ข่าวสังคมทั่วไป » ‘รังนกอีแอ่น’ราคารทรุด จากกก.ละ 1.2 แสน เหลือ 7 หมื่น หลังจีนระงับการนำเข้า

‘รังนกอีแอ่น’ราคารทรุด จากกก.ละ 1.2 แสน เหลือ 7 หมื่น หลังจีนระงับการนำเข้า

22 กุมภาพันธ์ 2025
21   0

รังนกอีแอ่นธรรมชาติ รังนกอีแอ่น อ่วม ราคาเดี้ยง 120,000 บาท เหลือ 60,000–70,000 บาท รังนกอีแอ่นบ้าน 45,000 บาท เหลือ 17,000 บาท /  กก. ระบุ จีนและเมืองไชน่าทาวน์ทั่วโลก ชะลอการบริโภค  แถมรังนกอินโดนีเซีย 4 บริษัทรายใหญ่ โดนคว่ำบาท ส่งออกไม่ได้ดัน “กองทัพมด” ดันทะลักเข้าไทย พร้อมกับรังนกอีแอ่นมาเลเซีย รังนกอีแอ่นไทยโดนหลายดอกขยี้ซ้ำ ระบุนักลงทุนรังนกอีแอ่นบ้านต่างชะลอตัวหมด  ส่วนรังนกอีแอ่นธรรมชาติปล่อยเกาะสังนกทิ้งร่างไม่เข้าแข่งกันการประมูล  กมธ.สภา เร่งแก้ พรบ.รังนกอีแอ่นวิ่งให้ทันการค้าโลก 

นางสาวสกุณา  สาระนันท์  ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย ระเบียบและหลักเกณฑ์เพื่อรองรับการดำเนินกิจการรังนก สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.) เป็นประธานในการรับฟังข้อคิดเห็น  ข้อเสนอแนะเพื่อนำไปสู่การพิจารณาแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย  และหลักเกณฑ์รวมทั้งนำนวัตกรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง ที่ห้องประชุมกาบบัว ศาลากลาง จ.พัทลุง มี นส.ชุติมา คชพันธ์ รองประธาน กมธ. คนที่ 1 นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง  รองประธาน กมธ.คนที่  2   และนายปรีชา นวลน้อย รอง  ผวจ.พัทลุง

ทั้งนี้ เพื่อให้การสัมปทานรังนกอีแอ่นของพื้นที่ จ.พัทลุง และอีกหลายจังหวัดมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นกว่าเดิมและเกิดประโยชน์แก่ท้องถิ่นให้มากที่สุด รวมทั้งให้รังนกอีแอ่นของประเทศไทยสามารถเข้าไปแข่งขันในระดับโลกได้ เพราะ พรบ.รังนหกอีแอ่น ได้ล้าหลังไม่ทันต่อสถานการณ์การค้าโลกปัจจุบัน

ทั้งนี้ พรบ.อากรรังนกอีแอ่นเป็นกฎหมายพิเศษที่ได้จัดสรรเงินอากรรังนกให้กับท้องถิ่น แต่ พรบ.อากรรังนกอีแอ่น พ.ศ.2540 จนถึงขณะนี้ จำนวน 34 มาตร ยังไม่มีการแก้ไขและปรับปรุง ในขณะเงินที่ได้การสัมปทานการจัดเก็บอากรรังนกอีแอ่นตั้งแต่ปี 2546 จนถึงปัจจุบันมากกว่า 2,050 ล้านบาท ยังไม่เห็นความสำเร็จในการพัฒนาปรับปรุงท้องถิ่นที่เป็นรูปธรรม

อีกทั้งกลับมีปัญหาอุปสรรคการว่างเว้นการเปิดประมูลรังนกอีแอ่นจนนำไปสู่การขโมยรังนก การจัดสรรเงินอากรรังนกอีแอ่น ร้อยละ 5 ให้กับงานธุรการ อบจ.พัทลุง ก็ไม่สามารถบริหารจัดงานงานจัดเก็บรังนกอีแอ่น ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฯลฯ

ในที่ประชุม จึงได้มีการเสนอแนะให้มีการปฏิรูปการสัมปทานรังนกอีแอ่นอย่างเป็นรูปธรรม โดยให้มีตัวแทนภาคส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนสำคัญในการป้องปรามการขโมยรังนกอีแอ่น  ให้มีการจัดประมูลรังนกอีแอ่นก่อนหมดสัญญาสัมปทานเป็นระยะเวลา 1 ปี 

พร้อมกับนำเทคโนโลยีสมัยใหม่นำมาในการป้องปรามการขโมยรังนกอีแอ่น   พร้อมกับการแต่งตั้งผู้ชำนาญการเกี่ยวกับรังนกอีแอ่นเข้ามาเป็นคณะกรรมการพิเศษเพื่อให้การประมูลรังนกอีแอ่นเกิดความโปร่งใสและยุติธรรม
และจะต้องการจัดเผยแพร่ข้อมูลการจัดเก็บรังนกอีแอ่นต่อสาธารณชนเพื่อประโยชน์ต่อการสัมปทานรังนกอีแอ่น การออกระเบียบการนำรังนกอีแอ่นถ้ำไปเชื่อมโยงกับรังนกอีแอ่นบ้าน และการแก้ไขระเบียบกฎหมายในการควบคุมการจัดเก็บรังนกอีแอ่นบ้านให้เป็นรูปธรรม

นอกนั้นต้องออกการออกระเบียบให้ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพัทลุงเข้ามาปฏิบัติหน้าที่แทนป่าไม้จังหวัดในคณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บรังนกอีแอ่น ที่ถูกยกเลิกหน่วยงานดังกล่าวไป  ฯลฯ

 “ซึ่งทาง กมธ. จะได้นำข้อเสนอแนะ ข้อคิดเห็นเข้าสู่การประชุมในสภาผู้แทนราษฎรเพื่อนำไปสู่การแก้ไข ปรับปรุง  พรบ.อากรรังนกอีแอ่น พ.ศ.2540 ต่อไป”

แหล่งข่าวจากสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจรังนกแอ่น-ประเทศไทย  เปิดเผยว่า ภาวะราคารังนกอีแอ่นปัจจุบันราคาทยอยลงมากโดยตกมาเป็นระยะเวลา 2-3 ปี ตั้งแต่ปี 2565 – 2566 2567 จนถึงขณะนี้ โดยทยอยลงมากโดยเฉพาะรังนกอีแอ่นเหลือ 5,000 บาท / กก. จากปัจจัยแรกโดยถูกระบุว่าเกิดจากรังนกเลือดรักนกอีแอ่นผสมสารไนเตรท 

“ในขณะนั้นของตนรังนกอีแอ่นบ้านเหลือในสต๊อกเป็นห้องตู้เย็น สักพักหนึ่งก็ค่อยทยอยขึ้นมาอยู่ในระดับหลักหมื่นบ้าน จากสถานการณืดังกล่าวส่งผลให้รังนกอีแอ่นไม่ได้ปรับราคาขึ้น ประด้วยหลายปัจจัย”

1.ตลาดหลักรังนกอีแอ่นคือประเทศจีน และเมืองไชน่าทาวน์จากทั่วโลก ชะลอการบริโภค ประกอบกับคนรุ่นใหม่จีนไม่นิยมบริโภครังนก เนื่องจากผู้นำจีนมีนโยบายเกิดการใช้จ่ายอย่างประหยัด 

2.บริษัทผู้ประกอบการรังนกอีแอ่นรายใหญ่ประเทศอินโดนีเซีย จำนวน 4 บริษัท ถูกต่างประเทศระงับอนุญาตให้นำเข้าเหตุปัจจัยน่าเรื่องสารปนเปื้อน คุณภาพสเป็ค  ส่งผลให้การส่งออกไม่ได้ และในขณะเดียวกันกลุ่มผู้ค้ารังนกอีแอ่น ของอินโดนีเซียประเภทกองทัพหมดที่เคยส่งออกรูปแบบกองทัพหมดเมื่อส่งออกไม่ได้ก็เบียดเข้ามาส่งออกยังตลาดรังนกอีแอ่นในประเทศไทย พร้อมทั้งรังนกอีแอ่นมาเลเซียด้วยมาเป็นกองทัพหมดหลายเส้นทางด้วยกัน 

3.ลานประมูลรับซื้อรังนกอีแอ่น ประมาณ 16 ลานของไทย ต่างเชิญชวนเข้ามาประมูลรับซื้อรังนกอีแอ่น เนื่องจากรังนกอีแอ่นจากทางภาคอีสาน ภาคเหนือ ได้ไหลเข้ามาสู่ลานประมูลประมาณ 1 ตัน / เดือน แต่ก็ไม่มีผู้เข้าประมูล เพราะแต่ละรายต่างมีรังนกอีแอ่นอยู่ในมือ  1000 กก. บางรายถึง 300 กก. เป็นต้น จึงส่งผลให้รังนกอีแอ่นราคาทยอยลง

“ตนเคยขายรังนกอีแอ่นบ้าน ล๊อตละประมาณ 22,000 กก. / รอบ แต่ปัจจุบันที่ขายออกได้ประมาณ 15,000 กก. และ 17,000 กก. / ล๊อต / รอบ ปริมาณการขายลดลงมาก”

แหล่งข่าว กล่าวว่า สภาพขณะนี้รังนกอีแอ่นล้นตลาดจากเดิมที่มีประมาณ 100 %  โดยขณะนี้ปรับขึ้นไม่ต่ำกว่า 300 %  ซึ่งดีมานด์ซัพพลายไม่บาลานด์ ดีมานด์เหมือเดิมคือตลาดจีนกับตลาดไช่น่าทาวน์จากทั่วโลก แต่ซัพพลายขยายตัวเติบโตขึ้นมาก โดยเฉพาะลงทุนกันมากเมื่อปี 2566 – 2567 เพราะต้องการองรับกับกฎหมายใหม่ที่จะออกมาบังคับใช้

“รังนกธรรมชาติอีแอ่นช่วงขยายตัวเติบโตบูม ๆ แรงสุด ราคาปรับขึ้นประมาณ 120,000 บาท / กก. จากนั้นก็ได้ทยอยลดราคาลงมาอยู่ที่ 60,000 บาท และ 70,000 บาท และรังนกอีแอ่นบ้านจาก 45,000 – 40,000 บาท มาอยู่ที่ราคา 17,000 บาท / กก. ในขณะนี้ โดยราคาตกมาตั้งแต่ปี 2565 – 2566 – 2567 และจนถึงขณะนี้ โดยทยอยลงไม่ถึงกับช๊อค”

แหล่งข่าว ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในระยะหลัง ๆมีการลงทุนรังนกอีแอ่นบ้านกันมาก โดยจะขยายตัวไปยังภาคอีสาน ภาคเหนือ เนื่องจากอาหารของนกอีแอ่นค่อนข้างสมบูรณ์ สภาพป่าไม้ แมลง ฯลฯ ของประเทศเพื่อนบ้านยังอุดมสมบูรณ์ ซึ่งทางภาคใต้รังนกอีแอ่นบ้านมีปริมาณมาก คือ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช และ อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี แต่ถึงอย่างไรจะมีมากก็ตามแต่ตัวนกอีแอ่นได้โยกย้ายไปยังภาคอีสาน ภาคเหนือมากเช่นกัน

“ส่วนสถานการณรังนกอีแอ่นคงจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นเนื่องจากมีการยกร่างระเบียบใหม่  กฎหมายใหม่ ที่จะออกประกาศบังคับใช้  รังนกอีแอ่นจะมีการขึ้นบัญชีเข้าระบบจัดระเบียบใหม่ และจะต้องเป็นฟาร์มมาตรฐานทุกส่วน และรังนกอีแอ่นอินโดนีเซีย น่ามีการเจรจาส่งออกได้” แหล่งข่าว ระบุ  

แหล่งข่าว ยังกล่าวอีกว่า ถึงการลงทุนสำหรับรังนกอีแอ่นบ้านโดยได้มีการขยายตัวเติบโตเป็นณูปแบบธุรกิจมาตั้งแต่ปี 2525 มาจนถึงขณะนี้ น่าจะมีบ้านรังนกอีแอ่นบ้านไม่ต่ำกว่า 30,000 หลัง บารายลงทุนถึง 5 หลังและ 7 หลัง 8 หลัง  โดยราคาลงทุนบ้านรังนกอีแอ่นระดับมาตรฐาน 3 ชั้น 2 คูหา ประมาณกว่า 3 ล้านบาท และอาคารที่ถูกปรับปรุงพัฒนาเป็นบ้านรังนกกแอ่นราคาหลักแสนบาท  โดยเฉลี่ยการลงทุนสร้างบ้านรังนกอีแอ่นประมาณ 1 ล้านบาท / หลัง จำนวน 30,000 หลัง ภาพรวมมีมูลค่าการลงทุนประมาณ 30,000 ล้านบาท

“สถานการณ์รังนกแอ่นธรรมชาติหรือรังนกถ้ำก็ต่างประสบกับภาะหนักเช่นกัน จนส่งผลกระทบต่อการประมูลรังนกอีแอ่นธรรมชาติตามเกาะถ้ำ  ได้มีการละทิ้งการประมูลไป จน องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ต้องออกมาตรการเข้าไปเฝ้าระวังรักษารังนกอีแอ่น ปัจจุบันรังนกอีแอ่นธรรมชาติมีอยู่  9 จังหวัด มี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร  สุราษฎร์ธานี  พัทลุง  กระบี่  ตรัง  พังงา  และ จ.สตูล

แหล่งข่าว กล่าวอีกว่า ในช่วงรังนกอีแอ่นบูมลานประมูลรังนกอีแอ่นบ้านมีอยู่ประมาณ 16 ลาน โดยลานประมูลตั้งแต่ จ.ปัตตานี หาดใหญ่ จ.สงขลา สุราษฎร์ธานี ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ ระยอง และกรุงเทพ จะเป็นรายใหญ่ มี 3 ลาน โดยแต่ละลานจะมีการประมูลรับซื้อขายเฉลี่ยประมาณกว่า 1 ตัน หรือประมาณกว่า 1,000 กก. / เดือน ภาพรวมประมาณ  16 ลาน เท่ากับกว่า 16 ตัน หรือประมาณกว่า  16,000 กก. / เดือน โดยเฉลี่ราคา 17,000 บาท / กก. จะมีเงินหมุนสะพัดประมาณ 272 ล้านบาท / เดือน รวม 12 เดือนประมาณ กว่า 3,200 ล้านบาท / ปี  แต่เมือหลายปีก่อนราคา 40,000 – 45,000 บาท / กก. จะเป็นเม็ดเงินจำนวนมากที่ได้หายไป

“ตอนนี้ได้กระทบต่อรังนกอีแอ่นบ้านผู้ลงทุนรังนกอีแอ่นบ้านรายใหม่ต่างชะลอตัว”

แหล่งข่าว กล่าวอีกว่า ส่วนรังอีแอ่นธรรมชาติหรือรังนกถ้ำ ก็มีผลกระทบเช่นกัน จนมีการปล่อยเกาะรังนกอีแอ่นทิ้ง ไม่มีผู้ประกอบการเข้าแข่งขันการประมูลสัมปทาน ได้ถูกปล่อยทิ้งอยู่หลายจังหวัด เช่น  จ.สุราษฎร์ธานี ชุมพร และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ รวมประมาณ 12 เกาะ  ส่วนที่ยังไม่หมดสัมปทานจำนวน 6 จังหวัด เช่น จ.พัทลุง สตูล  ฯลฯ รังนกอีแอ่นธรรมชาติ จะไม่มีการเข้าสู่ลานประมูลรังนกอีแอ่นบ้าน จึงไม่มีตัวเลขเงินหมุนสะพัด แต่เป็นเงินจำนวนมากกว่ารังนกอีแอ่นบ้านมาก      
ทางด้าน นายอำนาจ พฤกษ์พิกุล มัคคุเทศก์อาชีพ จ.สงขลา เปิดเผยว่า รังนกอีแอ่น เป็นที่นิยมบริโภคจากนักท่องเที่ยวเชื้อสายจีน มาเลเซีย สิงคโปร์ และจีนมาก โดยแหล่งการค้าการท่องเที่ยว อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มีร้านรังนกอีแอ่นจำนวนหลายร้านที่สร้างความเชื่อมั่นที่นิยมเข้าไปใช้บริการ

“รังนกอีแอ่นที่ทำยอดขายได้ดี คือแหล่งท่องเที่ยวการค้าเมืองหาดใหญ่ และ จ.ภูเก็ต แต่จ.ภูเก็ต จะเป็นรายใหญ่กว่ามาก เนื่องจากนักท่องเที่ยวจากประเทศจะเข้ามามากว่าหาดใหญ่สงขลา สำหรับที่หาดใหญ่สงขลา จะมีการจำหน่ายประมาณ 200 บาท / ถ้วย นักท่องเที่ยวมาเลเซียต่อกรุปทัวร์ ประมาณ 30 คน จะนิยมบริโภครังนกอีแอ่นประมาณ 10 คน”

นายอำนาจ กล่าวอีกว่า นอกนั้นชาวมาเลเซีย ยังนิยมซื้อกลับบ้านอีกด้วย ประเภทที่แปรรูปบรรจุภัณฑ์ ขนาดราคา 2,000 บาท และ 3,000 บาท / กล่อง