‘เฉลิมชัย’เคลียร์ปมระบายยาง บริสุทธิ์ โปร่งใส สุจริตไม่ผิดกฎหมาย

เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2564  ที่รัฐสภา นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชี้แจงเรื่องยางพาราและการระบายยางว่า การประชุมทุกครั้งจะต้องมีองค์ประชุมครบถึงจะดำเนินการได้ จะต้องเป็นมติของที่ประชุม การยางแห่งประเทศไทย เป็นรัฐวิสาหกิจจัดตั้งตามพระราชบัญญัติการยาง 2558 โดยมีบอร์ดการยางเป็นผู้ออกนโยบายกำกับดูแล อนุมัติในกิจกรรมของการยางแห่งประเทศไทย รวม 14 ท่าน จะมีมติได้ที่ประชุมส่วนใหญ่ถือเป็นเอกฉันท์ เป็นความรับผิดชอบร่วม การยางแห่งประเทศไทยมีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจในการควบคุมกำกับของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ตนเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีเมื่อวันเดือนกรกฎาคมปี 2562 และรัฐบาลแถลงนโยบายประกันรายได้ราคาพืชผลการเกษตร 5 ชนิด ยางพาราเป็น 1 ในสินค้า 5 ชนิด ที่รัฐบาลดำเนินโครงการประกันรายได้ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับการประกันว่าจะมีการรายได้ขั้นต่ำที่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ เพราะพี่น้องคนไทยส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ถ้าเกษตรกรมีความเข้มแข็งประเทศชาติก็มีความเข้มแข็งด้วย ถ้ามีรายได้ที่มั่นคงประเทศชาติก็จะมั่นคงด้วย
“เชื่อว่า วันที่รัฐบาลชุดนี้ประกาศนโยบายประกันรายได้ เกษตรกรมีความสุขและยิ้มทั้งประเทศ เป็นครั้งเดียวที่ได้มีโอกาสได้รับการดูแลภาคการเกษตรจากรัฐบาลอย่างจริงจัง และไม่ใช่ว่าเมื่อประกันรายได้แล้วจะไม่ทำอะไรเลยปล่อยให้ราคายางเป็นไปตามยถากรรม เราทำทุกวิถีทางเพราะเราเข้าใจว่าเกษตรกรไทยคือหัวใจของชาติ จนราคายางพารารัฐบาลไม่ต้องจ่ายชดเชยส่วนต่างจนเรามาประสบวิกฤติโควิดซึ่งภาวะวิกฤตนี้มีผลกระทบไปทั่วโลก ทุกประเทศ ทุกสาขาอาชีพ ภาคการเกษตรก็ไม่เว้น แต่เรามีการบูรณาการการทำงานในทุกภาคส่วน ทั้งกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงต่างประเทศ บูรณาการร่วมกัน” นายเฉลิมชัย กล่าว

นายเฉลิมชัย กล่าวต่อว่า วันที่ตนเข้ามากำกับดูแลการยางแห่งประเทศไทยมีหน้าที่กำกับมอบนโยบายไม่มีหน้าที่เซ็นอย่างใดอย่างหนึ่ง ได้ให้นโยบายต้องทำงานอย่างสุจริตไม่ผิดกฎหมาย และกำชับอีกว่าถ้าท่านทำในสิ่งที่ถูกต้องตนจะปกป้องท่าน แต่ถ้าท่านทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องตนจะดำเนินการกับท่านโดยเด็ดขาด  เรื่องของยางพารา 104,000 ตัน มียางพาราอยู่ในสต๊อก 104,000 ตันเศษซึ่งอย่างที่เก็บไว้เสียค่าเช่าโกดังค่าประกันภัยจะได้รับการชดเชยโดยสัญญาทุกปีจะสิ้นสุดวันที่ 31 พฤษภาคมของทุกปี และเริ่มต้นมิถุนายน การยางแห่งประเทศไทยทำสัญญาเช่าเริ่มตั้งแต่ปี 2555 โครงการพัฒนาศักยภาพเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง โดยการซื้อยางเข้าสู่สต๊อก เพื่อให้ยางในตลาดมีปริมาณน้อยลง เพื่อรักษาเสถียรภาพ เพราะขณะนั้นราคายางตกมาก จาก กิโลกรัมละ 180 บาทเหลือ 90 บาท เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2555 จึงรับซื้อยางเข้ามา ปริมาณทั้งหมด 213,492 ตันในราคาเฉลี่ย 98.96 บาทต่อกิโลกรัม งบประมาณ 22,782 ล้านบาท และในปี 2557 มีโครงการมูลพันธ์กันชนเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายางพาราเพื่อให้ยางในตลาดขณะนั้นมีราคาไม่ต่ำจนเกษตรกรไม่มีจะกิน  ที่ซื้อยางเข้าสต๊อกทั้ง 2 ครั้ง ปี 2555 กับ 2557 เพื่อตัดปริมาณยางในตลาดรักษาสถานภาพราคายางเมื่อมีการนำยางเข้ามาในสต๊อก มีการระบายยางโดยครั้งแรกในปี 2557 มีการลงนามสัญญา 278,000 ตัน เมื่อทำสัญญาแล้วราคายางตกลงอย่างมากบริษัทรับยางเพียง 37,602 ตัน เนื่องจากราคาตกมากจึงไม่ได้รับครบจึงเป็นไปสู่การกำหนด TOR ในการประมูล

นายเฉลิมชัย กล่าวต่อว่า การประมูลครั้งที่ 2 ประมูลในรอบปี 2559-2560 ซึ่งเป็นการประมูลแบบคละเหมาคุณภาพแยกโกดัง ให้พ่อค้าเข้าไปตรวจสอบคุณภาพหากพอใจโกดังไหนที่ประมูลโกดังนั้น พ่อค้าก็เลือกยางดีดีไปหมด การประมูลครั้งที่ 2 เหลือยางในสต๊อกจนถึงปัจจุบัน 104,000 ตันเศษ   9 ปีเต็ม เป็นยางที่ถูกคัดเลือกของดีไปเรียบร้อยแล้ว ยางในสต๊อกนี้คือฝันร้ายของพี่น้องเกษตรกร ตนมาช่วยคลายล็อกให้พี่น้องเกษตรกรไม่ต้องฝันร้ายต่อไปอีก จะได้ไม่ถูกยางในสต๊อกเป็นข้ออ้างของพ่อค้าบางกลุ่มกดราคา อ้างว่ายางไม่ขาดมีในสต๊อก ทั้งที่ยางในสต๊อกไม่มีสภาพที่พร้อมใช้แล้ว  ยางแผ่นดิบปกติเก็บ 6 เดือนสีก็เปลี่ยน ระหว่างปี 2555-2559 ค่าใช้จ่ายในการซื้อยางเข้ามาในสต๊อก ค่าเช่าโกดัง ค่าประกันภัยยางพาราใช้เงินทั้งสิ้น 2,317 ล้านบาท และปี 2559 ถึงปี 2564 ยาง ค่าใช้จ่ายรวมกัน 925 ล้านบาท โดยเป็นเงินงบรายจ่ายการยางแห่งประเทศไทยจากเงินกองทุนพัฒนายางพาราซึ่งใช้ดูแลพี่น้องชาวเกษตรกร จึงเป็นฝันร้ายที่ 2 ของพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยาง
” คณะกรรมการการยางธรรมชาติจึงได้มีมติเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2563 ให้ระบายยางในสต๊อกนี้ให้หมดโดยเร็ว และนำเข้า ครม.วันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 การระบายต้องดูจังหวะที่เหมาะสมและไม่กระทบกับราคายางในตลาดมากนักเมื่อ ครม.ได้รับทราบ ตนในฐานะกำกับดูแลการยางแห่งประเทศไทย ให้นโยบายการยางแห่งประเทศไทยในการระบายอย่างสต๊อก 1.ให้การยางแห่งประเทศไทยดูช่วงเวลาที่เหมาะสมในการระบายเพื่อไม่ให้กระทบราคายางในตลาด 2.พี่น้องเกษตรกรต้องได้รับประโยชน์ 3.ต้องรักษาผลประโยชน์ภาครัฐเพราะเป็นเงินภาษีของพี่น้องประชาชน 4.ต้องทำโดยสุจริตโปร่งใสตรวจสอบได้ และถูกต้องตามระเบียบ ที่เน้นย้ำที่สุดคือห้ามทุจริตคอรัปชั่นโดยเด็ดขาด ถ้าเขาทำทุจริตผิดกฎหมายผมไม่ละเว้นอยู่แล้วและนอกจากผมไม่ละเว้นแล้วยังมีหน่วยงานมากมายที่รอการตรวจสอบท่านสามารถฟ้องได้เลย เพราะถ้าไม่ถูกต้องผมก็ไม่ชอบ อยู่ประเทศไทยทำร้ายประเทศผมก็ไม่เอา ” นายเฉลิมชัย กล่าว

พาณิชย์ปทุมฯ เปิดตัวผลิตภัณฑ์นวัตกรรมต้นแบบเชิงพาณิชย์


พาณิชย์จังหวัดปทุมธานี จับมือนักออกแบบระดับประเทศ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ 12 ผลงานที่ สร้างสรรค์จาก 6 นักออกแบบชั้นนําที่จะนําการออกแบบมาขับเคลื่อนสินค้าเชิงพาณิชย์ ต่อยอดสินค้าเกษตร ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยี และการออกแบบ หวังเพิ่มมูลค่าขีดความแข่งขันให้ผู้ประกอบการ ยกระดับรายได้ สอดคล้องนโยบายรัฐบาล

วันนี้ (3 ก.ย.2564) พาณิชย์จังหวัดปทุมธานี จัดงานแถลงข่าวและเสวนาเปิดตัว“Pathum Creator ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมต้นแบบเชิงพาณิชย์จังหวัดปทุมธานี” ซึ่งเป็นการดําเนินการภายใต้โครงการ ส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตรและธุรกิจบริการ กิจกรรมสร้างสินค้าต้นแบบด้วยนวัตกรรม พร้อมถ่ายทอดสด ผ่าน Facebook page: Pathum Creator: ปทุม ครเีอเตอร์ และแอพลิเคชั่น Zoom


โดยได้รับเกียรติจากนายจรูญศักดิ์ สิงหเดช รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เป็นประธานกล่าว เปิดงาน และนางรวีพรรณ ช้างเย็นฉ่ํา พาณิชย์จังหวัดปทุมธานี กล่าวรายงาน พร้อมด้วยนักออกแบบชื่อดัง ดร.กรกต อารมย์ดี นักออกแบบเจ้าของรางวัล ศิลปาธร สาขาศิลปะการออกแบบ ประจําปี 2560 เจ้าของแบ รนด์ Korakot ผู้สร้างสรรค์งานหัตถกรรมไม้ไผ่ระดับโลก กล่าวถึง “แนวคิดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรม ต้นแบบเชิงพาณิชย์จังหวัดปทุมธานี” และดร.เรืองลดา ปุณยลิขิต อาจารย์ประจําหลักสูตรดุษฎีบัณฑิต สาขา ศิลปะการออกแบบ มหาวิทยาลัยศิลปากร และที่ปรึกษาด้านการออกแบบโครงการฯ ในหัวข้อ“การพัฒนา ความรู้และศักยภาพพื้นฐานของผู้ประกอบการ เพื่อต่อยอดผลิตภัณฑ์นวัตกรรมต้นแบบเชิงพาณิชย์จังหวัด ปทุมธานี ได้อย่างยั่งยืน”
นางรวีพรรณ กล่าวว่าจากสถิติมูลค่าทางการตลาดของกลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์ในปีที่ผ่านมาพบว่า มีมูลค่ามากกว่า 385 ล้านบาท และมีแนวโน้มการเติบโตที่สูงขึ้นโดยสินค้าที่เป็นที่นิยมในต่างประเทศ จะมี ทั้งหมด 5 กลุ่มสินค้า นั่นคือกลุ่มสินค้าของขวัญ ของฝาก ของที่ระลึก กลุ่มเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน กลุ่มสินค้าของเล่น กลุ่มสินค้าเครื่องหนัง เครื่องนุ่งห่มและกลุ่มอัญมณีและเครื่องประดับ โดยกลุ่มลูกค้าที่ นําเข้าและเป็นคู่ค้า ได้แก่สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เยอรมนี อิตาลี จีน เวียดนาม อินโดนีเซีย อินเดีย ซึ่งประเทศ ไทยมีจุดแข็งในด้านงานฝีมือ สตอรี่ของสินค้าคุณภาพสินค้าที่ดีกว่าคู่แข่งขัน ดีไซน์ และการสร้างสรรค์แต่จาก การสํารวจผู้ประกอบการจังหวัดปทุมธานี พบว่ามีจุดอ่อนที่กลุ่มผู้ผลิตยังขาดความรู้ความเข้าใจในการ ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ได้มาตรฐานและคุณภาพท่ีทันสมัย ดังนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการ ของตลาดจึงมีความจําเป็นต้องช่วยส่งเสริมให้ผลิตภัณฑ์ปทุมธานีมีความสวยงาม มีเอกลักษณ์ทันสมัย และมี คุณภาพ
“การปรับเปลี่ยนการตลาดเข้าสู่ยุคดิจิทัลมีความสําคัญอย่างมากซึ่งสํานักงานพาณิชย์จังหวัป ทุมธานี ได้มีโครงการส่งเสริมอุตสาหกรรม เกษตร และธุรกิจบริการรวมถึงกิจกรรมอบรมเชิงปฎิบัติการในการ สร้างสินค้าต้นแบบด้วยนวัตกรรมโดยกลุ่มตัวอย่าง เป็นกลุ่มสินค้า แฟชั่น ไลฟ์สไตล์ของจังหวัดปทุมธานี เพื่อ

สร้างโอกาส ส่งเสริมภาพลักษณ์ และการเข้าถึงตลาดให้แก่ผู้ประกอบการเป็นการยกระดับรายได้ตามนโยบาย ของจังหวัดปทุมธานีและรัฐบาล” นางรวีพรรณ กล่าว
“Pathum Creator ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมต้นแบบเชิงพาณิชย์จังหวัดปทุมธานี” เป็นการสร้าง มูลค่าเพิ่มพัฒนาและสร้างผลิตภัณฑ์ต้นแบบจากสินค้าเกษตรด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีและการออกแบบ จาก นักออกแบบระดับมืออาชีพ โดยมีผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP SMEs กลุ่มวิสาหกิจชุมชนจังหวัดปทุมธานีกว่า 80 คน คณะทํางานขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมอุตสาหกรรม เกษตรกร และธุรกิจบริการ กิจกรรมสร้าง มูลค่าเพิ่มสินค้าเกษตร เยาวชนนักศึกษาเข้าร่วม โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบนักออกแบบระดับมือ อาชีพมาร่วมจัดทําผลิตภัณฑ์”
นางรวีพรรณ กล่าว ทั้งนี้ ภายในงานมีการนําเสนอผลิตภัณฑ์ที่ผลิตมาจากวัสดุและสินค้าจาก การเกษตร และผลิตภัณฑ์ที่มีโอกาสตอบโจทย์เทรนสินค้าไลฟ์สไตล์ที่มีความหลากหลาย ทั้งหมด จํานวน 12 ผลิตภัณฑ์ จากนักออกแบบ 6 ท่าน เริ่มกันที่ ดร.กรกต อารมย์ดี นักออกแบบประจําโครงการฯ (Head of designer) โดยนักออกแบบได้ร่วมกับทางกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง นําเศษหนังสัตว์จากอุตสาหกรรมหนังสัตว์ เช่น หนังวัว หนังนกกระจอกเทศ เป็นต้น มาสร้างสรรค์ให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์กระเป๋าตอบโจทย์สําหรับ คนทํางานออฟฟิศ ต่อยอดการขายได้ ทั้งตลาดบนและล่าง โดยการปรับเปลี่ยนรูปทรงและการใช้งานเพิ่มเติม และอีก 1 ผลงานคือ Collection โคมไฟไม้ไผ่รูปทรงอิสระและรูปทรงเลขาคณิต ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจในการ สร้างอาชีพให้กับชุมชน โดยการนําทักษะที่มีของผู้ประกอบที่มีความสามารถเรื่องของการประดิษฐ์ เพื่อเพิ่มขีด ความสามารถสามารถพัฒนางานให้เป็นงานสไตล์ ของแต่งบ้าน ซึ่งโคมไฟมีมูลค่าทางการตลาดค่อนข้าสูง และ ยังเหมาะกับการจัดแสดงในงานต่าง ๆ อีกด้วย
คุณรัฐ เปลี่ยนสุข นักออกแบบสาย Product design ร่วมกับกลุ่มผู้ประกอบการเฟอร์นิเจอร์ และ กลุ่มงานฝีมืองานประดิษฐ์ สร้างสรรค์งานออกแบบ เก้าอี้จากผ้าใยบัวประดิษฐ์ โครงสร้างลวดลายที่สวยงาม ประสานกับการประดับตกแต่ง เพื่อให้เกิดเป็นเก้าอี้โปร่งแสงที่สามารถใช้ตกแต่งห้องรับประทานอาหารได้ อย่างลงตัวทั้งยังเป็นการพลิกเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานเพื่อตลาดที่แตกต่าง และ ผลงาน Floret Lamp : โคมไฟจากต้นโสนหางไก่ จากวัสดุทางการเกษตรในจังหวัดปทุมธานี มาทําเป็นกลีบดอกไม้ให้ความโปร่งแสง และเป็นธรรมชาติเพื่อใช้เป็นสินค้าตกแต่งที่พักอาศัย

หมอนรองนั่งถักปักร้อยสไบมอญออกแบบโดย ดร.สุภาวินี จรุงเกียรติกุล นักออกแบบที่มีใจรัก ด้านงานผ้าได้ร่วมกับกลุ่มที่มีศักยภาพในเร่ืองการทอผ้าและตัดเย็บ เช่น กลุ่มแม่บ้านแสงตะวันที่เป็นกลุ่ม ริเริ่ม นําใยกล้วยมาพัฒนา ทอเป็นผืนผ้า เป็นต้น โดยได้รับแรงบันดาลใจจากลักษณะใบของดอกบัวหลวงและ “ลายใบมะตาด”ต้นไม้อนุรักษ์ของคนรามัญ ผสมผสานภูมิปัญญา และผลิตภัณฑ์ BUALUANG FASHION DRESS ชุดแฟชั่นผู้หญิงจากเส้นใยกล้วยบัวหลวง มีการเลือกใช้โทนสีชมพูของ “บัวหลวง” มาเป็นจุดเด่นใน การออกแบบผืนผ้าทอ โดยใช้ “ใยกล้วย” ซึ่งเป็นวัสดุท้องถิ่นของจังหวัดปทุมธานี ผสมผสานการออกแบบ ลวดลายผ้าทรี่่วมสมัยเพื่อพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สินค้าแฟชั่นจากผ้าทอใยกล้วยให้มีเอกลักษณ์โดดเด่น

ดร.ศุภพงศ์ สอนสังข์ นักออกแบบ เฟอร์นิเจอร์ไม้ ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ ใน Concept Modular Design เป็นการผสมผสานวัสดุด้วยการเรียงชิ้นส่วนโลหะที่มีรูปทรงเฉพาะ สามารถยึดติดกับเศษวัสดุชิ้นเล็กๆ ที่มีรูปทรงหลากหลาย ซึ่งเป็นไม้ที่เหลือจากการผลิตเฟอร์นิเจอร์ จนเกิดรูปทรงใหม่ และมิติของแสงแบบสุ่ม เกิดไดจ้ากเหลี่ยมมุมของชิ้นไม้ชิ้นนั้นๆออกแบบให้สามารถนําไปสร้างสรรค์เป็นรูปทรงและหน้าที่ใช้สอยอ่ืนๆ
2

ได้อีกมากมาย ในครั้งนี้ได้พัฒนาออกมาเป็นต้นแบบผลิตภัณฑ์โคมไฟ และTable site โดยมีวัตถุดิบหลักคือไม้ พิวเตอร์ และ ทองเหลือง
คุณธีรพจน์ ธีโรภาส นักออกแบบรุ่นใหม่ใจรักเฟอร์นิเจอร์ ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบ 3 ชิ้นงาน ได้แก่ Dusk till Dawn พวงหรีดจากต้นโสนหางไก่ โดยออกแบบให้ประกอบขึ้นจากดอกไม้จันทน์ประดิษฐ์จาก ต้นโสนบนโครงสร้างลอยตัว และCollection MYTH กระจกและม้านั่งห่อหุ้มเศษหนังเหลือใช้ ลวดลายถูก ออกแบบผ่านแนวคิดการสร้าง modular system ขนาดเล็กเพื่อให้เข้ากับขนาดของวัสดุเหลือใช้ แนวคิดที่ พัฒนามาจากภาษาของบล็อกของเล่นไม้เด็ก ทําให้ลวดลายสามารถสลับสับเปลี่ยนได้ง่ายขึ้นอยู่กับวัสดุที่มี
และนักออกแบบท่านสุดท้าย อาจารย์ชัยนรินทร์ ชลธนานารถ อาจารย์พิเศษ สาขาวิชาออกแบบ ภายใน คณะสถาปัตยกรรมและการออกแบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ผันตัวมา เป็นนักออกแบบพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบ Pana-ware พลาสติกชีวภาพจากเปลือกกล้วยหอมปทุมธานี โดย นํามาออกแบบเป็นชุด Tableware ที่สามารถใช้ได้จริง ในชีวิตประจําวัน นวัตกรรมนี้นอกจากจะช่วยลด ปริมาณขยะและเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรแล้ว ยังตอบสนองต่อความต้องการใช้วัสดุหรือบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อ สิ่งแวดล้อมในอนาคต
นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมต้นแบบเชิงพาณิชย์จังหวัดปทุมธานีทั้ง 12 ต้นแบบ จะนําไปจัดแสดง นิทรรศการ “Pathum Creator Roadshow” ระหว่างวันที่ 5 – 7 กันยายน 2564 ณ ลานกิจกรรม Nine Square (Center Zone) ศูนย์การค้า เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ ติวานนท์ เปิดให้เข้าชมนิทรรศการได้ ตั้งแต่เวลา 10.30–19.00น.ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าชมนิทรรศการโดยไม่มีค่าใช้จ่ายทั้งนมี้ีขั้นตอนการตรวจคัด กรองและการจํากัดจํานวนเข้าชมในแต่ละรอบ เป็นไปตามมาตรการการป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19

“เตาดินเก่าๆหลายเตา” ปรากฏมีสนิมแดงตกอยู่เรี่ยราด จึงพบ พระท่ากระดาน นั้นคือแหล่งการสร้างพระ 1 ใน 5 ของพระขุดเบ็ญจภาคีเนื้อชิน

สำหรับประวัติ “วัดท่ากระดาน” ตั้งอยู่ใน ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ปัจจุบันเป็นวัดร้าง เป็นสถานที่อยู่บริเวณหน้าถ้ำทางตอนเหนือของเมืองท่ากระดานเก่าขึ้นไปตามลำน้ำซึ่งเดิมเป็นวัดเก่าแก่ เนื่องจากมีศาสนวัตถุที่ปรักหักพังและพระเจดีย์เป็นจำนวนมาก

และจากวัตถุโบราณที่พบเช่น บาตรขนาดเขื่อง เตาดินเก่าๆหลายเตา ที่สำคัญ คือ ปรากฏมีสนิมแดงตกอยู่เรี่ยราดบริเวณเตาและพบพระท่ากระดานทุกๆ พิมพ์อีกด้วย เป็นแหล่งสร้างพระท่ากระดาน เมืองท่ากระดานมีวัดสำคัญ 3 วัด คือ วัดเหนือ (วัดบน)วัดกลาง (ปัจจุบันชื่อ วัดท่ากระดาน) และวัดล่าง
วัดท่ากระดาน หรือ วัดกลาง อันเป็นวัดสำคัญ 1 ใน 3 วัดของ “เมืองท่ากระดาน” เมืองเก่าแก่เมืองเดียวริมแม่น้ำแควใหญ่ที่มีความสำคัญในสมัยกรุงศรีอยุธยาเคียงคู่กับเมืองกาญจนบุรีเก่าและเมืองไทรโยค คือ เป็นเมืองที่มีเจ้าปกครอง อีกทั้งเป็นเมืองหน้าด่านที่ต้องสู้รบกับกองทัพพม่าที่ยกทัพเข้ามาทางด่านเจดีย์สามองค์ในทุกคราว แต่ปัจจุบันลักษณะสภาพทางภูมิศาสตร์ จึงถูกยุบเป็นกิ่งอำเภอเมื่อ พ.ศ.2438 และลดฐานะเป็นหมู่บ้านชื่อ “บ้านท่ากระดาน” ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของสถานศึกษา โรงเรียนชุมชนท่ากระดาน และตำบล อยู่ในเขตการปกครองของ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี

ต่อมา พ.ศ.2495 ได้มีการขุดค้นหาโบราณวัตถุกันเป็นการใหญ่ และได้พบพระพิมพ์เนื้อตะกั่วสนิมแดงที่วัดทั้งสามเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะที่วัดกลางซึ่งเรียกชื่อเต็มว่า “วัดท่ากระดาน”

นั้นได้ปรากฏพระพิมพ์เนื้อตะกั่วสนิมแดงที่สนิมแดงงามจัดและปิดทองมาแต่ในกรุทุกองค์ กอปรกับวัดนี้ตั้งอยู่ในส่วนกลางของเมืองท่ากระดานเก่าพอดี ชาวบ้านจึงเห็นเหมาะสมควรศึกษา”พระท่ากระดาน” ก็คือ สภาพสนิมไขสนิมแดง และรักเก่า ทองเก่า นั้นเอง

รพ.ยันฮี” เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด “YANHEE FOZINNIA” วิตามินแห่งความเยาว์วัย

ตอบโจทย์ทุกปัญหาวัยทองของผู้หญิงและผู้ชายวัย 40+ โดยเฉพาะ

โรงพยาบาลยันฮีเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด “ยันฮีฟอซินเนีย (YANHEE FOZINNIA)” วิตามินแห่งความเยาว์วัย ตอบโจทย์ทุกปัญหาวัยทองของผู้หญิงและผู้ชายวัย 40+ โดยเฉพาะ

นพ. วัสสะ วัชรากร และ พญ. หทัยวรรณ วัชรากร แพทย์ประจำศูนย์เวชศาสตร์ชะลอวัยและศูนย์แพทย์ทางเลือก โรงพยาบาลยันฮี กล่าวว่า จากประสบการณ์กว่า 10 ปี ในการดูแลและรับฟังปัญหาของคนไข้ เรารับรู้และเข้าใจถึงปัญหาที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับอาการต่าง ๆ ของ “โรควัยทอง” เป็นอย่างดี และเราเป็นโรงพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญในการรักษาและให้วิตามินเพื่อชะลอวัยอีกด้วย โดยล่าสุดโรงพยาบาลยันฮีได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด “ยันฮีฟอซินเนีย (YANHEE FOZINNIA)” วิตามินแห่งความเยาว์วัย ซึ่งเป็นวิตามินที่ผ่านการคิดของทีมอาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านชะลอของโรงพยาบาลยันฮี เป็นการคัดสรรสารสกัดพรีเมี่ยมที่อัดแน่นเต็มสูตร เพื่อให้วิตามินตัวนี้ครอบคลุมและตอบโจทย์ทุกปัญหาวัยทองของผู้หญิงและผู้ชายวัย 40+ โดยเฉพาะ

นางสาวปิยลักษณ์ อุดมชาติ กรรมการบริษัท เอฟโวลูชั่นสกิน จำกัด กล่าวว่า Platform Online Marketing ของผลิตภัณฑ์ในเครือโรงพยาบาลยันฮีเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะความเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้า และการได้รับคำแนะนำจากทีมแพทย์เฉพาะทางโดยตรงตลอดการใช้ผลิตภัณฑ์ จึงกลายเป็นจุดแข็งที่ทำให้ลูกค้าไว้วางใจและมั่นใจในผลิตภัณฑ์ของโรงพยาบาลยันฮี

“จากประสบการณ์กว่า 10 ปีบน Platform Online Marketing ของบริษัท เอฟโวลูชั่นสกิน จำกัด กล้าพูดได้เลยว่า เราสัมผัสได้ถึงความจริงใจและความทุ่มเทในการออกผลิตภัณฑ์แต่ละตัวของ โรงพยาบาลยันฮี กลุ่มผู้บริโภคมั่นใจในมาตรฐานความสะอาด ความปลอดภัย และผลลัพธ์ เราเชื่อว่า ยันฮี ฟอซินเนีย(YANHEE FOZINNIA) จะเป็นวิตามินที่สามารถตอบโจทย์ “วัยทอง” ได้อย่างตรงจุด และกลายเป็นวิตามินที่ใครหลาย ๆ คนหลงรักและติดใจได้อย่างแน่นอน”

สนใจสมัครเป็นผู้แทนจำหน่าย ได้ที่ แอดไลน์ @yanhee66 คลิ้กลิ้งค์ https://lin.ee/Hb5lA9H หรือ โทร.094-620-5566 (คุณนิด) , 090-318-4615 (คณุฟอร์ด)

“รัฐมนตรีเฉลิมชัย”พร้อมรับมือการอภิปรายไม่ไว้วางใจ มั่นใจตอบได้ทุกประเด็นหลังโชว์ผลงานปฎิรูปกระทรวงเกษตรฯ.ภายใต้5ยุทธศาสตร์คว้าแชมป์”คุณธรรมและความโปร่งใส”

ประจำปี 2564 ของปปช.

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าววันนี้ถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจถือเป็นการทำหน้าที่ของฝ่ายค้านในการตรวจสอบและถ่วงดุลรัฐบาลตามครรลองเสียงข้างมากข้างน้อยของระบบรัฐสภาในระบอบประชาธิปไตย ในส่วนของตนพร้อมชี้แจงทุกประเด็นทั้งเรื่องการบริหารราชการแผ่นดินและประเด็นการทุจริตประพฤติมิชอบรวมทั้งประเด็นอื่นๆที่มีการกล่าวหาหรือมีการตั้งข้อสงสัยเพื่อให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใช้ประกอบดุลยพินิจในการลงมติ ตนเชื่อว่าผลงานคือคำตอบที่ดีที่สุดโดยเฉพาะการบริหารราชการแผ่นดินด้วยคุณธรรมและความโปร่งใสของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ซึ่งล่าสุด คณะกรรมการ ป.ป.ช. และคณะกรรมการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ได้จัดทำการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment : ITA) ประจำปีงบประมาณ 2564 ซึ่งได้กำหนดไว้ตามแผนแม่บท ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ พบว่า หน่วยงานทั้ง23 หน่วยงาน ในสังกัด กระทรวงเกษตและสหกรณ์มีค่าITA อยู่ในระดับA โดยมีคะแนนภาพรวมทั้งสิ้น 92.67 คะแนน สูงกว่าเกณฑ์เฉลี่ยการประเมินภาพรวมทั่วประเทศที่มีค่าเฉลี่ย 81.25 คะแนน

ยิ่งกว่านั้นกระทรวงเกษตรฯ.ยังคว้าอับดับที่1 ของผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสประเภทที่5 (กองทุนและหน่วยงานของรัฐอื่น ๆ) ในระดับAA มากถึง3 หน่วยงานได้แก่กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ได้คะแนนสูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง 98.52 %ตามด้วยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร97.22 %และองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย96.1 %

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวต่อไปว่า ความก้าวหน้าพัฒนาของ23หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นผลมาจากความมุ่งมั่นและการทำงานหนักของทุกคนในองค์กรอย่างต่อเนื่องโดยมุ่งเน้นการปฏิรูป2มิติคือการปฏิรูปการบริหารราชการและการปฏิรูปการบริการประชาชนด้วยความรวดเร็วมีประสิทธิภาพโปร่งใสและตรวจสอบได้ภายใต้“5 ยุทธศาสตร์การปฏิรูป”ซึ่งเป็นคานงัดสร้างจุดเปลี่ยนได้แก่
1.ยุทธศาสตร์ตลาดนําการผลิต

  1. ยุทธศาสตร์เทคโนโลยีเกษตร 4.0
  2. ยุทธศาสตร์ “3’s” (Safety- Security-Sustainability- เกษตรปลอดภัย เกษตรมั่นคงและเกษตรยั่งยืน)
  3. ยุทธศาสตร์การบริหารเชิงรุกแบบบรู ณาการกับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะโมเดล”เกษตร-พาณิชย์ทันสมัย”
  4. ยุทธศาสตร์เกษตรกรรมยั่งยืนตามแนวทางศาสตร์พระราชา
    กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะเร่งการดำเนินงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และจะพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นต่อไป

สำหรับผลคะแนนทั้ง 23 หน่วยงานของกระทรวงเกษตรฯ มีดังนี้

  1. กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาการเกษตร 98.52 คะแนน ระดับ AA
  2. สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร 97.22 คะแนน ระดับ AA
  3. องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย 96.17 คะแนน ระดับ AA
  4. สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง 94.71 คะแนน ระดับ A
  5. การยางแห่งประเทศไทย 94.58 คะแนน ระดับ A
  6. กรมพัฒนาที่ดิน 94.47 คะแนน ระดับ A
  7. สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 93.86 คะแนน ระดับ A
  8. กรมส่งเสริมสหกรณ์ 93.80 คะแนน ระดับ A
  9. องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร 93.14 คะแนน ระดับ A
    10.กรมชลประทาน 93.11 คะแนน ระดับ A
    11.สำนักมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ 93.00 คะแนน ระดับ A
    12.กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ 92.69 คะแนน ระดับ A
    13.สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ 92.62 คะแนน ระดับ A
    14.องค์การสะพานปลา 92.29 คะแนน ระดับ A
    15.กรมฝนหลวงและการบินเกษตร 92.22 คะแนน ระด
    16.กรมวิชาการเกษตร 92.07 คะแนน ระดับ A
    17.กรมปศุสัตว์ 91.81 คะแนน ระดับ A
    18.กรมส่งเสริมการเกษตร 90.60 คะแนน ระดับ A
    19.สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม 90.22 ระดับ A
    20.กรมประมง 90.21 คะแนน ระดับ A
    21.กรมหม่อนไหม 89.09 คะแนน ระดับ A
    22.กรมการข้าว 88.07 คะแนน ระดับ A
    23.สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร 87.02 คะแนน ระดับ A

คณะกรรมการ ป.ป.ช. และคณะกรรมการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ได้จัดทำการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment : ITA) โดยในปีนี้มีหน่วยงานภาครัฐเข้าร่วมการประเมินITA 8,300 หน่วยงาน มีประชาชนเข้ามาร่วมตอบแบบสอบถามจำนวน 1,331,588 ราย แบ่งเป็น เจ้าหน้าที่ของรัฐ 471,794 ราย และผู้รับบริการภาครัฐ 859,794 ราย ซึ่งเป็นการประเมินที่มีคนเข้าร่วมมากที่สุดในประเทศไทย โดยมีหน่วยงานทั่วประเทศที่ผ่านเกณฑ์ประเมินซึ่งต้องได้คะแนน85%ขึ้นไป 4,146 หน่วยงาน คิดเป็น 49.95%

ทั้งนี้ การให้คะแนนความโปร่งใสหน่วยงานนั้น สามารถแบ่งเป็นเกรดต่าง ๆ ได้ดังนี้ เกรด AA 95-100 คะแนน / เกรด A 85-94.99 คะแนน / เกรด B 75-84.99 คะแนน / เกรด C 65-74.99 คะแนน / เกรด D 55-64.99 คะแนน / เกรด F 0-54.99 คะแนน
โดยหน่วยงานที่ได้รับการประเมินแบ่งเป็น 8 ประเภท มีคะแนนเต็ม 100 คะแนได้แก่1.ประเภทหน่วยงานธุรการขององค์การศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ และหน่วยงานในสังกัดรัฐสภา 2.ประเภทส่วนราชการระดับกรม 3.ประเภทรัฐวิสาหกิจ 4.องค์การมหาชน5.กองทุนและหน่วยงานของรัฐ6.สถาบันอุดมศึกษา 7.จังหวัด (เฉพาะส่วนราชการส่วนภูมิภาคระดับจังหวัด) 8.องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ

อ.เขาค้อ รณรงค์ให้ประชาชนฉีดวัคซีนทั่วหน้า

นายภาคภูมิ ภูมี นายอำเภอเขาค้อ ร่วมกับ นายแพทย์ธีรพจน์ ฟักน้อย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเขาค้อ จัดบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรค โควิด-19 ให้กับประชาชนของอำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลในการรณรงค์ให้ประชาชนฉีดวัคซีนทั่วหน้า จำนวนกว่า 4,000 คน ใน 2 จุด ได้แก่ บริเวณด้านหน้าที่ทำการอำเภอเขาค้อ และโรงเรียนแคมป์สนวิทยาคม โดยจะเร่งดำเนินการให้ครอบคลุมจำนวนประชากรทั้งหมดของอำเภอเขาค้อในเร็ววันนี้ พร้อมกันนี้ นายธงชัย กฤตยามงคลชัย นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเขาค้อ ได้นำผู้ประกอบการและสมาชิกของสมาคม เข้ารับการฉีดวัคซีนในครั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับรองรับการท่องเที่ยวหลังสถานการณ์ โควิด-19 คลี่คลายลง

สอบถามข้อมูลข่าวประชาสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่
คุณนัทกานต์ เลิศวัฒนาชัย โทรศัพท์ 0987034965 และคุณวิโรจน์ พงศ์อิสระ โทรศัพท์ 0845362904
https://www.facebook.com/ที่ว่าการอำเภอเขาค้อ-104973464535602/

“พระท่ากระดานเป็นพระที่ติด1ใน5ของชุดเบญจภาคีเนื้อชิน”

ถูกสร้างขึ้นในสมัยอู่ทอง แบบองค์พระมีลักษณะนูนมีภาพด้านหน้าเพียงด้านเดียว ส่วนด้านหลังแบนเรียบ


พุทธลักษณะของพระเป็นปางมารวิชัยขัดราบ มีสังฆาฏิแบบสี่เหลี่ยมกว้าง หนา ยาว จรดลงมาถึงบริเวณส่วนพระหัตถ์ซ้าย ส่วนฐานจะเรียกว่า “สำเภา” อันเป็นเอกลักษณ์ของพระเครื่องสมัยอู่ทอง พระเกศมีลักษณะยาว ใบหน้าองค์พระลึกมีแววยิ้มแบบเคร่งเครียด


พระท่ากระดานที่ขุดได้จาก กรุลั่นทม กรุวัดวัดล่าง วัดกลาง วัดบน อยู่ในเขตอ.ศรีสวัสดิ์ นิยมเรียกว่า “พระกรุเก่าศรีสวัสดิ์” เป็นพระเนื้อชินตะกั่วสนิมแดง ได้รับความนิยมมากที่สุดในบรรดาพระท่ากระดาน และพระท่ากระดานกรุศรีสวัสดิ์ ยังเป็น1ใน5ของพระเบญจภาคีขุนพลเนื้อชิน ซี่งประกอบด้วย
1.พระร่วงรางปืน

  1. พระท่ากระดานกรุศรีสวัสดิ์
  2. พระลพบุรีหูยาน
  3. พระมเหศวร
  4. พระชินราชใบเสมา
    พระท่ากระดานกรุเก่าศรีสวัสดิ์มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักของวงการพระเครื่องมาอย่างช้านาน

มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้โรงพยาบาลสนาม วัดโบสถ์ดอนพรหม

27 ส.ค.64 เวลา 13.00 น. ณ โรงพยาบาลสนาม วัดโบสถ์ดอนพรหม จ.นนทบุรี
ชัยยศ ศิริสวัสดิ์ ชมรมช่างภาพการเมือง, เนรมิต อติสุคนธ์ ประธานชมรมเพื่อนบัวทองทีเคแบดมินตัน, วรพันธ์ ทิพากร ประธานกรรมการ บจก.ปพันธ์เทค พร้อมด้วย ธนพร วัฒนสุวกุล ได้ร่วมกันเป็นตัวแทนมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์

อาทิ ปรอทวัดไข้ แบบดิจิตอล 100 ตัว, เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว พร้อมแบตเตอรี่ 45 ชุด, ปลั๊กพ่วง แก้วกระดาษ 200 ใบ, กาแฟสำเร็จรูป+โอวัลติน ทรีอินวัน รวม372 ซอง, ชุดเครื่องใช้ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน สบู่เหลว แชมพู แป้ง 60 ชุด, โจ๊กกึ่งสำเร็จรูป 60 ถ้วย และ ขนมทานเล่น 107 ซอง ให้แก่ บุคลากรทางการแพทย์ประจำโรงพยาบาลสนาม วัดโบสถ์ดอนพรหม อ.เมือง จ.นนทบุรี ด่านหน้าสู้ภัย โควิด-19

โดยสิ่งของต่างๆเหล่านี้ได้รับความเมตตาจากผู้ใหญ่ใจดีหลายท่าน นำโดย คุณปนัดดา เจริญกิจ ผู้จัดการแผนกพัฒนาผลิตภัณฑ์และประกันคุณภาพ บจก.นำเชา (ประเทศไทย) พร้อมด้วยเพื่อนๆ สมาชิกชมรมเพื่อนบัวทองทีเคแบดมินตัน และ ชมรมแบดมินตันเผ่งอิ้ว นำโดย คุณ เฉลิมชัย โหง้สกุล, สมชาย แซ่ตั้ง, ธานินทร์ รักมั่งคั่งทวี, รเณศ กาญจนสันติกุล, ขจรศักดิ์ พุฒิสวัสดิกุล พร้อมด้วยครอบครัวลูกๆหลานๆแป๊ะฉั่ว เพื่อให้เป็นขวัญและกำลังใจแก่บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ทุ่มเท เสียสละ ในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาผู้ป่วยโรคโควิด -19 ด้วยดีมาตลอด ซึ่งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) นั้น ยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ทั่วประเทศและยังคงทวีความรุนแรงมากขึ้น

“บิ๊ก” 3บริษัทร่วมกับชมรมช่างภาพสื่อมวลชนดิจิทัล จัดข้าวมันไก่ 200 ชุดมอบให้บุคลากรทางการแพทย์

นายกิตติพันธ์ ขันติศีลชัย ประธานชมรมช่างภาพสื่อมวลชนดิจิทัลและสมาชิก พร้อมด้วยตัวแทนจาก 3บริษัท ธนา 9 คอนสตรัคชั่น จำกัด ,บริษัท โออีจี เวิลด์พลาเน็ท จำกัด,บริษัทรุ่งอรุณฟาร์ม (2020) จำกัดมาร่วมมอบข้าวมันไก่จำนวน 200 ชุดด้วย ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ที่ปฎิบัติหน้าที่และกล่าวขอบคุณที่สมาชิกฯ ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วจำนวน 200 ท่าน โดยมีนพ.ศักดิพัฒน์ ทรงวิศิษฎ์เป็นผู้รับมอบ ที่อาคารอัจฉรา สถาบันบำราศนราดูร วันก่อน

รฟฟท. เผยผลสำรวจความพึงพอใจผู้โดยสารแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ประจำปี 2564

บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด เผยผลสำรวจความพึงพอใจของผู้โดยสารที่ใช้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ประจำปี 2564

นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เปิดเผยว่า บริษัทได้ดำเนินการว่าจ้างบริษัท เยสยูแคน จำกัด ( YES YOU CAN COMPANY LIMITED ) ที่ปรึกษางานวิจัย และการประเมินผล จัดทำผลสำรวจความพึงพอใจของผู้โดยสารที่ใช้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ประจำปี 2564 ซึ่งปรากฏว่าผู้ใช้บริการมีความพึงพอใจอยู่ในระดับพึงพอใจมาก โดยจากค่าเฉลี่ยเต็ม 5.00 ผู้โดยสารมีความพึงพอใจด้านต่างๆดังนี้

ความพึงพอใจต่อการใช้บริการอยู่ที่ค่าเฉลี่ย 4.26 , ความพึงพอใจด้านความปลอดภัยอยู่ที่ค่าเฉลี่ย 4.49 , ความพึงพอใจด้านความน่าเชื่อถือของการเดินรถอยู่ที่ค่าเฉลี่ย 4.35 , ความพึงพอใจด้านการประชาสัมพันธ์อยู่ที่ค่าเฉลี่ย 4.31 , ความพึงพอใจด้านสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่ที่ค่าเฉลี่ย 4.38 และความพึงพอใจด้านบัตรโดยสารและการตลาดอยู่ที่ค่าเฉลี่ย 4.24

การที่ผลสำรวจความพึงพอใจของผู้โดยสารที่มีต่อรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ อยู่ในระดับพึงพอใจมากในด้านต่างๆนั้น เป็นผลมาจากการที่บริษัทได้ดำเนินนโยบาย และมาตรการต่างๆที่เป็นการยกระดับการให้บริการ และการรักษาความปลอดภัยมาโดยตลอด อาทิ การนำระบบบริหารคุณภาพ ISO 9001 มาใช้ในการดำเนินงานทั้งการซ่อมบำรุง และการปฏิบัติการเดินรถ และให้บริการอย่างต่อเนื่อง จนผ่านการรับรอง ISO 9001 : 2015 ขอบเขต

: วิศวกรรมและซ่อมบำรุง และขอบเขต : งานปฏิบัติการเดินรถไฟฟ้า จาก BV ( Bureau Veritas ) , การดำเนินโครงการ Smile Station เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการของเจ้าหน้าที่ , การสร้างราวกั้นชานชาลา และแผ่นยางปิดช่องว่างระหว่างชานชาลากับประตูรถไฟฟ้า รวมถึงความเข้มงวดในมาตรการรักษาความปลอดภัย และมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่บริษัทเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร , การบำรุงรักษาสิ่งอำนวยความสะดวกภายในสถานีทั้งลิฟท์ และบันไดเลื่อนให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ , การเพิ่มช่องทางของสื่อประชาสัมพันธ์ให้สามารถเข้าถึงผู้โดยสารมากขึ้น , การมอบสิทธิพิเศษของบัตรโดยสารสมาร์ทพาส และกิจกรรมการตลาด โดยเฉพาะกิจกรรมส่งเสริมการตลาดออนไลน์ ที่ได้ปรับใช้ให้เข้ากับสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งผู้โดยสารให้ความสนใจเป็นจำนวนมากไม่ว่ากิจกรรมวันเด็กออนไลน์ วันตรุษจีนออนไลน์ วันแห่งความรักออนไลน์ และวันสงกรานต์ออนไลน์ เป็นต้น อีกทั้งการให้บริการลูกค้าสัมพันธ์ที่พร้อมรับข้อร้องเรียน ข้อเสนอแนะ และเรื่องชมเชย ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ไม่มีวันหยุด และ Official Page สะดวกแก่ผู้ใช้บริการ ให้บริการด้วยความรวดเร็วในช่องทางการสื่อสาร