานรองรับผู้เข้าชมงานได้เป็นจำนวนมาก โดยท่านนายกสมาคมกีฬาฟันดาบแห่งประเทศไทยฯ  มีความต้องการจะสนับสนุนและยกระดับนักกีฬาฟันดาบในประเทศให้ทัดเทียมนานาชาติ  และเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนทั่วประเทศได้มีโอกาสเข้าถึงกีฬาฟันดาบ โดยมีโค้ชระดับโลกเข้ามาสอน และจะผลักดันเรื่องนี้ให้ดีที่สุด ที่สำคัญอยากให้รัฐบาลมองเห็นความสำคัญและให้การสนับสนุนกีฬาฟันดาบ ซึ่งสมาคมกีฬาฟันดาบของไทยปัจจุบันนี้มีนักกีฬาอายุ 6 ขวบไปแข่งกับ 8 ขวบได้ที่ 3 กลับมา, ไปร่วมแข่งที่เซี่ยงไฮ้ จนได้ที่ 2 กลับมา, และไปร่วมแข่งกับ นานาชาติก็ได้รับรางวัลกลับมา,  ซึ่งสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยได้. 

จากการเริ่มต้นในการจัดงานแข่งขันกีฬาฟันดาบนานาชาติครั้งนี้  ทางสมาคมขอขอบคุณ แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน), โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล, เอฟบีที, และ ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน), ในการให้การสนับสนุนในการจัดการแข่งขัน และก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดงานครั้งนี้จะได้รับความสนใจจากทั้งภาครัฐและเอกชน ในการเข้าร่วมสนับสนุนในการจัดงานครั้งต่อไปเพื่อให้กีฬาฟันดาบของประเทศไทยมีการพัฒนาไปอย่างต่อเนื่องอย่างแท้จริง