วันที่ 20 มิถุนายน 2566 นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายวิฑูรย์ นวลนุกูล รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายวรงค์ แสงเมือง รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน พร้อมด้วยผู้บริหารกรมการพัฒนาชุมชน คณะกรรมการและที่ปรึกษาสหกรณ์ออมทรัพย์กรมการพัฒนาชุมชน จำกัด ตลอดจนเจ้าหน้าที่และสมาชิกสหกรณ์ฯ และมีรองศาสตราจารย์พิเศษ พลโท ดร.วีระ วงศ์สรรค์ ประธานกรรมการดำเนินการชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย จำกัด นายปัณฐวิชญ์ มุ่งสมัครศรีกุล ผู้อำนวยการ สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย พ.ต.วิรัตน์ สายคำจันทร์ กรรมการและผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ พัน.สห.11 จำกัด เข้าร่วมงานครบรอบ 55 ปี สหกรณ์ออมทรัพย์กรมการพัฒนาชุมชน “พลังแห่งความร่วมมือ มุ่งสู่เป้าหมายร่วมกัน” โดยมี ดร.ขนิฏฐา กาญจนรังษีนนท์ ประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์กรมการพัฒนาชุมชน จำกัด ให้การต้อนรับ ณ ห้องประชุม 3003 ชั้น 3 กรมการพัฒนาชุมชน ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ
นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า วันนี้ก็เดินทางมา 55 ปีแล้ว ถือว่าวันนี้เป็นปีที่สำคัญของสหกรณ์กรมการพัฒนาชุมชนที่แท้จริง เพราะว่าได้เป็นสหกรณ์ดีเด่นระดับชาติ ซึ่งได้ไปรับรางวัลในวันพืชมงคล ปี 2566 ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นความตั้งใจจริงของประธานคณะกรรมการสหกรณ์และสมาชิกสหกรณ์ทุกท่าน รวมถึงเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ผลักดัน ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนา การบริหารคน การบริหารเงิน การวางแผนกลยุทธ์ต่าง ๆ เพื่อที่จะทำให้สามารถได้รับรางวัลได้ ซึ่งไม่ใช่ผลงานปีเดียวเป็นผลงาน 3 ปีต่อเนื่องกันมา เป็นการวางแผนมาอย่างยาวนานเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมาย มีค่าคะแนนตัวชี้วัดต่าง ๆ ที่ประสบความสำเร็จ สุดท้ายขอให้รักษามาตรฐานนี้ไว้ และทำดียิ่งขึ้นไป ต่อยอดในสิ่งที่ดี ๆ เพื่อที่จะทำให้สหกรณ์ออมทรัพย์กรมการพัฒนาชุมชนเป็นที่พึงพอใจของสมาชิก ซึ่งเป็นข้าราชการของกรมการพัฒนาชุมชน ทำให้สมาชิกสหกรณ์ฯ มีความเชื่อมั่น ไม่ว่าจะเรื่องสินเชื่อสวัสดิการเพื่อให้คุณภาพชีวิตของสมาชิกดีขึ้น ในคณะกรรมการชุดนี้ ซึ่งได้มีการวางมาตรฐานที่ดี เพื่อที่จะให้คนที่มาสานต่อนำมาตรฐานที่วางไว้อย่างดีไปสืบสานต่อไป
ดร.ขนิฏฐา กาญจนรังษีนนท์ ประธาน สอ.พช. กล่าวว่า การเดินทางสู่การเป็นสหกรณ์ดีเด่นแห่งชาติของสหกรณ์ออมทรัพย์กรมการพัฒนาชุมชน จำกัด ได้มีความคิดริเริ่มในการปรับปรุงและพัฒนาการบริหารจัดการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการแก่สมาชิก มีการดำเนินงานของสหกรณ์ผ่านโครงการที่สำคัญ โดยเป็นโครงการที่มุ่งเน้นนวัตกรรม การนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการให้บริการ ได้แก่การตรวจสอบข้อมูลส่วนตัวของสมาชิกผ่านระบบ Application และผ่านช่องทางเว็บไซต์ ทำให้สมาชิกสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ตลอด 24 ชั่วโมง อาทิ ข้อมูลหุ้น เงินฝาก เงินกู้ การค้ำประกัน ปันผล เงินเฉลี่ยคืน คำนวณเงินงวดของเงินกู้ การส่งเสริมนวัตกรรมในองค์กร เพื่อเป็นองค์กรที่มีขีดสมรรถนะสูง บุคลากรทุกคนมีผลสัมฤทธิ์ในการทำงานที่ดี มีวัฒนธรรมนวัตกรรมในองค์กร เพื่อประโยชน์ของสมาชิก โดยมีเป้าหมายผลงานนวัตกรรมภายในองค์กร ปีละ 8 ผลงาน อาทิ Smart Bill ทำให้ลดระยะเวลาในการจัดทำใบสำคัญรับเงิน และการจัดส่งเอกสารให้แก่สมาชิก สามารถลดค่าใช้จ่ายได้เดือนละ 2,390 บาทต่อเดือน การใช้ QR code แจ้งเปลี่ยนที่อยู่ ทำให้ลดระยะเวลาในการจัดทำหนังสือแจ้งสมาชิกที่ปกติในการตรวจสอบทุกปี และรวบรวมข้อมูลกลับมาปรับทะเบียนสมาชิก มีการพัฒนาโปรแกรมตรวจสอบคะแนนเครดิต เพื่อลดความเสี่ยงด้านการบริหารสินเชื่อให้สหกรณ์ มีหลักการวิเคราะห์ความเสี่ยงของลูกหนี้สินเชื่ออย่างเป็นระบบ ทำให้สมาชิกมีเครื่องมือในการตรวจสอบคะแนนเครดิตของตนเอง และสามารถวางแผนการบริหารการเงินให้เหมาะสม
ทั้งนี้ ในการบริหารจัดการสหกรณ์ออมทรัพย์กรมการพัฒนาชุมชน จำกัด มีการจัดทำแผนยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการ เพื่อเป็นกรอบทิศทางในการบริหารงาน มีการนำแผนไปปฏิบัติและติดตาม มีการประเมินความพึงพอใจผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งสมาชิก ฝ่ายจัดการ คณะกรรมการเพื่อปรับปรุงการให้บริการอย่างต่อเนื่อง มีการเปิดรับสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นทุกปี มีการอบรมถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับบุคลากรอย่างต่อเนื่อง รวมถึงให้การศึกษาอบรมเกี่ยวกับการประกอบอาชีพแก่สมาชิก อาทิ การปลูกสมุนไพรรักษาโรค การประดิษฐ์ดอกไม้จากใบเตย การฝึกอาชีพสกรีนเสื้อยืด ฯลฯ รวมทั้งสหกรณ์ได้จัดและจ่ายสวัสดิการให้แก่สมาชิกและครอบครัวสมาชิก ทั้งด้านการศึกษา ด้านการสงเคราะห์ ด้านการประกันภัย/ประกันชีวิต การรักษาพยาบาลและด้านอื่นๆครบทุกด้าน
รวมทั้ง สหกรณ์ฯ ยังมีการเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อประโยชน์ต่อชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม มีการจ่ายเงินเพื่อกิจกรรมดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านกิจกรรมด้านศาสนา จริยธรรม วัฒนธรรม การแสดงความจงรักภักดี การศึกษา กีฬา การช่วยเหลือป้องกันบรรเทาสาธารณภัย อาทิ การถวายผ้ากฐินพระราชทาน ทำบุญทอดกฐิน และผ้าป่าสามัคคี สมทบทุนก่อสร้าง “อาคารปฏิบัติธรรมและรับแขกสะพานบุญ” มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กยากจน เลี้ยงอาหารกลางวันเด็กในโรงเรียน สนับสนุนโครงการสหกรณ์ปันน้ำใจให้น้องด้อยโอกาส ฯลฯ ตามสโลแกน “เพราะเราจะไม่หยุดพัฒนา และก้าวไปข้างหน้า เพื่อมวลสมาชิก”
ต่อมา เวลา 13.00 – 15.00 น. มีการเสวนาในหัวข้อ “โมเดลธุรกิจแบบสหกรณ์กับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจฐานราก” ผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วย 1) นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม ประธานกรรมการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย 2) รองศาสตราจารย์ ดร.วิจิตต์ศรี สงวนวงศ์ ภาควิชาสหกรณ์ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 3) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.รังสรรค์ ปิติปัญญา รองประธานกรรมการสหกรณ์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จำกัด และรองประธานกรรมการชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย จำกัด
ADVERTISEMENT