กรณีถูกตีหัวได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังช่วยเหลือตำรวจ จับตัวชายอาการคลุ้มคลั่งจะทำร้ายผู้อื่น
วันนี้ (วันพฤหัสบดีที่ 30 กันยายน 2564) เวลา 14.30 น. ณ บ้านเลขที่ 40/95 หมู่ 4 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ ดร.โฆสิต สุวินิจจิต คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ นายเกิดโชค เกษมวงศ์จิตร รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ นางสาวจิฬาภรณ์ ตามชู กฤษณสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำเลย ในคดีอาญา ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ลงพื้นที่มอบเงินเยียวยาแก่ผู้เสียหาย กรณี นายทิเบต ขอสงวนนามสกุล อายุ 18 ปี (ผู้บาดเจ็บ) พลเมืองดีถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังช่วยเหลือตำรวจจับตัวชายอาการคลุ้มคลั่งจะทำร้ายผู้อื่น ซึ่งเหตุเกิดเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2564
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2564 กระทรวงยุติธรรม โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ได้มีการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา กรุงเทพมหานคร 3 ครั้งที่ 5/2564 และคณะกรรมการฯ ได้มีมติพิจารณาจ่าย
ค่าตอบแทนฯ ตามพระราชบัญญัติ
ค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2559 ให้แก่ นายทิเบต ขอสงวนนามสกุล อายุ 18 ปี (ผู้บาดเจ็บ) พลเมืองดี เป็นค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ จำนวน 120,815 บาท และค่าตอบแทนความเสียหายอื่น จำนวน 50,000 บาท รวมพิจารณาจ่ายเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 170,815 บาท
นายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรม โดยกรมคุ้มครองสิทธิ และเสรีภาพ พร้อมให้ความช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อหรือผู้เสียหายในคดีอาญา เพื่ออำนวย ความยุติธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นกับสังคมไทย ตามนโยบายของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม โดยสามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่ ส่วนกลาง (กรมคุ้มครองสิทธิ และเสรีภาพ) และ ส่วนภูมิภาค (สำนักงานยุติธรรมจังหวัด ทุกแห่งทั่วประเทศ) หรือติดต่อที่ สายด่วนยุติธรรม โทร. 1111 กด 77
ทั้งนี้ "หากท่านตกเป็นเป็นเหยื่ออาชญากรรม ถูกทำร้ายถึงแก่ชีวิต ร่างกาย โดยการกระทำผิดอาญาของผู้อื่น โดยตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง มีสิทธิได้รับการเยียวยา” โดยสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ ส่วนกลาง (กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ) ส่วนภูมิภาค (สำนักงานยุติธรรมจังหวัด ทุกแห่งทั่วประเทศ) หรือสอบถามได้ที่ สายด่วนยุติธรรม โทร. 1111 กด 77"
“เราพร้อมยืนเคียงข้าง “ผู้บริสุทธิ์” และจะไม่หยุดช่วยเหลือ เพื่อความยุติธรรม”