เกาะสมุย ติดอันดับ 7 ของโลก เกาะท่องเที่ยวยอดเยี่ยมแห่งปี 64 ส่วนเอเชียอันดับ 2 รองหมู่เกาะอันดามัน อินเดีย

นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า นิตยสารเทรเวล แอนด์ เลเชอร์ (Travel and Leisure) เป็นนิตยสารด้านการท่องเที่ยวทั่วโลกชื่อดังของอเมริกา ได้รายงานผลการสำรวจThe World’s Best Awards 2021 เกาะ เมือง โรงแรม สายการเดินเรือ สนามบิน และอื่นๆ ดีที่สุดของโลกประจำปี 2564 เมื่อวันที่ 10 ก.ย.64 ที่ควรไปเยือนประเภทเกาะปรากฎว่า เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้รับประกาศให้เป็นเกาะท่องเที่ยวที่ดีที่สุดอันดับ 7 ของโลกจากทั้งหมด 25 เกาะ และเป็นเกาะท่องเที่ยวดีที่สุดอันดับ 2 ของเอเชียจาก 5 เกาะ ถือเป็นข่าวดีของประเทศไทยและจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่เกาะสมุยเป็นเกาะท่องเที่ยวแห่งเดียวของไทยติดอันดับโลกในปีนี้ ที่มาจากผลสำรวจความเห็นนักเขียนด้านการท่องเที่ยวทั่วโลกมีการให้คะแนนตั้งแต่วันที่ 11 ม.ค.ถึงวันที่ 10 พ.ค.64 รวมทั้งประสบการณ์เดินทางตลอดระยะเวลา 3 ปี และความคิดเห็นจากผู้อ่านเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ชายหาด อาหาร ความเป็นมิตรและมูลค่าโดยรวม ซึ่งเกาะสมุย ถูกประกาศว่าเป็นเกาะที่มีชายฝั่งทะเลที่สวยงามและน้ำทะเลใสราวคริสตัลดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มา

นายวิชวุทย์ กล่าวว่า ผลคะแนนสำรวจเกาะท่องเที่ยวโลกที่ 1 กับ 2 ได้แก่เกาะมิลอสและเกาะโฟเลกันดรอส กรีซ 95.50 คะแนนกับ 95.47 คะแนน อันดับ 3 เกาะเซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์ 91.69 คะแนน อันดับ 4 เกาะมาเดรา โปรตุเกส 91.56 คะแนน อันดับ 5 หมู่เกาะอันดามัน อินเดีย 91.24 คะแนน อันดับ 6 เกาะซิซิลี อิตาลี 90.49 คะแนน และอันดับ 7 เกาะสมุย ประเทศไทย 90.34 คะแนน ฯลฯ ส่วนเกาะท่องเที่ยวเอเชีย อันดับ 1 หมู่เกาะอันดามัน อินเดีย 91.24 คะแนน อันดับ 2 เกาะสมุย 90.34 คะแนน อันดับ 3 บาหลี อินโดนีเซีย 90.32 คะแนน อันดับ 4 มัลดีฟส์ 89.55 คะแนน อันดับ 5 ปาลาวัน ฟิลิปปินส์ 86.63 คะแนน ซึ่งเกาะสมุย ถูกระบุว่า เป็นเกาะสวรรค์อันเขียวชอุ่มในอ่าวไทยได้กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2564 โดยไม่มีการกักกันนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนมาแล้วในรูปแบบสมุยพลัส ที่สามารถเดินทางไปได้ทั้งเกาะพะงันและเกาะเต่า

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงมีพระท่ากระดาน พระองค์ได้รับมาจากการทูลเกล้าถวาย

น้อยคนนักที่จะรู้ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงมีพระท่ากระดาน

อาจารย์โกร่ง ศรีสวัสดิ์ เจ้าของรังพระท่ากระดานรายใหญ่ของไทย กล่าวว่า น้อยคนนักที่จะรู้ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงมีพระท่ากระดาน พระองค์ได้รับมาจากการทูลเกล้าถวายในคราวที่พระองค์เสด็จเมืองกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2506

โดยนายพริ้ง กลีบบัว ทูลเกล้าถวาย 4 องค์ นายเสียม รุ่งสว่าง ชาวเมืองกาญจนบุรี นายกิตติ เหลืองไพบูลย์ เจ้าของร้านวลีพร เป็นนักสะสมพระเครื่องร่วมทูลเกล้าถวายพระท่ากระดานด้วยเช่นกัน พระท่ากระดานกรุศรีสวัสดิ์เป็นพระเนื้อตะกั่วสนิมแดง ฤๅษีตาไฟสร้างแจกทหารเจ้าเมืองท่ากระดานไปสู้รบกับข้าศึก ฟันแทงไม่เข้า ได้รับฉายา “ขุนศึกแห่งลุ่มน้ำแม่กลอง” พระแท้ไม่แท้เช็คได้กับ อ.โกร่งโดยตรงได้เลย โทร 0909862595

ผู้ว่านนทบุรี รับมอบน้ำใจจากศิษย์เก่ารัฐศาสตร์จุฬา รุ่น 33

เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2564 ดร.สุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ได้รับมอบเครื่องอุปโภค บริโภคประกอบด้วย ข้าวกล่อง เครื่องวัดออกซิเจน ปรอทวัดไข้ และอื่นๆ จากคณะศิษย์เก่ารัฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รุ่นที่ 33 เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยจาก COVID-19 ในจังหวัดนนทบุรี

“มาดามสุกัญญา” ทุ่มสุดตัวดัน “ควายเผือกล้านนา” ขึ้นไทยลีก

ตั้งสื่อฯ นั่งที่ปรึกษาสโมสรฯ…..

“มาดามญา” สุกัญญา สุขมามอญ ประธานสโมสรฟุตบอล
“ควายเผือกล้านนา” เชียงใหม่คันทรี ฟุตบอลคัพ ทีมระดับ T4 สโมสรฟุตบอลป้ายแเดง พร้อมให้การสนับสนุนเด็กและเยาวชนที่รักกีฬาฟุตบอลให้ได้มีโอกาสแสดงความสามารถ และพัฒนายกระดับการเล่นสู่ระดับอาชีพ ล่าสุด เปิดตัวทีมบอร์ดบริหารสโมสรฯ ที่พร้อมให้การสนับสนุนทีมสู่ดับสูงสุดของประทศ โอกาสนี้ สโมสรฯได้แต่งตั้ง นายรัชฏะ สมรทินกร บรรณาธิการบริหารสำนักข่าว Ratchata News ,The Flows Thailand , เจ้าของ นสพ.CHIANGMAI TALKให้เป็นประธานที่ปรึกษาสื่อฯ ประชาสัมพันธ์

นายรัชฏะ เผยว่า ขอบคุณมาดามญา ที่ให้โอกาสผมเข้ามาช่วยงานด้านประชาสัมพันธ์ ควายเผือกล้านนา เป็นทีมฟุตบอลที่น่าจับตามาแรง กล้าทุ่มทุน ส่งเสริมสนับสนุนเยาวชนในพื้นที่อยากให้จับตามองทีมฟุตบอลนี้มาแรงของจังหวัดเชียงใหม่ ยอดทีมฟุตบอลของลีกชั้นนำประเทศไทยต่อไป

กราบขอบพระคุณท่านประธานสโมสร และท่านผู้จัดการสโมสรฯ..ที่ได้กรุณาให้เกียรติผมอย่างสูงในการเชิญผมมารับใช้สโมสร “ควายเผือกล้านนา” เชียงใหม่คันทรี ฟุตบอลคัพ

ส.ส.ฐิติภัสร์  (โอ๋) ร่วมนิตินิรันดร์คอนโดนำทีมแพทย์ตรวจหาเชื้อโควิคเชิงรุก

วันเสาร์ที่ 11 กย 64 นี้ ทีม ..ฐิติภัสร์  (โอ๋) โชติเดชาชัยนันต์  พรรคพลังประชารัฐ ได้นำทีม แพทย์และเจ้าหน้าที่จาก รพ. กล้วยน้ำไทร่วมกับ

คุณวิภาดา ดุณพันธ์ ผู้จัดการนิติบุคคลอาคารชุดฯ เข้ามาตรวจ “ATK” เพื่อคัดกรองเชื้อโควิคเชิงรุกฟรี ให้แก่ผู้ที่พักอาศัยอยู่ในอาคารนิรันดร์คอนโดซิตี๊ ซอยลาดพร้าว 101แยก36

รวมทั้งประชาชนที่พักอาศัยอยู่โดยรอบด้วย ณ บริเวณสโมสรของคอนโด โดยมีผู้เข้ารับการตรวจประมาณ 500 คน หลังจากการตรวจเชิงรุกแล้วทุกคนยังได้รับข้าวกล่องจากผู้ที่ร่วมให้การสนับสนุนอีกด้วย

ความปาฏิหารย์ของพระท่ากระดาน

พุทธคุณที่เป็นที่เลื่องลือของพระท่ากระดาน จากอดีตจนถึงปัจจุบันคือความอยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาด มีตัวอย่างที่บันทึกไว้ในหนังสือที่อยู่ในพิพิธภัณท์ เช่น


1 นายอำเภอบางกอกน้อยในสมัยก่อนนั้น มีการทดลองพระท่ากระดานที่วัดอมรินทร์ เขต บางกอกน้อย โดยนัดให้ชาวบ้านนำพระเครื่องมาให้เค้าทดลองยิง หากเค้ายิงไม่ออก3นัด จะขอเช่าในราคา 1,000บาท วันหนึ่งนายอำเภอขอให้ชายชราปลดพระท่ากระดานในคอให้เค้าทดลอง ครั้งแรกใส่พระลงในกระป๋องนม แขวนไว้ที่ต้นไม้ใหญ่ ระยะห่าง3เมตร แล้วยิงด้วยปืนพกออโตเมติค นัดแรกกระสุนไม่ออก เค้าจึงบรรจุกระสุนนัดใหม่ แล้วใส่พระลงในกระป๋องนมเหมือนเดิมแต่เหลือระยะห่างแค่ช่วงแขนเท่านั้น แล้วลั่นไกครั้งที่2 ยังคงได้ยินแต่เสียงไกไม่มีกระสุนออกเช่นเดิม ครั้งที่3 นายอำเภอเอ่ยปากขอขมาพระเสียงดัง แล้วบรรจุกระสุนนัดที่3 คราวนี้ได้ยินเสียง “แช็ก” กระสุนยังคงไม่ออกเหมือนเดิม

ท่ามกลางความตะลึงของทุกคนที่อยู่ในที่นั้น นายอำเภอขอเช่าพระจากชายชราแต่ชายชราไม่ให้ ให้ทดลองยิงเท่านั้น
พระท่ากระดานองค์นั้นมีลักษณะทรวดทรงค่อมๆหรืองอเล็กน้อย จึงทำให้พระพักตร์ก้มง้ำมากกว่าธรรมดาซี่งเข้าใจว่าน่าจะเป็นมาแต่ในกรุ เนื้อตะกั่วเถื่อน สนิมแดงสึกหรอบางส่วน แต่พระพักตร์ยังสมบูรณ์ชัดเจน

อ.โกร่ง ศรีสวัสดิ์ โทรปรึกษาได้ 0909862595

2.กรณีของ พล.ต.ท. ประชา บูรณธนิต ในคืนวันที่2 ต.ค.2495 นายพลประชาพร้อมภรรยาเดินทางจากนครปฐมเข้ากรุงเทพโดยรถยนต์ มี.ส.ต.ต. ชาญ เป็นคนขับ ขณะที่รถวิ่งมาถึงสามพรานประมาณ2ยามเศษ มีคนร้าย6-7คนใช้ไม้สูงขวางถนน ทำให้ต้องหยุดรถทันที คนร้ายกรูเข้ามาเอาปืนขู่ นายพลชักปืนยิงต่อสู้จึงเกิดการยิงต่อสู้กันระยะเผาขน คนร้ายถูกกระสุนหลายนัดและหลบหนีไป กระสุนถูกนายพล3จุด ที่หัวเข่า หน้าแข้งและแขน แต่ปรากฎเพียงรอยผิวหนังฟกช้ำ ส่วนภรรยาไม่ถูกกระสุนแม้แต่นัดเดียว แต่คนขับถูกกระสุนหลายนัดเสียชีวิต ในคืนเกิดเหตุนายพล ประชา ห้อยพระท่ากระดานอยู่ในคอ

  1. และในกรณึที่3 เหตุการณ์ปาฎิหารย์เกิดขึ้นกับอ.โกร่ง ศรีสวัสดิ์เองเมื่อ10กว่าปีที่แล้ว ในงานศพที่เขตน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น จ.กาญจนบุรี
    มีคนร้ายลอบยิง อ.โกร่ง ศรีสวัสดิ์ด้วยปืนลูกซอง เข้าที่หัวหล่นคาโต้ะ แต่อ.โกร่ง ศรีสวัสดิ์ไม่เป็นไรเลย แม้แต่เลือดซักหยดก้อไม่มี ในขณะนั้น อ.โกร่ง ศรีสวัสดิ์แขวนพระท่ากระดานกรุศรีสวัสดิ์เช่นกัน และนี่คือปาฏิหารย์ของพระท่ากระดานกรุศรึสวัสดิ์

ประสาน บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ 3 หน่วยงานระดับประเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี – บริษัท ณุศา ซีเอสอาร์ จำกัด – บริษัท ฮานนาบิส โกลบอล จำกัด

ประกาศความร่วมมือสร้างเมืองกัญชาที่มีระบบนิเวศครบวงจรมากที่สุด

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ,บริษัท ณุศา ซีเอสอาร์ จำกัด,บริษัท ฮานนาบิส โกลบอล จำกัด 3 ภาคส่วนชั้นแนวหน้าของประเทศ ประกาศ บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ในการสร้างเมือง กัญชง กัญชา ที่มีระบบนิเวศครบวงจรมากที่สุด

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี นำโดย
ศาสตราจารย์ ดร.หนึ่ง เตียอำรุง คณบดีสำนักวิชาเทคโนโลยีการเกษตร มทส.
รองศาสตราจารย์ ดร.อนันต์ ทองระอา รักษาการอธิบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
ศ.เกียรติคุณ ดร.นันทกร บุญเกิด สำนักวิชาเทคโนโลยีการเกษตร
นายแพทย์ จักรพงศ์ เอี้ยวตระกูล โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
ภาคเอกชนอย่าง บริษัท ณุศา ซีเอสอาร์ จำกัด – บริษัท ฮานนาบิส โกลบอล จำกัด

นำโดย คุณอุดม หวัง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ณุศา ซีเอสอาร์ จำกัด
นายวิษณุ เทพเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ณุศา ซีเอสอาร์ จำกัด
นางศิริญา เทพเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ณุศา ซีเอสอาร์ จำกัด
นายสมพงษ์ หม่อโป๊ะกู่ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ณุศา ซีเอสอาร์ จำกัด
และ ผู้บริหารจาก บริษัท ฮานนาบิส โกลบอล จำกัด

3 หน่วยงานยักษ์ใหญ่ระดับประเทศได้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ( MOU) อย่างเป็นทางการ ที่ My Ozone เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา เพื่อประกาศความร่วมมือในการสร้างให้ My Ozone เป็นเมืองกัญชาที่มีระบบนิเวศครบวงจรมากที่สุด โดย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ให้ความมือในด้านการศึกษา วิชาการ การวิจัย ภาคเอกชนอย่าง บ.ณุศา ซีเอสอาร์ฯ และ บ.ฮานนาบีส โกลบอลฯ ผลักดันเรื่องการลงทุน และการเปิดตลาดต่างประเทศให้ก้าวไปได้ไกลในนานาประเทศทั่วโลก การร่วมมือผลักดัน และต่อยอดให้กัญชาและกัญชง เป็นพืชเศรษฐกิจใหม่แห่งอนาคตของไทยในครั้งนี้
รศ. ดร.อนันต์ ทองระอา รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “ทั้งสามฝ่ายมีความประสงค์ที่จะร่วมมือกันวิจัยพัฒนาและคิดค้นนวัตกรรมให้เกิดเป็น “คลัสเตอร์”ระบบนิเวศด้านกัญชา กัญชง การผลักดันเทคโนโลยี และ นวัตกรรมทางการแพทย์สาธารณสุข โดยให้ประชาชนเข้าถึงได้อย่างปลอดภัย ส่งเสริมนวัตกรรมศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์” โดยเริ่มตั้งแต่การปลูก การพัฒนาสายพันธุ์คุณภาพที่ให้ปริมาณสารสำคัญสูง การสกัดกลั่นสารสำคัญ การสร้างมาตรฐานการผลิต การใช้ประโยชน์ของพืชกัญชงทางเศรษฐกิจ ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่จาก กัญชง การคิดค้นตำรับยาและการใช้สารสำคัญในการพัฒนาคุณภาพวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัย การพัฒนาต่อยอดทางด้านเทคโนโลยีการแพทย์และการสาธารณสุขเพื่อรองรับอุปสงค์และอุปทาน การถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการผลิตและบริการด้านอุตสาหกรรมทางการแพทย์ การสร้างระบบนิเวศด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่ครบวงจร อันเป็นการสร้างความเจริญก้าวหน้าในทางการแพทย์ การแพทย์แผนไทย แพทย์แผนไทยประยุกต์ การแพทย์ทางเลือก หมอพื้นบ้าน ให้ความร่วมมือในการดูแลและรักษาคนไข้ร่วมกัน พร้อมด้วยการจัดทำสรุปสถิติในการให้การรักษาให้เกิดการพัฒนาและต่อยอดทางการแพทย์ให้กับประเทศไทย และสนับสนุนส่งเสริมความมั่นคงทางด้านกัญชงทางเศรษฐกิจ และส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวของประเทศโดยรวม ซึ่งสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนประเทศด้วย 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายหลัก
คุณศิริญา เทพเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ณุศา ซีเอสอาร์ จำกัด ได้กล่าวว่า
“ทางณุศาศิริฯ เรามีแนวคิดในเรื่องการพัฒนา กัญชง กัญชา ทั้งเพื่อสุขภาพ และเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ผ่านการถ่ายทอดองค์ความรู้ งานวิจัย จากทุกมุมมอง ซึ่งในอนาคตจะทำให้เกิดการเอื้อประโยชน์ในทางการแพทย์ ที่จะดึงศาสตร์การใช้ กัญชง กัญชา ครบทุกมิติผลักดันให้ประเทศไทยเราเป็น Medical Hub ของโลก การจับมือกันครั้งนี้ถือเป็นเฟสแรก ในการร่วมงานวิจัย ที่จะนำสาร CBD (Cannabidiol) ที่มีอยู่ในกัญชง กัญชา ที่มีคุณสมบัติเรื่องลดความวิตกกังวล ลดความตึงเครียดโดย คุณหมอ จักรภพ เอี้ยวตระกูล ซึ่งเป็นหัวหน้าโครงการวิจัยกัญชาทางการแพทย์ เป็นที่ปรึกษาของ โรงพยาบาลพานาซีของเรา ได้ใช้ สารตัวนี้ในการรักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคเครียด ทำให้นอนไม่หลับ บางคนถึงขั้นติดยานอนหลับ เราสามารถใช้สาร CBD นี้มาบรรเทาอาการของผู้ป่วยได้ และที่สำคัญสารตัวนี้ยังเป็นสารที่ลดการอักเสบ ซึ่งก็จะทำให้สามารถนำไปใช้ร่วมกับการรักษาโควิดได้ เราจึงเล็งเห็นว่าเราจะนำผลงานวิจัยนี้ไปต่อยอดได้อีกเยอะมากๆ ทั้งนี้การจับมือร่วมกันกับหน่วยงานที่เป็นเอกในด้านต่างๆนี้ ก็เพื่อผลักดันและต่อยอดให้กัญชาและกัญชง เป็นพืชเศรษฐกิจใหม่แห่งอนาคตของไทย เราจึงเกิดการร่วมมือกันของ 3 พันธมิตรในครั้งนี้ เรียกได้ว่า ครบวงจรมากที่สุด เปรียบได้ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เพราะเราเริ่มจาก ผนึกกำลังและระดมผู้เชี่ยวชาญจากทุกภาคส่วน เพื่อสร้างนวัตกรรมกัญชา ตั้งแต่การถ่ายทอดเทคโนโลยีการปลูก การพัฒนาสายพันธ์ การวิจัย เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ทั้งแผนไทยและแพทย์ทางเลือก โดยขับเคลื่อนผ่านเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน เพื่อสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรและเพิ่มมูลค่าให้กับพื้นที่ และที่สำคัญ ยังร่วมมือในการผลิตสารสกัดสำคัญ พร้อมการตรวจสอบคุณภาพ ตลอดจนให้ประชาชนเข้าถึง กัญชา และ กัญชง ได้อย่างปลอดภัยตามมาตรฐาน”

คุณอุดม หวัง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ณุศา ซีเอสอาร์ จำกัด และผู้บริหารจาก บริษัท ฮานนาบิส โกลบอล จำกัด ได้กล่าวว่า “ปัจจุบัน กัญชง และกัญชา กำลังได้รับการพัฒนาในทุกๆด้าน ทั้งด้านสาธารณสุข การแพทย์ และอื่นๆอีกมากมายที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน บริษัทเรามีศักยภาพในด้านการเปิดตลาดไปสู่ต่างประเทศ เรามองเห็นว่า ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการนำสารที่ผลิตได้จาก กัญชา กัญชง นอกจากในด้านการแพทย์ เรายังสามารถนำไปค้นคว้า วิจัย สร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ ได้อีกมากมาย นอกจากเราจะผลิตเพื่อตลาดในประเทศไทย เรายังสามารถเปิดไปสู่ตลาดโลกได้อีกทั่วโลก จึงอยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการร่วมมือในครั้งนี้ครับ”

บันทึกความร่วมมือ โครงการนำร่องการเชื่อมโยงข้อมูลและส่งต่อข้อมูลผู้เสียหายเพื่อให้คำปรึกษาแนะนำช่วยเหลือผู้เสียหายและครอบครัว ระหว่าง ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง กับสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ

วันนี้ (๖ กันยายน ๒๕๖๔) เวลา ๑๒.๓๐ นาฬิกา นางอโนชา ชีวิตโสภณ อธิบดีผู้พิพากษา ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง พันตำรวจเอกกฤษฎางค์ จิตตรีพล ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ได้ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) โครงการนำร่อง การเชื่อมโยงข้อมูลคดีและส่งต่อข้อมูลผู้เสียหายเพื่อให้คำปรึกษาเพื่อแนะนำช่วยเหลือผู้เสียหายและครอบครัวกลาง ระหว่าง ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางและสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ โดยมีเจตจำนงที่จะร่วมมือและสนับสนุนการให้คำปรึกษาเพื่อแนะนำช่วยเหลือผู้เสียหายและครอบครัว ให้ได้รับการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพตามกฎหมาย อำนวยความสะดวกในการเชื่อมโยงข้อมูลคดีเยาวชนและครอบครัวระหว่างหน่วยงานในการให้คำปรึกษาเพื่อแนะนำช่วยเหลือผู้เสียหาย และครอบครัวในโอกาสแรกที่มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจ ในรูปแบบการประชุมทางไกลผ่านจอภาพ (Video Conference) หรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอื่น และแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน เกิดความสะดวก รวดเร็ว ผู้เสียหายและครอบครัวได้รับการคำปรึกษา แนะนำและช่วยเหลือเยียวยาในทันทีสอดคล้องกับนโยบายประธานศาลฎีกา ณ ห้องประชุมใหญ่ ชั้น ๕ อาคารศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เขตจตุจักรกรุงเทพมหานคร

การนี้ ได้รับเกียรติจาก นางอุไรรัตน์ น้อยสุวรรณ รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง นายภัทรศักดิ์ ศิริสินธว์ รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง นางวิรา ยากะจิ ณ พิกุล รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง นางสาวอัมภัสชา ดิษฐอำนาจ เลขานุการศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง และผู้แทนหน่วยงานเข้าร่วมในพิธีดังกล่าว

รัฐมนตรีเกษตรถึงได้เสียงโหวตไว้วางใจสูงสุด

วันนั้นเป็นวันที่4 ก.ย.ตรงกับวันลงมติไม่ไว้วางใจในสภาฯ.
บ่ายวันนั้นชาวบ้านหมู่บ้านพฤกษา 27 ตำบลคลองอุดมชลจร อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมสูงมากทั้งหมู่บ้านมา 2 ว้นแล้วผู้นำหมู่บ้านได้ขอความช่วยเหลือมาทางผม
บ่าย3โมง ผมรีบประประสานไปยังท่านอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

บ่าย 3โมงครึ่งท่านอลกรณ์ฯโทรกลับมาว่าได้รายงานท่านรัฐมนตรีเกษตรฯ.(ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน)และท่านรัฐมนตรีได้สั่งการไปยังอธิบดีกรมชลประทานๆสั่งลงไปในพื้นที่โครงการพระองค์เจ้าไชยานุชิตในจังหวัดฉะเชิงเทราให้เข้าไปช่วยทันที
บ่าย 4 โมง ผู้นำชุมชนหมู่บ้านพฤกษา 27 แจ้งมาว่าเจ้าหน้าที่กรมชลประทานได้ประสานมาแล้ว ทางผู้นำชุมชนดีใจมากที่ได้รับการติดต่ออย่างรวดเร็ว
ตอนหัวค่ำเจ้าหน้าที่ชลประทานพร้อมเครื่องสูบน้ำลงพื้นที่ติดตั้งและเริ่มสูบน้ำกันคืนนั้นเลย

ขณะนี้6 ก.ย.น้ำลดแล้วครับพื้นถนนในหมู่บ้านน้ำแห้งแล้วแต่ยังต้องสูบประคองไว้เพราะนำ้ด้านนอกสูงกว่าในหมู่บ้านประมาณ30-40ซ.มครับ
ชาวบ้านฝากขอบคุณท่านรัฐมนตรีเฉลิมชัย ท่านที่ปรึกษาอลงกรณ์ ท่านอธิบดีกรมชลประทานและเจ้าหน้าที่ทุกคนมากๆครับ
..ดร.บุญเลิศ ไพรินทร์
ฉายาโหรสว. 7 กันยายน 64

ความปาฏิหารย์ของพระท่ากระดาน

พุทธคุณที่เป็นที่เลื่องลือของพระท่ากระดาน จากอดีตจนถึงปัจจุบันคือความอยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาด มีตัวอย่างที่บันทึกไว้ในหนังสือที่อยู่ในพิพิธภัณท์ เช่น
1 นายอำเภอบางกอกน้อยในสมัยก่อนนั้น มีการทดลองพระท่ากระดานที่วัดอมรินทร์ เขต บางกอกน้อย โดยนัดให้ชาวบ้านนำพระเครื่องมาให้เค้าทดลองยิง หากเค้ายิงไม่ออก3นัด จะขอเช่าในราคา 1,000บาท

วันหนึ่งนายอำเภอขอให้ชายชราปลดพระท่ากระดานในคอให้เค้าทดลอง ครั้งแรกใส่พระลงในกระป๋องนม แขวนไว้ที่ต้นไม้ใหญ่ ระยะห่าง3เมตร แล้วยิงด้วยปืนพกออโตเมติค นัดแรกกระสุนไม่ออก เค้าจึงบรรจุกระสุนนัดใหม่ แล้วใส่พระลงในกระป๋องนมเหมือนเดิมแต่เหลือระยะห่างแค่ช่วงแขนเท่านั้น แล้วลั่นไกครั้งที่2 ยังคงได้ยินแต่เสียงไกไม่มีกระสุนออกเช่นเดิม ครั้งที่3 นายอำเภอเอ่ยปากขอขมาพระเสียงดัง แล้วบรรจุกระสุนนัดที่3 คราวนี้ได้ยินเสียง “แช็ก” กระสุนยังคงไม่ออกเหมือนเดิม ท่ามกลางความตะลึงของทุกคนที่อยู่ในที่นั้น นายอำเภอขอเช่าพระจากชายชราแต่ชายชราไม่ให้ ให้ทดลองยิงเท่านั้น
พะท่ากระดานองค์นั้นมีลักษณะทรวดทรงค่อมๆหรืองอเล็กน้อย จึงทำให้พระพักตร์ก้มง้ำมากกว่าธรรมดาซี่งเข้าใจว่าน่าจะเป็นมาแต่ในกรุ เนื้อตะกั่วเถื่อน สนิมแดงสึกหรอบางส่วน แต่พระพักตร์ยังสมบูรณ์ชัดเจน

2.กรณีของ พล.ต.ท. ประชา บูรณธนิต ในคืนวันที่2 ต.ค.2495 นายพลประชาพร้อมภรรยาเดินทางจากนครปฐมเข้ากรุงเทพโดยรถยนต์ มี.ส.ต.ต. ชาญ เป็นคนขับ ขณะที่รถวิ่งมาถึงสามพรานประมาณ2ยามเศษ มีคนร้าย6-7คนใช้ไม้สูงขวางถนน ทำให้ต้องหยุดรถทันที คนร้ายกรูเข้ามาเอาปืนขู่ นายพลชักปืนยิงต่อสู้จึงเกิดการยิงต่อสู้กันระยะเผาขน คนร้ายถูกกระสุนหลายนัดและหลบหนีไป กระสุนถูกนายพล3จุด ที่หัวเข่า หน้าแข้งและแขน แต่ปรากฎเพียงรอยผิวหนังฟกช้ำ ส่วนภรรยาไม่ถูกกระสุนแม้แต่นัดเดียว แต่คนขับถูกกระสุนหลายนัดเสียชีวิต ในคืนเกิดเหตุนายพล ประชา ห้อยพระท่ากระดานอยู่ในคอ พี่โกร่ง ศรีสวัสดิ์ 0909862595

และในกรณึที่3 เหตุการณ์ปาฎิหารย์เกิดขึ้นกับอ.โกร่ง ศรีสวัสดิ์เองเมื่อ10กว่าปีที่แล้ว ในงานศพที่เขตน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น จ.กาญจนบุรี
มีคนร้ายลอบยิง อ.โกร่ง ศรีสวัสดิ์ด้วยปืนลูกซอง เข้าที่หัวหล่นคาโต้ะ แต่อ.โกร่ง ศรีสวัสดิ์ไม่เป็นไรเลย แม้แต่เลือดซักหยดก้อไม่มี ในขณะนั้น อ.โกร่ง ศรีสวัสดิ์แขวนพระท่ากระดานกรุศรีสวัสดิ์เช่นกัน และนี่คือปาฏิหารย์ของพระท่ากระดานกรุศรึสวัสดิ์