แจงไม่ได้ใช้เงินบริจาคแต่มูลนิธิออมสินมอบให้ เผยนายกฯห่วงให้ทำให้เรียบร้อย ยัน”นิตยา”ไม่ใช่หัวคะแนนถูกการเมืองป้ายสี สั่งกรมบังคับคดีปรับการทำงานยึดเอื้ออาทรเป็นหลัก
เมื่อเวลา 10.30 น. ที่บ้านเลขที่ 20/3 หมู่ที่ 6 ตำบลปากน้ำ อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีมอบบ้านเดี่ยว 1 หลังให้แก่ 4 แม่เฒ่า และทำบุญบ้านใหม่ โดยมี นายวิรุฬ พรรณเทวี ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ นายชูศักดิ์ คีรีมาศทอง ส.ส.สุโขทัย พรรคพลังประชารัฐ ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม นายอำเภอศรีสำโรง เจ้าหน้าที่ธนาคารออมสิน ผู้นำท้องถิ่น ร่วมงาน
นานสมศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้ความสำเร็จการแก้ปัญหา ต้องขอบคุณ ธนาคารออมสินที่เป็นที่พึ่ง เป็นธนาคารเพื่อสังคมแก้ปัญหาความยากจน ความเหลื่อมล้ำทางสังคม และดูแลความเป็นอยู่ที่ดี ปัญหาของเรื่องนี้เริ่มต้นที่ส่วนที่เกี่ยวข้องได้ประสานงานมาทางตน และตนประสานผ่าน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีและ ท่านได้ส่งข่าวไปยัง นายวิทัย รัตนากร ผอ.ธนาคารออมสินและมูลนิธิออมสินเพื่อสังคม ซึ่งได้เห็นความเดือดร้อนของ 4 แม่เฒ่า จึงได้มอบบ้านให้ดำรงชีพมูลค่า 1,400,000 บาท โดยไม่ต้องจ่ายเงินซื้อ โดยมอบผ่านมูลนิธิ ซึ่งหลายท่านสงสัยเรื่องเงินบริจาคของประชาชนในขณะนี้ ยอดรวมเงินบริจาคประมาณ 2,100,000 บาท รวมทั้งบ้านและเงินบริจาคมูลค่า 3,500,000 บาทเราไม่ได้เอาเงินบริจาคมาซื้อบ้าน ยังอยู่เต็มๆ แต่บ้านนี้เป็น มูลนิธิออมสินที่รับผิดชอบทั้งหมด ส่วนบ้านหลังเดิม ใครมีสติปัญญาทางกฎหมายจะช่วยแม่เฒ่าอย่างไร เราเปิดโอกาสให้ช่วยได้เต็มที่ แต่ตนคงไม่ไปยุ่งเกี่ยวแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พิธีในวันนี้ มีนางโปรย อนุเคราะห์ และนางตะล่อม ทิมแย้ม เป็นตัวแทน 4 แม่เฒ่ามาร่วมพิธีรับมอบ ส่วนน.ส.ศรีนวล ทิมแย้ม และน.ส.แฉล้ม ทิมแย้ม มีอาการป่วยต้องไปพบแพทย์และจะเข้ามาที่บ้านในช่วงเย็น ทั้งนี้นายสมศักดิ์ ได้มอบพระพุทธรูปเพื่อเป็นศิริมงคลแก่บ้านใหม่ด้วย ซึ่งงานในวันนี้ก็ยังมีภาครัฐและภาคเอกชนได้เข้ามอบเงินช่วยเหลือ 4 แม่เฒ่าอีกกว่า 3 แสนบาท ซึ่งยังคงมีการเปิดรับเรื่อยๆ
หลังเสร็จพิธี นายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ท่านนายกรัฐมนตรีเป็นห่วงในเรื่องนี้ และได้กำชับ ส่งข้อความมาหาตนเมื่อคืนให้ทำให้เสร็จ ซึ่งตนได้ชี้แจงรายละเอียดและรายงานผลเรียบร้อยแล้ว ซึ่งในส่วนของเงินบริจาคจะเก็บไว้ให้คุณยายทั้ง 4 คนใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน โดยจ่ายเดือนละ 1,600 รวมกับ เบี้ยผู้สูงอายุ 800 บาท รวมเป็นเงิน 2,400 บาทต่อเดือน เฉลี่ยจะได้ประมาณ 30 ปี โดยจะมีคณะกรรมการคอยดูแล เบิกจ่ายจากบัญชีสงเคราะห์ ในส่วนของการบังคับคดี ตนก็มีข้อติดใจอยู่ อาจจะมีเรื่องของการเอื้ออาทร ซึ่งคงจะมีการปรับการทำงานของกรมบังคับคดี ให้เพิ่มเรื่องการเอื้ออาทรให้เหมือนกับธนาคารออมสิน มีความเป็นมนุษยธรรมมากขึ้น เรื่องนี้ต้องดำเนินการ และได้ร่างแนวทางไว้แล้ว สัปดาห์หน้าจะได้แจ้งให้ทุกหน่วยงานของกระทรวงในแต่ละจังหวัดประชุมกัน นอกจากนี้ตนขอประชาสัมพันธ์การทำงานของกองทุนยุติธรรม ซึ่งมีเงินช่วยเหลือผู้เสียหายในคดีอาญา และจำเลยที่สามารถช่วยด้านการประกันตัว
“มีคนครหาบอกว่านางนิตยา จิวตระกูล โจทย์ผู้ฟ้อง 4 แม่เฒ่า เป็นหัวคะแนนและสนิทกับผม ขอยืนยันไม่เป็นความจริง การให้ข้อมูลลักษณะนี้เป็นเกมการเมือง เป็นการพยายามให้ร้ายป้ายสีผม พฤติกรรมเช่นนี้เป็นการกระทำที่เลวจริงๆ ตนไม่ได้สนิทสนมและไม่เคยพบกับนางนิตยา 20 กว่าปีแล้ว ซึ่งเมื่อวานตนรู้สึกโกรธมากที่ไปหาที่บ้านแต่ไม่เปิดบ้านให้พบ ดังนั้นข้อครหาไม่เป็นความจริง”นายสมศักดิ์ กล่าว
///