เจาะลึก “สถานีกลางบางซื่อ” สถานีรถไฟแห่งใหม่ของไทย


สถานีกลางบางซื่อ Grand Station หรือ “สถานีรถไฟหลัก” แห่งใหม่ของประเทศไทย

ที่ได้รับการพัฒนาและยกระดับให้เป็น “ศูนย์กลางรถไฟไทย” ทุกระบบ ครอบคลุมทุกบริการ “ระบบราง” สามารถเชื่อมต่อทุกรูปแบบการเดินทาง โดยเชื่อมต่อระบบรางกับระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็น “การเดินทางแบบไร้รอยต่อ น้ำ บก อากาศ” ทั้ง “รถไฟฟ้าทางไกล” ไม่ว่าจะเป็นสายเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ ใต้ ตะวันออก และตะวันตก “รถไฟความเร็วสูง” “รถไฟชานเมือง” รวมถึง “รถไฟเชื่อมท่าอากาศยาน” ทั้งเชื่อมต่อกับระบบ “รถไฟฟ้ามหานคร” และโครงข่าย “ถนนสายหลัก” ซึ่งนอกเหนือจากความงดงามที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยรูปทรงโค้งแบบร่วมสมัย ยังเน้นเรื่องความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และประหยัดเวลา เพื่อให้ประชาชนสามารถเชื่อมการเดินทางไปยังทุกจุดหมาย บนพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางกว่า 298,200 ตารางเมตร โดยสามารถรองรับผู้โดยสารมากถึง 624,000 คน/วัน เทียบเท่าสถานีรถไฟชั้นนำระดับสากล ประกอบไปด้วย
•ชั้นใต้ดิน พื้นที่รวม 72,000 ตารางเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่ไว้สำหรับจอดรถประมาณ 1,700 คัน พื้นที่จอดรถยนต์ สำหรับบุคคลทั่วไป 1,681 คัน และพื้นที่จอดรถยนต์ผู้พิการ 19 คัน
•ชั้นลอย พื้นที่รวม 12,000 ตารางเมตร ใช้เป็นพื้นที่ร้านค้าเพื่อจำหน่ายสินค้า ทั้งสินค้า OTOP และสินค้าที่น่าสนใจหลายรายการ รวมทั้งเป็นพื้นที่ของห้องควบคุมของสถานีกลางบางซื่อ
•ชั้นที่ 1 พื้นที่รวม 86,000 ตารางเมตร เป็นพื้นที่จำหน่ายตั๋วโดยสาร ร้านค้า ศูนย์อาหาร พื้นที่พักคอยและจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน หรือ MRT
•ชั้นที่ 2 พื้นที่รวม 86,000 ตารางเมตร เป็นพื้นที่สำหรับชานชาลารองรับระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง จำนวน 4 ชานชาลา และรถไฟทางไกล จำนวน 8 ชานชาลา
•ชั้นที่ 3 พื้นที่รวม 67,000 ตารางเมตร เป็นชานชาลารองรับรถไฟความเร็วสูง จำนวน 10 ชานชาลา และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ที่เดินทางไปยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำนวน 2 ชานชาลา
นอกจากนี้จุดเด่นและสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับสถานีกลางบางซื่อที่ควรรู้ ได้แก่
1.เป็นศูนย์กลางการคมนาคมแห่งใหม่เทียบเท่าสถานีรถไฟชั้นนำของโลก และเป็นแกนกลางการเดินทางสู่มหานคร
2.เป็นสถานี “อารยสถาปัตย์” ตามหลัก Universal Design โครงสร้างนาฬิกาแบบหน้าปัดมีเข็มนาฬิกา ซึ่งหน้าปัดมีเพียงตัวเลขบอกเวลาหมายเลข ๙ เท่านั้น ได้ถูกยกเพื่อติดตั้งที่หน้าโดมของสถานีกลางบางซื่อแล้ว หลังจากนี้หน่วยงานที่รับผิดชอบจะได้จัดการวางระบบต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ใช้งานได้เป็นปกติ จากภาพนาฬิกานี้ผลิตโดยบริษัท Electric Time Company, Inc. อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา นาฬิกานี้มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 6 เมตร ติดตั้งอยู่บนผนังกระจกสถานีกลางบางซื่อ มีความสูงจากระดับพื้นดินถึงจุดศูนย์กลางนาฬิกา 21 เมตร สำหรับหน้าปัดนาฬิกาที่มีเพียงหมายเลข ๙ เกิดจากความตั้งใจของผู้ออกแบบ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของรัชกาลที่ ๙ และตั้งใจที่จะให้เป็นแลนด์มาร์กที่สำคัญของสถานี
3.โครงการนําร่องสถานีอัจฉริยะ (Smart Station) ด้วยเทคโนโลยี 5G เป็นการพัฒนาต้นแบบสถานีอัจฉริยะ ที่ใช้เทคโนโลยี 5G เต็มรูปแบบแห่งแรกในประเทศไทย และในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงบริการ 5G ได้จากที่นี่ เนื่องจากสถานีกลางบางซื่อจะเป็นศูนย์กลางแห่งการเดินทาง ทั้งทางบก ทางราง เชื่อมโยงไปถึงทางน้ำและทางอากาศด้วย ยกตัวอย่างบริการ 5G ที่อยู่ภายในสถานีกลางบางซื่อ เช่น เทคโนโลยีหุ่นยนต์ ปัญญาประดิษฐ์ และเทคโนโลยีอื่นๆ เพื่อช่วยเหลือนักเดินทาง ทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ มีระบบรักษาความปลอดภัย การให้บริการข้อมูลข่าวสารและความบันเทิงในระหว่างการเดินทาง รวมถึงการจัดการเดินขบวนต่างๆ คาดว่ามีผู้ใช้บริการกว่า 200,000 คน/วัน
4.เข้าใจถึงรูปแบบขบวนรถไฟสายสีแดง(The S.R.T. Red Line Mass Transit System Project) เป็นโครงการระบบขนส่งมวลชนทางรางในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลโดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ทำหน้าที่ในการบริการขนส่งผู้โดยสารที่อยู่อาศัยในพื้นที่ชานเมืองเข้าสู่กรุงเทพมหานคร ด้วยระบบรางที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เพื่อป้อนผู้โดยสารเข้าสู่โครงข่ายระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนอันได้แก่ รถไฟฟ้ามหานคร ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) หรือ รถไฟฟ้าบีทีเอส ของ กรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยมีสถานีหลักคือสถานีกลางบางซื่อ
5.เรียนรู้การพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีขนส่งมวลชนตามหลัก TOD เป็นแนวคิดการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีขนส่งมวลชน (Transit-Oriented Development หรือ TOD) คือการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีหรือระบบขนส่งมวลชน ที่มีการใช้ประโยชน์ที่ดินและกิจกรรมในรูปแบบผสมผสาน ทั้งตั้งอยู่ในระยะเดินเท้าจากสถานีขนส่งมวลชนและศูนย์กลางพาณิชยกรรม โดยจัดสรรการใช้พื้นที่ให้มีทั้งที่อยู่อาศัย ร้านค้า สำนักงาน พื้นที่โล่งว่าง และพื้นที่สาธารณะ รวมทั้งบริการพื้นฐานต่างๆ และส่งเสริมให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่เดินทางด้วยยานพาหนะหลากหลายประเภท ทั้งระบบขนส่งมวลชน จักรยาน และการเดินเท้า ลดการพึ่งพาการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล ซึ่งแนวคิด TOD ได้รับความสนใจในนโยบายการพัฒนาเมืองสมัยใหม่ สร้างโอกาสในการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีขนส่งมวลชนให้ใช้ได้เต็มประสิทธิภาพ การพัฒนาขนส่งมวลชนที่มีประสิทธิภาพสูงจะช่วยส่งเสริมให้ประชาชนมาใช้ระบบขนส่งมวลชนมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนทางราง การที่ปริมาณผู้ใช้ระบบขนส่งมวลชนสูงขึ้น นอกจากจะเพิ่มความคุ้มค่าในการลงทุนพัฒนาระบบขนส่งมวลชนทางรางที่มีมูลค่าสูงรวมทั้งต้นทุนในการพัฒนาสาธารณูปโภคในพื้นที่ความหนาแน่นสูงแล้ว ยังทำให้มูลค่าอสังหาริมทรัพย์ ที่พักอาศัยและสำนักงานที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงสูงขึ้น โดยภาครัฐหรือเอกชนที่ลงทุนในการพัฒนาระบบสามารถนำมูลค่าส่วนเพิ่มมาสนับสนุนเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนได้ โดยต้องมีการวางแผนครอบคลุมทุก ๆ ด้าน ได้แก่ ผังเมือง ข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดิน สาธารณูปโภค สาธารณูปการ และมาตรการต่าง ๆ

ในข้อหากระทำความผิดฐานร่วมกันเป็นอั้งยี่ ซ่องโจร

ที่ สน.ทองหล่อ
นายสันธนะ ประยูรรัตน์
อายุ 62 ปี อดีต รอง ผกก.พร้อมทีมงาน/ทนายความเข้ามอบตัวกับ
พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผกก.สน.ทองหล่อ หลังถูกศาลอาญากรุงเทพใต้ ออกหมายจับเลขที่ 362/2564 ในข้อหากระทำความผิดฐานร่วมกันเป็นอั้งยี่ ซ่องโจร ข่มขืนใจ จากคดีอุ้มรีดเรียกค่าไถ่ชาวไต้หวัน..

ให้รางวัลพิเศษแก่นักกีฬาในสังกัดกองทัพเรือเป็นกรณีพิเศษ อาสาสมัครทหารพรานหญิง สุดาพร สีสอนดี

ว่าที่ เรือโทหญิงพุทธรักษา โรคารักษ์ ผู้ช่วยโฆษกกองทัพเรือเปิดเผยว่า ภายหลังจากอาสาสมัครทหารพรานหญิง สุดาพร สีสอนดีนักกีฬามวยสากลหญิงรุ่น 60 กก.สังกัดกองทัพเรือ ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ประเทศญี่ปุ่นซึ่งผ่านเข้าสู่รอบ 4 คนสุดท้าย ถึงแม้จะพ่ายให้แก่ เคลลี แอนน์ แฮริงตัน จากไอร์แลนด์ แต่อาสาสมัครทหารพรานหญิง สุดาพรฯ จะได้รับรางวัลเหรียญทองแดง ทั้งนี้ ภายหลังเสร็จสิ้นการแข่งขัน พลเรือเอก ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือได้โทรศัพท์ให้กำลังใจ ที่นำชัยชนะเกียรติยศ และชื่อเสียงมาสู่ประเทศไทย โดย ได้ติดตามรับชมมาตลอด และเห็นว่า สุดาพรฯ ทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว

ผู้ช่วยโฆษก ฯ  เปิดเผยว่ากองทัพเรือโดย  พลเรือเอก     วศินสรรพ์  จันทวรินทร์  ประธานกรรมการบริหารสวัสดิการกีฬากองทัพเรือ  ได้ขออนุมัติรางวัลพิเศษและการบรรจุเข้ารับราชการ ให้แก่อาสาสมัครทหารพรานหญิง  สุดาพรฯ  ตามหลักเกณฑ์การขอเลื่อนยศและการให้รางวัลพิเศษแก่นักกีฬาในสังกัดกองทัพเรือเป็นกรณีพิเศษ 

สำหรับประวัติสุดาพรสีสอนดี มีชื่อเล่นว่าติ้ว เกิดเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2534 ที่อำเภอไชยวาน  จังหวัดอุดรธานี   สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี  จากคณะศึกษาศาสตร์  สถาบันการพลศึกษาวิทยาเขตสุโขทัย และกำลังรออนุมัติการสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโทคณะศึกษาศาสตร์เอกสังคมศาสตร์ภาษาและวัฒนธรรม วิทยาลัยทองสุข  ซึ่งตามหลักเกณฑ์การขอเลื่อนยศและเลื่อนฐานะตามลำดับชั้นนั้นในส่วนของผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพหรือคุณวุฒิปริญญาตรีให้เสนอขอปรับวุฒิและแต่งตั้งยศตามคุณวุฒิที่สำเร็จการศึกษาซึ่งตามหลักเกณฑ์ผู้ที่สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีจะเข้ารับการบรรจุในระดับสัญญาบัตรได้รับการแต่งตั้งยศเป็นเรือตรี

อาสาสมัครทหารพรานหญิง สุดาพร สีสอนดี ได้รับการบรรจุเป็นอาสาสมัครทหารพรานหญิงที่หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ในปี 2556 ปัจจุบันสังกัด กองร้อยทหารพรานนาวิกโยธินที่ 524 ชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานนาวิกโยธิน
และได้เข้าร่วมทีมมวยกองทัพเรือ โดยเข้าร่วมการแข่งขันในระดับชาติ โดยเป็นนักกีฬาของกองทัพเรือ ในทีมสโมสรราชนาวี ทำการแข่งขันรายการมวยสากลชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 ได้รางวัลชนะเลิศเหรียญทองในระดับประเทศไทย ในรุ่นที่ขึ้นชก ทำให้ทีมมวยของกองทัพเรือสโมสรราชนาวีสามารถครองถ้วยคะแนนรวมทีมหญิงและทีมสโมสรราชนาวีสามารถครองถ้วยคะแนนรวมถึง 8 สมัยติดต่อกัน จนถึงปัจจุบัน

   สำหรับผลงานที่สำคัญของอาสาสมัครทหารพรานหญิง สุดาพรฯ ในการแข่งขันรายการสำคัญ            เช่น 
  • รายการ Sea Games Indonesia 2011 ครั้งที่ 26 ในปี 2554 ณสาธารณรัฐอินโดนีเซียได้รับรางวัลชนะเลิศเหรียญทอง
  • รายการ Sea Games. ครั้งที่ 27 ณ สาธารณรัฐเมียนมาได้รับรางวัลชนะเลิศเหรียญเงิน
  • การแข่งขันเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 18 ในปี 2561 ณ กรุงจาการ์ตาสาธารณรัฐอินโดนีเซียได้รับรางวัลชนะเลิศเหรียญเงิน
  • รายการ Sea Games ที่ 30 ในปี 2562 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ได้รับรางวัลเหรียญทอง
    และล่าสุดก่อนเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกคือการแข่งขันคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ โซนเอเชียและโอเชียเนีย ที่กรุงอัมมานประเทศจอร์แดน ทั้งนี้ มีรายงานว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของอาสาสมัครทหารพราน สุดาพร สีสอนดีคือ พันจ่าเอก สุบรรณพันโนน อดีตนักมวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทยในรุ่นไลท์ฟลายเวทสังกัดสโมสรราชนาวี ซึ่งเคยคว้ารางวัล เหรียญทองเอเชียนเกมส์ 2541 เหรียญทองซีเกมส์ปี 2544 เหรียญทองแดง เอเชียนเกมส์ปี 2546 เหรียญเงินเอเชียนเกมส์ปี 2549 นอกจากนั้นยังเป็นตัวแทนทีมชาติไทยเข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์สองครั้งในปี 2543 (โอลิมปิก 200) ที่เมืองซิดนีย์เครือรัฐออสเตรเลีย และ ในปี 2547 (โอลิมปิก 2004) ที่กรุงเอเธนส์ประเทศกรีซ โดยปัจจุบัน พันจ่าเอก สุบรรณฯ เป็นข้าราชการกองทัพเรือตำแหน่ง เจ้าหน้าที่หมวดการฝึกและจัดการแข่งขัน แผนกการกีฬากองกิจการพิเศษฐานทัพเรือสัตหีบ ปัจจุบันช่วยราชการกองการกีฬากรมสวัสดิการทหารเรือและยังเป็นผู้ฝึกสอนให้กับทีมมวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทย ทั้งทีมชายและทีมหญิง ตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปัจจุบันโดยสามารถพานักกีฬามวยสากลทีมชาติไทยเข้าร่วมการแข่งขันรายการสำคัญมากมายอาทิ กีฬาซีเกมส์ เอเชียนเกมส์ และโอลิมปิกเกมส์

กอ.รมน.ร่วมบูรณาการสนับสนุนการจัดตั้ง รพ.สนามศูนย์คัดกรองทั่วประเทศ และ รพ.สนาม ทบ. ในพื้นที่ รพ.สังกัด ทบ. ทั่วประเทศ ๓๗ แห่ง


พร้อมเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับรู้ข้อมูลเข้ารับการรักษา
(๖ ส.ค. ๖๔) พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษก กอ.รมน. ได้แถลงว่าจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อโควิด – 19 ยังคงทวีความรุนแรง

โดยเฉพาะไวรัสกลายพันธุ์ชนิดสายพันธ์เดลต้าที่เชื้อโรคสามารถแพร่กระจายและติดต่อโรคกันได้โดยง่าย ทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในแต่ละวันเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องมีการแพร่ระบาดในวงกว้างทั่วประเทศ การดูแลช่วยเหลือประชาชนโดยเฉพาะผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อโควิด – 19 ถือเป็นภารกิจที่สำคัญเร่งด่วนของ กอ.รมน. ในการปฏิบัติงานเพื่อสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ปัญหาของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้เป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นรม. ในฐานะ ผอ.รมน. ที่ได้มอบหมายให้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. ในฐานะ รอง.ผอ.รมน. ดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหากับผู้ป่วยที่ยังไม่ได้เข้ารับการรักษาให้เข้าสู่ระบบอย่างรวดเร็วด้วยการตรวจหาเชื้อ, การคัดกรองผู้ติดเชื้อ, การแยกประเภทผู้ป่วย, การรักษาพยาบาลเบื้องต้น, การส่งผู้ป่วยเข้าสู่ระบบการรักษาตามความรุนแรงของโรคในการเข้าร่วมบูรณาการ กับทุกภาคส่วนทั้ง กองทัพบก, เจ้าหน้าที่สาธารณสุข, บุคคลกรทางการแพทย์, อสม. และสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) สนับสนุนการจัดตั้ง “รพ.สนามศูนย์คัดกรองสโมสร ทบ.” ในพื้นที่ส่วนกลาง และ รพ.สนาม ทบ. ทั่วประเทศทั้ง ๓๗ แห่ง พร้อมเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการจัดตั้ง รพ.สนาม สธ. จำนวน ๒๖ แห่ง (กองทัพบกสนับสนุนกำลังพล, อาคารสถานที่, เตียงผู้ป่วย, เครื่องนอนและสิ่งของเครื่องใช้จำเป็น) และปัจจุบันได้มีการจัดตั้ง รพ.สนาม ทบ. เพิ่มเติมในพื้นที่ รพ.สังกัด ทบ. ทั้ง ๓๗ แห่งทั่วประเทศ เพื่อรองรับผู้ป่วยที่มีจำนวนมากขึ้นและเพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายโรค ทั้งยังให้บริการดูแลรักษาผู้ป่วยเพื่อลดภาระของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่อีกด้วย และได้เตรียมการประสานงานเพื่อจัดตั้ง “รพ.สนามศูนย์คัดกรอง” ในส่วนภูมิภาคเป็นจุดให้บริการคัดกรองผู้ป่วยและเป็นจุดพักคอยเพื่อส่งต่อผู้ป่วยเข้ารับการรักษาใน รพ. ตามระบบต่อไป
สำหรับ “รพ.สนามศูนย์คัดกรองสโมสร ทบ.” พื้นที่ส่วนกลางมีขั้นตอนการให้บริการเริ่มจาก การลงทะเบียนยืนยันตัวบุคคล, การตรวจคัดกรองเชื้อเบื้องต้นโดย “รถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทาน” และรอผลตรวจประมาณ ๓๐ นาที หากผลไม่พบเชื้อจะได้รับใบรายงานผลแล้วกลับบ้านได้ หากผลตรวจพบเชื้อ จะได้รับการเอ็กซ์เรย์ปอดและเข้ารับการตรวจยืนยันโควิด – 19 อีกครั้งด้วยวิธีตรวจแบบ RT-PCR จากนั้นแพทย์จะทำการวินิฉัยอาการและรับการรักษาด้วยยารับประทาน พร้อมรับถุงยังชีพบรรจุสิ่งของที่จำเป็นสำหรับการกักตัวประกอบด้วย เครื่องวัดค่าออกซิเจนในเลือด, เครื่องวัดอุณหภูมิ, อุปกรณ์รักษาโรคเป็นต้น จากนั้นผู้ป่วยจะเข้าสู่ระบบการรักษาของสำนักอนามัย กทม. ด้วยการกักตัวที่บ้าน (Home Isolation), การกักตัวที่ชุมชน (Community Isolation), รพ.สนาม หรือ รพ.ของ กทม. และสาธารณสุขต่อไป
นอกจากนี้ กอ.รมน. ได้บูรณาการและเสริมสร้างให้เครือข่ายมวลชน กอ.รมน. จากทั่วประเทศเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อสร้างความเข้าใจชี้แจงกับประชาชนร่วมติดตามและเฝ้าระวังป้องกันแจ้งข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการต่อผู้หลบหนีเข้าเมืองตามแนวชายแดนโดยเฉพาะการดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเฉียบขาดต่อขบวนการนำพาผู้หลบหนีฯ สร้างความตระหนักรู้และการรับรู้กับประชาชนโดยเฉพาะการห้ามออกนอก เคหะสถานตามห้วงเวลาที่กำหนด และลดการเดินทางที่ไม่จำเป็นในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด การรณรงค์ให้ความสำคัญกับการฉีดวัคซีนเพื่อช่วยลดอาการรุนแรงและลดอัตราการเสียชีวิตเป็นหลัก ส่วนการป้องกัน การติดเชื้อยังคงให้ความสำคัญกับการป้องกันตนเองและการป้องกันการแพร่ระบาดด้วยการสวมอุปกรณ์ป้องกันตนเอง (หน้ากากอนามัย), การใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมืออย่างถูกวิธีรวมทั้งการดูแลเขตสุขาภิบาลและสิ่งแวดล้อมของ ส่วนบุคคลและส่วนรวมตามมาตรฐานของกรมอนามัย สธ.

“เฉลิมชัย” ปลื้มโครงการ”เกษตรกรแฮปปี้” ขายมังคุดวันที่ 8 เดือน 8 เกินคาด เตรียมคิกออฟซูเปอร์เซลล์ลำไย ลองกอง

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวในวาระเป็นประธานเปิดโครงการเกษตรกรแฮปปี้ 8.8(วันที่8เดือน8)ในวันนี้(8 สิงหาคม 2564)ว่า ภายใต้แนวคิด”คนกินยิ้มได้ เกษตรกรไทยแฮปปี้”ที่ฟรุ้ทบอร์ดโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ริเริ่มขึ้น เป็นแคมเปญมังคุดดี 4 โล 100 ส่งตรงถึงบ้านจากเมืองใต้ นับเป็นโปรโมชั่นพิเศษสำหรับมังคุด ราชินีแห่งผลไม้ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากหลากหลายภาคส่วน

“ภายใต้วิกฤตที่เกิดขึ้นสิ่งสำคัญที่สุดคือความร่วมมือร่วมใจที่คนไทยทุกคนต้องช่วยกัน และช่วยกันบริโภคผลไม้ไทย เราต้องดูแลชาวสวนทุกจังหวัดพาฝ่าวิกฤตโควิดไปด้วยกัน แม้วันนี้จะมีสัญญาณที่ดีว่าราคามังคุดทั้งหน้าแผงและหน้าล้งปรับตัวสูงขึ้น แต่ยังมีความไม่แน่นอนของเสถียรภาพราคา จึงต้องมีมาตรการเสริมเพื่อช่วยกระตุ้นการบริโภค โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคในประเทศในภาวะที่การส่งออกยังมีอุปสรรคจากสถานการณ์โควิด-19จากการเปิดสั่งซื้อล่วงหน้าจนถึงวันนี้มีปริมาณเกินคาด
“ขอขอบคุณทุกภาคส่วน ที่ช่วยกันสนับสนุนเกษตรกรไทย และขอเชิญชวนทุกท่านให้ช่วยกันสั่งซื้อมังคุดดี สดจากต้น อร่อย ส่งตรงจากสวนเมืองใต้ ที่ตั้งใจปลูกโดยชาวสวนแท้ ๆ รับประกันคุณภาพโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ท่านจะมีส่วนสำคัญในการสร้างรอยยิ้ม และส่งกำลังใจให้ชาวสวนมังคุดด้วย นอกจากนี้ยังมอบหมายทีมงานให้เตรียมการคิกออฟรายการโปรโมชั่นจำหน่ายลำไยและลองกองในเร็วๆนี้” นายเฉลิมชัย กล่าว

ในขณะที่นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าทีมพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) เฉพาะกิจ กล่าวรายงานว่า โครงการ”เกษตรกรHappy”เป็น1ในหลายโครงการตามมาตรการเร่งด่วนเป็นการปรับกลยุทธ์ใหม่ของFruit Boardจากผลกระทบโควิดเป็นโครงการเสริมจากแผนบริหารจัดการผลไม้ภาคใต้และภาคเหนือฤดูการผลิตปี2564

โดยเร่งจำหน่ายขายในประเทศเพิ่มขึ้นในระหว่างที่ระบบขนส่งไปต่างประเทศติดขัดจากผลกระทบโควิด19ตามข้อสั่งการของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้Fruit boardและรองนายกรัฐมนตรี จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีพาณิชย์ โดยความร่วมมือระหว่างภาครัฐภาคเอกชนภาคเกษตรกรเช่น กระทรวงเกษตร กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงดีอี กระทรวงมหาดไทยบริษัทไปรษณีย์ไทย บริษัทเซนทรัลพัฒนาในเครือเซนทรัลกรุ๊ป บริษัทแกร็บประเทศไทย ร้านธงฟ้า Top คณะอนุกรรมการอีคอมเมิร์ซ และคณะอนุกรรมการธุรกิจเกษตร กระทรวงเกษตรฯเป็นต้นโดยร่วมแรงร่วมใจช่วยเกษตรกรไทยฝ่าวิกฤติโควิดไปด้วยกัน
“วัตถุประสงค์หลักของโครงการเกษตรกรแฮปปี้ มีดังนี้ 1. เพื่อช่วยชาวสวนผลไม้ในช่วโดยเฉพาะในช่วงที่ผลผลิตออกมามาก มีผลทำให้ราคาลดต่ำลง ผนวกกับสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อราคาโดยตรง 2. สร้างกลไกการระบายออกจากแหล่งผลิตด้วยแพลตฟอร์มออนไลน์และออฟไลน์ 3. ยกระดับราคามังคุด และผลไม้อื่นเช่น ลำไย เงาะ ลองกอง และ 4. รักษาระดับราคาเพื่อให้เกิดเสถียรภาพ เพื่อให้ชาวสวนมีรายได้เพิ่มมากขึ้น

โปรตีน.สำหรับผู้สูงอายุ และเป็นเบาหวาน พร้อมลดน้ำตาล และเสริมสร้างป้องกันปัญหา ข้อเข่าเสื่อม

 ฟังจากประสบการณ์ เรื่องเล่าจากผู้ที่ ได้ทานโปรตีน melt away
ผมชื่อประสิทธิ์สกุลวิทยสถาวรอายุ 72 ปี 

มยังจำได้ตอนแม่ผมอายุ 70 ปีเป็นเบาหวานไตวายแกต้องฟอกไตสัปดาห์ละ 3 ครั้ง

ใน 4 ปีแรกแล้วก็เพิ่มเป็นสัปดาห์ละ 4 ครั้งฟอกอยู่จนอายุ 83 ผมเห็นเหนื่อยหิวน้ำก็กินได้ทีละน้อยเพราะถ้ากินมากก็ขับออกไม่ได้ต้องไปโรงพยาบาลวันเว้นวันท่านเสียชีวิตตอนอายุ 83 เท่ากับฟอกไต 13 ปี ผมเห็นท่านและพาท่านไปฟอกไตสับเปลี่ยนกับน้องสาวตอนนั้นผมอายุ 48 ปี

         ผมก็เริ่มระวังเรื่องของหวานแต่น้ำตาลก็ยังขึ้นขึ้นลงลงน้ำตาลในเลือดจะวัดได้ 115 บางครั้งทานของหวานตอนเย็นเช้าวัดได้ 135 ถึง 145 ก็มี 

         ผมรู้สึกว่าการเดินของผมเริ่มเดินเซและเสียวหัวเข่าหมอบอกกระดูกข้อหัวเข่าเสื่อม เขาแนะนำว่าต้องทานโปรตีน
         
เพื่อสร้างกล้ามเนื้อก็เลยลองไปซื้อโปรตีนทานอยู่ประมาณ 12 สัปดาห์อาการที่เสียวหัวเข่าเริ่มดีขึ้นเดินไม่เซและเรื่องที่ผมคาดไม่ถึงก็คือน้ำตาลที่เคยเกินไม่เคยลดลงได้กลับลดลงเหลือ 96-106 โดยที่ทานของหวานบ้างปัจจุบันผมทานของหวานได้มากขึ้นน้ำตาลในเลือดก็ไม่เกิน 108
          
          ในประเทศญี่ปุ่นแพทย์ทางโภชนาการได้ทำการทดลองเกี่ยวกับน้ำตาลในเส้นเลือด
โดยผู้ที่มีกล้ามเนื้อ 4 คนและผู้ไม่มีกล้ามเนื้อ 4 คนโดยให้คน 2 กลุ่มดื่มน้ำหวานที่เข้มข้นคนละ 1 แก้วใหญ่ก่อนดื่มวัดน้ำตาลในเลือดให้เท่ากันอยู่ที่ 100 หลังจากดื่มไปแล้ว 30 นาทีวัดกลุ่มที่มีกล้ามเนื้อน้ำตาลขึ้นเล็กน้อย 120 และวัดกลุ่มที่ไม่มีกล้ามเนื้อขึ้นถึง 180 ผมจึงคิดว่าการที่น้ำตาลในเลือดลดลงได้ต้องเกี่ยวกับกล้ามเนื้อที่ได้จากโปรตีน สินค้า ชื่อ melt away แน่นอนเพราะได้พิสูจน์แล้วว่าน้ำตาลในเลือดเกี่ยวกับกล้ามเนื้อของร่างกายเพราะตอนที่ยังไม่ได้ทานโปรตีนmelt away (เมลล์อเวย์)ผมต้องคอยวัดน้ำตาลในเลือดทุกๆวันตอนนี้ผมวัด 3 เดือนครั้งน้ำตาลในเลือดอยู่คงที่ 108
ทำไมผู้สูงอายุจึงเป็นเบาหวานสูงในอายุ 45 ขึ้นไปเพราะผู้สูงอายุไม่สามารถสร้างกล้ามเนื้อจากอาหารประจำวันจึงจำเป็นต้องได้เพิ่มโปรตีนให้แก่ร่างกาย เวย์ เป็นโปรตีนที่สกัดจากนมนำเข้าจากอเมริกา แยกไขมันและน้ำตาลออกจากนม เหลือแต่โปรตีน melt away จึงเป็นโปรตีนที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมาก สำหรับอายุผู้สูงอายุ รับประทานเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ สร้างภูมิคุ้มกันลดน้ำตาลในเลือดได้
บริษัท กู๊ด เฮ้ลท์ ฟู๊ด จำกัด
GOOD HEALTH FOOD CO., LTD. เลขทะเบียน 0105564014439
 สนใจผลิตภัณฑ์สั่งซื้อสินค้า โทร 021075905  คุณวงศพัทธ์  รังสรรค์ปรีชา ประธานกรรมการผู้จัดการ 0811010930

เฉลิมชัยปลื้มนายกฯ อุดหนุนผลไม้ช่วยเกษตรกรในสถานการณ์โควิด-19

กรุงเทพฯ 4 ส.ค. – รมว. เฉลิมชัยเผย เร่งเดินหน้าโครงการ “เกษตรกร Happy” ประสานไปรษณีย์และผู้ประกอบการเอกชน ขนส่งผลไม้ภาคใต้สู่ผู้บริโภคโดยตรง ปลื้มใจนายกรัฐมนตรีอุดหนุนผลไม้ช่วยเกษตรกรและส่งมอบให้บุคลากรด่านหน้า ร่วมฝ่าวิกฤติโควิด-19

ผู้รับในพื้นที่สีแดงทุกพื้นที่ ซึ่งได้รับการยืนยันว่า บริษัท ไปรษณีย์ไทยจะเร่งกำชับไปรษณีย์ทุกสาขาดำเนินการตามข้อเสนอ แต่การจัดส่งอาจช้ากว่าปกติ 1 วันเพราะต้องใช้สาขาปลายทางที่อยู่นอกพื้นที่สีแดงผลัดเวรกันส่งเนื่องจากก่อนหน้านี้พนักงานสบางคนของสาขาในพื้นที่สีแดงติดโควิด-19 โดยไปรษณีย์ไทยจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อช่วยชาวสวน ซึ่งขอขอบคุณบริษัทไปรษณีย์ไทยและกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ดีอีเอสที่ร่วมมือ นอกจากนี้ได้ขอความร่วมมือไปยังบริษัทเคอรรี่ ซึ่งตกลงที่จะเปิดบริการอีกครั้งเช่นกัน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากโควิด19 เนื่องจากระบบขนส่งเป็นกลไกสำคัญในการค้าขายและระบายผลไม้ออกจากแหล่งผลิตทั้งการค้าแบบออฟไลน์และออนไลน์

 ทั้งนี้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมห่วงใยเกษตรกร โดยมอบหมายให้กระทรวงเกษตรฯประสานกับหน่วยงานต่างๆ ช่วยเหลือเกษตรกร ซึ่งเมื่อวานนี้นายกฯ ซื้อผลไม้ทั้งมังคุดภาคใต้และลำไยภาคเหนือ แล้วส่งมอบเป็นกำลังใจไปให้กับเจ้าหน้าที่และจิตอาสาด่านหน้าด้วย

นายเฉลิมชัยกล่าวต่อว่า มอบหมายให้นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารมว. เกษตรฯ เดินทางไปภาคใต้เพื่อช่วยแก้ไขขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์และปัญหาการขาดแคลนแรงงานรวมทั้งการขอความร่วมมือผู้ประกอบการค้าผลไม้(ล้ง)ทั้งค้าภายในและส่งออกให้ลงมาซื้อมังคุดด้วยมาตรการที่ยืดหยุ่นมากขึ้น โดยประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดที่เกี่ยวข้องทำให้สถานการณ์เริ่มกระเตื้องขึ้น เช่นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชมีล้งเข้ามาซื้อขายมังคุดและผลไม้เพิ่มขึ้นจาก 40 ล้งเป็น 146 ล้ง นอกจากนี้สมาคมผู้ส่งออกทุเรียนมังคุดแจ้งว่า สามารถจองตู้คอนเทนเนอร์ที่จะส่งออกผลไม้ทางเรือได้แล้วตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคมซึ่งจะทำให้ลดการขนส่งทางรถไปประเทศจีนที่แออัดติดขัดที่ด่านโหยวอี้กวนและด่านโมฮ่านมีผล จนทำให้ตู้คอนเทนเนอร์หมุนกลับมาภาคใต้ไม่ทันนั้นดีขึ้น หากตู้คอนเทนเนอร์ทยอยกลับมาขนมังคุดได้มากขึ้นภายในไม่กี่วันข้างหน้า จะทำให้การซื้อขายเพิ่มขึ้นและส่งผลต่อราคาที่จะขยับตัวสูงขึ้น
“ขอให้คนไทยช่วยกันอุดหนุนผลไม้ไทย ผ่าน facebook : Thailandpostmart และเว็บไซต์ของไปรษณีย์ไทย www.Thailandpostmart.com ได้แก่ มังคุด จ.นครศรีธรรมราช เงาะ จ.สุราษฎร์ธานี และลำไย จ.พะเยา ด้วยการการตลาดแบบใหม่ใช้ช่องทาง  Line My Shop และ QR Code ให้ผู้ซื้อ/ลูกค้า ทราข้อมูลเกี่ยวกับผลไม้และราคาที่นำมาขายและสามารถสแกนซื้อที่ QR Code ของโครงการได้เลย โดยกระทรวงพาณิชย์จะสนับสนุนค่าขนส่งและค่ากล่องให้กับประชาชนที่สั่งซื้อผลไม้ออนไลน์ผ่าน Thailandpostmart ของไปรษณีย์ซึ่งไปรษณีย์ไทยจัดส่งให้ฟรีทั่วไทยด้วย ซึ่งเป็นการช่วยเหลือเกษตรกร นอกจากนี้อาจส่งมอบแก่บุคลากรด่านหน้าเพื่อเป็นกำลังใจด้วย”นายเฉลิมชัยกล่าว

นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า จากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงมาตรการป้องกันและควบคุมเชื้อโรคของประเทศคู่ค้าโดยเฉพาะประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดส่งออกมังคุดและผลไม้อื่น ๆ ของไทย ที่เกิดจากปัญหาการขนส่งล่าช้า การขาดแคลนตู้คอนเทรนเนอร์และตะกร้าใส่ผลไม้ รวมทั้งปัญหาการเคลื่อนย้ายแรงงานเข้าพื้นที่ที่ทำได้ยาก การขาดแคลนแรงงาน และตะกร้ามีไม่พอเช่นกัน ซึ่งหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งระดับนโยบายและระดับพื้นที่ เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน กระทรวงพาณิชย์มีแนวทางมาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยกระจายมังคุดในประเทศ

  1. เชื่อมโยงและกระจายมังคุดออกนอกแหล่งผลิตโดยสนับสนุนค่าบริหารจัดการแก่ศูนย์กระจายในจังหวัดแหล่งผลิตกิโลกรัมละ 3 บาทซึ่งกรมการค้าภายในโอนเงินให้จังหวัดดำเนินการจำนวน 50,850,000 บาทตามที่ฟรุ้มบอร์ดอนุมัติเพื่อกระจายมังคุดจำนวน 16,950 ตันออกนอกแหล่งผลิตอย่างเร่งด่วน
  2. สนับสนุนค่าขนส่งสำหรับผลไม้ที่ส่งผ่านไปรษณีย์กรมการค้าภายในร่วมกับบริษัทไปรษณีย์ไทยสนับสนุนกล่องไปรษณีย์และสติกเกอร์ส่งฟรีผลไม้ทั่วประเทศส่งเสริมการขายผ่านออนไลน์แก่เกษตรกรรายย่อยจำนวน 20,000 กล่องกล่องละ 10 กิโลกรัมเพื่อช่วยกระจายผลเม้ 2000 ตันโดยได้จัดส่งกล่องพร้อมสติกเกอร์ให้จังหวัดต่างๆ แล้ว
  3. เชื่อมโยงผู้รับซื้อของกรมการค้าภายในให้ช่วยเร่งระบายมังคุดเกรดรองหรือตกเกรดออกจากแหล่งผลิตโดยเร่งด่วน กรณีเกิดปัญหาระบายมังคุดไม่ทันในบางพื้นที่. – สำนักข่าวไทย

พระมหาเขมานันท์ ปิยสีโล ป.ธ.9 เจ้าอาวาสวัดลาดปลาเค้าและเจ้าคณะเขตลาดพร้าว และกลุ่มเส้นด้าย มูลนิธิแพทย์ชนบท สำนักงานเขตลาดพร้าว ร่วมกับโรงเรียน และวัดลาดปลาเค้า

ตรวจหา covid เชิงรุกฟรี

พระมหาเขมานันท์ ปิยสีโล ป.ธ.9 เจ้าอาวาสวัดลาดปลาเค้าและเจ้าคณะเขตลาดพร้าว และกลุ่มเส้นด้าย มูลนิธิแพทย์ชนบท สำนักงานเขตลาดพร้าว ร่วมกับโรงเรียน และวัดลาดปลาเค้า

ตรวจหา covid เชิงรุกฟรี ตั้งแต่เวลา 9.00 น.- 17.00 น. ณ โรงเรียนลาดปลาเค้าพิทยาคม จำนวน 1,000 คน

โรงเรียนลาดปลาเค้าพิทยาคม จำนวน 1,000 คน
หากท่านใดสนใจ สามารถเข้ารับตรวจได้ ตามรายละเอียดดังนี้

1.รับบัตรคิวหน้าโรงเรียน 8.00 น.เป็นต้นไป
2.เตรียมเอกสารที่จำเป็นคือ
📍สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
📍ปากกา (ต้องนำมาเอง)
3.ทราบผลทันที
4.กรณีทราบผลว่าติด จะได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ พร้อมทั้งนำเข้าสู่ระบบ telemedic สื่อสารกับแพทย์ทันที
ทั้งนี้ทางวัดและโรงเรียนได้ให้ความร่วมมือเพื่อช่วยชุมชนตามนโยบาย สพฐ. และดำเนินการตามมาตรการการป้องกัน covid 19 อย่างเคร่งครัด

เร่งติดตั้งสัญญาณฟรีไวไฟตามจุดฉีดวัคซีน รพ.สนาม จุดพักคอย พื้นที่ชุมชน ทั่วประเทศ ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย

นายณัฐฐินันท์ สุขสมพงษ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทเอ็นที บัซซ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือเอ็นที กล่าวถึงการขยายการติดตั้งจุดทดสอบให้บริการ บัซซ์ พริวิเลจ ฟรีไวไฟ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ว่า


ได้มีการให้บริการฟรีไวไฟในพื้นที่กว่า 1,000 จุด ครอบคลุมพื้นที่ชุมชน บริเวณชายหาด ตลาด และหน่วยงานราชการต่างๆ ของจังหวัดภูเก็ต และมีแผนดำเนินการขยายการติดตั้งเพื่อให้บริการเพิ่มเติมในแหล่งชุมชนต่างๆ เพื่อรองรับการใช้งานให้มากที่สุดในเร็วๆนี้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น หากโรงพยาบาลสนาม จุดฉีดวัคซีน ศูนย์พักคอย จุดใดที่ต้องการติดตั้งอุปกรณ์เพื่อรับสัญญาณฟรีไวไฟให้แจ้งมาได้เลย

ด้าน นายอภิชัจ อินสว่าง รองประธานกรรมการ สายงานพัฒนาธุรกิจองค์กรฯ กล่าวเสริมว่า ด้วยจังหวัดภูเก็ตจัดอยู่ในโครงการแซนด์บ็อกซ์ของรัฐบาล ทำให้มองเห็นถึงศักยภาพของจังหวัดว่าสามารถมีความพร้อมในการเปิดทดสอบการให้บริการได้ และจากการลงพื้นที่ได้รับการตอบรับจากประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ เรายังได้เปิดให้บริการฟรีตามจุดฉีดวัคซีน โรงพยาบาลสนาม และจุดพักคอยต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑลด้วย ทั้งนี้กำลังเร่งติดตั้งระบบและอุปกรณ์เพื่อให้บริการที่จุดฉีดวัคซีน โรงพยาบาลสนาม และจุดพักคอย ในพื้นที่ของจังหวัดต่างๆต่อไป
ต้องการติดตั้งอุปกรณ์เพื่อรับสัญญาณ Free WiFi หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ทาง mkt.buzzwifi@ntibuzz.com

กองทัพเรือชี้แจงกรณีเรือรบอังกฤษเข้าร่วมฝึกในประเทศไทย

วันนี้ (2 สิงหาคม 2564) เวลา 13.00 น. พลเรือเอกเชษฐา ใจเปี่ยม โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ตามที่ มีการเผยแพร่ข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ระบุว่าเรือรบสหรัฐอาณาจักร ร่วมฝึกกับ กองทัพเรือไทย ตามแผนร่วมสร้างเสรีภาพที่ดีและเปิดกว้าง โดยระบุว่าเรือหลวงริชมอนด์เข้ามาฝึกกับเรือรบ ซึ่งนับเป็นการเยือนไทยครั้งแรกของเรือสหราชอาณาจักรอังกฤษในรอบ 7 ปี ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด19 ในประเทศไทย พร้อมทั้งวิเคราะห์ว่าเป็นการแสดงกำลังเพื่อคัดค้านอิทธิพลของจีนที่กำลังมีอยู่ในภูมิภาค นั้น
โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า เรือหลวงริชมอนด์ ของสหราชอาณาจักร เป็นเรือรบประเภทฟริเกต ซึ่งมีแผนเดินทางผ่านประเทศไทยด้านทะเลอันดามัน ช่วงระหว่างวันที่ 22 – 25 กรกฎาคม 2564 โดยไม่ได้แวะจอดเยี่ยมเมืองท่าประเทศไทย โดยในระหว่างการเดินเรือผ่านทะเลอันดามันนั้น มีความประสงค์จะขอทำการฝึก passex กับ กองทัพเรือไทย ในวันที่ 24 กรกฎาคม 2564 ซึ่งการฝึกในลักษณะดังกล่าวเป็นการฝึกทั่วไปที่ปกติเรือรบต่างชาติสามารถประสานผ่านสถานฑูตอังกฤษในประเทศไทย เพื่อขอทำการฝึกกับประเทศที่เดินเรือผ่านเพื่อสร้างความคุ้นเคยและเพิ่มทักษะการปฏิบัติการทางเรือทั่วไป ไม่ได้มีเป็นการฝึกขนาดใหญ่ ที่มีรหัสการฝึก และต้องมีการวางแผนร่วมกันล่วงหน้าเป็นกิจลักษณะ ซึ่งตามธรรมเนียมปฏิบัติแล้วเรือรบทุกชาติที่เดินเรือผ่านไปในน่านน้ำใดๆ มักจะนิยมขอทำการฝึก Passex ซึ่งใช้เวลาไม่นานและมีหัวข้อการฝึกพื้นฐานในระหว่างเดินเรือผ่าน เพื่อฝึกความคุ้นเคยและทักทายกันแบบชาวเรือ ในการนี้ กองทัพเรือ โดย ทัพเรือภาคที่ 3 ได้จัดเรือและอากาศยานเข้าร่วมฝึก โดยจัดกำลัง ประกอบด้วย เรือกระบุรี และ เฮลิคอปเตอร์ลำเลียงแบบที่ 4 มีหัวข้อการฝึก ประกอบด้วย การแปรกระบวน การชักธงประมวลสากล การส่งไฟสากล และการจัดรูปกระบวนถ่ายภาพ ใช้เวลาการฝึกในห้วง 14.00 – 15.00 น. พื้นที่ฝึกด้านใต้เกาะสิมิลัน ออกจากทับละมุไปประมาณ 40 ไมล์ การปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยเรือรบสหราชอาณาจักรไม่ได้เข้าจอดในพื้นที่ภูเก็ตแต่อย่างใด
สำหรับการฝึก PASSEX นั้นย่อมาจาก Passing Exercise ซึ่งการฝึกในลักษณะนี้โดยส่วนใหญ่แล้วจะกระทำเมื่อมีเรือของกองทัพเรือมิตรประเทศ เดินเรือเข้ามาจอดในน่านน้ำไทย โดยการฝึก PASSEX แม้ไม่มีการฝึกใช้อาวุธจริงเหมือนการฝึกใหญ่ๆ แต่ก็เป็นการฝึกที่ช่วยสร้างความเข้าใจและความคุ้นเคยในการปฏิบัติงานร่วม กันระหว่างกองทัพเรือของทั้งสองชาติ ซึ่งที่ผ่านมากองทัพเรือ ได้จัดกำลังเข้าร่วมการฝึก PASSEX กับกองทัพมิตรประเทศที่เดินเรือผ่านน่านน้ำไทยตามธรรมเนียมปฏิบัติ ทั้ง อินเดีย ญี่ปุ่น จีน รวมถึงรัสเซีย เมื่อวันที่ 17 -​ 20 ตุลาคม 2562 ในโอกาสที่ หมู่เรือเดินทางของกองทัพเรือรัสเซีย ซึ่งประกอบด้วย เรือตรวจการณ์ ADMIRAL​ VARYAG เรือพิฆาต ADMIRAL PANTELEYEV และเรือส่งกำลังบำรุง​ ADMIRAL​ PECHENGA เดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ และเข้าจอด ณ ท่าเรือจุกเสม็ด การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดย
ทัพเรือภาคที่ 1 ได้จัด เรือหลวงรัตนโกสินทร์ และเฮลิคอปเตอร์แบบ S-76 ร่วมฝึก PASSEX กับหมู่เรือ กองทัพเรือรัสเซีย ในครั้งนี้

สำนักงานโฆษกกองทัพเรือ