“สมศักดิ์”ทำบุญบ้านใหม่ 4 แม่เฒ่า

แจงไม่ได้ใช้เงินบริจาคแต่มูลนิธิออมสินมอบให้ เผยนายกฯห่วงให้ทำให้เรียบร้อย ยัน”นิตยา”ไม่ใช่หัวคะแนนถูกการเมืองป้ายสี สั่งกรมบังคับคดีปรับการทำงานยึดเอื้ออาทรเป็นหลัก

เมื่อเวลา 10.30 น. ที่บ้านเลขที่ 20/3 หมู่ที่ 6 ตำบลปากน้ำ อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีมอบบ้านเดี่ยว 1 หลังให้แก่ 4 แม่เฒ่า และทำบุญบ้านใหม่ โดยมี นายวิรุฬ พรรณเทวี ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ นายชูศักดิ์ คีรีมาศทอง ส.ส.สุโขทัย พรรคพลังประชารัฐ ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม นายอำเภอศรีสำโรง เจ้าหน้าที่ธนาคารออมสิน ผู้นำท้องถิ่น ร่วมงาน

นานสมศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้ความสำเร็จการแก้ปัญหา ต้องขอบคุณ ธนาคารออมสินที่เป็นที่พึ่ง เป็นธนาคารเพื่อสังคมแก้ปัญหาความยากจน ความเหลื่อมล้ำทางสังคม และดูแลความเป็นอยู่ที่ดี ปัญหาของเรื่องนี้เริ่มต้นที่ส่วนที่เกี่ยวข้องได้ประสานงานมาทางตน และตนประสานผ่าน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีและ ท่านได้ส่งข่าวไปยัง นายวิทัย รัตนากร ผอ.ธนาคารออมสินและมูลนิธิออมสินเพื่อสังคม ซึ่งได้เห็นความเดือดร้อนของ 4 แม่เฒ่า จึงได้มอบบ้านให้ดำรงชีพมูลค่า 1,400,000 บาท โดยไม่ต้องจ่ายเงินซื้อ โดยมอบผ่านมูลนิธิ ซึ่งหลายท่านสงสัยเรื่องเงินบริจาคของประชาชนในขณะนี้ ยอดรวมเงินบริจาคประมาณ 2,100,000 บาท รวมทั้งบ้านและเงินบริจาคมูลค่า 3,500,000 บาทเราไม่ได้เอาเงินบริจาคมาซื้อบ้าน ยังอยู่เต็มๆ แต่บ้านนี้เป็น มูลนิธิออมสินที่รับผิดชอบทั้งหมด ส่วนบ้านหลังเดิม ใครมีสติปัญญาทางกฎหมายจะช่วยแม่เฒ่าอย่างไร เราเปิดโอกาสให้ช่วยได้เต็มที่ แต่ตนคงไม่ไปยุ่งเกี่ยวแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พิธีในวันนี้ มีนางโปรย อนุเคราะห์ และนางตะล่อม ทิมแย้ม เป็นตัวแทน 4 แม่เฒ่ามาร่วมพิธีรับมอบ ส่วนน.ส.ศรีนวล ทิมแย้ม และน.ส.แฉล้ม ทิมแย้ม มีอาการป่วยต้องไปพบแพทย์และจะเข้ามาที่บ้านในช่วงเย็น ทั้งนี้นายสมศักดิ์ ได้มอบพระพุทธรูปเพื่อเป็นศิริมงคลแก่บ้านใหม่ด้วย ซึ่งงานในวันนี้ก็ยังมีภาครัฐและภาคเอกชนได้เข้ามอบเงินช่วยเหลือ 4 แม่เฒ่าอีกกว่า 3 แสนบาท ซึ่งยังคงมีการเปิดรับเรื่อยๆ

หลังเสร็จพิธี นายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ท่านนายกรัฐมนตรีเป็นห่วงในเรื่องนี้ และได้กำชับ ส่งข้อความมาหาตนเมื่อคืนให้ทำให้เสร็จ ซึ่งตนได้ชี้แจงรายละเอียดและรายงานผลเรียบร้อยแล้ว ซึ่งในส่วนของเงินบริจาคจะเก็บไว้ให้คุณยายทั้ง 4 คนใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน โดยจ่ายเดือนละ 1,600 รวมกับ เบี้ยผู้สูงอายุ 800  บาท รวมเป็นเงิน 2,400  บาทต่อเดือน เฉลี่ยจะได้ประมาณ 30 ปี โดยจะมีคณะกรรมการคอยดูแล เบิกจ่ายจากบัญชีสงเคราะห์ ในส่วนของการบังคับคดี ตนก็มีข้อติดใจอยู่ อาจจะมีเรื่องของการเอื้ออาทร ซึ่งคงจะมีการปรับการทำงานของกรมบังคับคดี ให้เพิ่มเรื่องการเอื้ออาทรให้เหมือนกับธนาคารออมสิน มีความเป็นมนุษยธรรมมากขึ้น เรื่องนี้ต้องดำเนินการ และได้ร่างแนวทางไว้แล้ว สัปดาห์หน้าจะได้แจ้งให้ทุกหน่วยงานของกระทรวงในแต่ละจังหวัดประชุมกัน นอกจากนี้ตนขอประชาสัมพันธ์การทำงานของกองทุนยุติธรรม ซึ่งมีเงินช่วยเหลือผู้เสียหายในคดีอาญา และจำเลยที่สามารถช่วยด้านการประกันตัว

“มีคนครหาบอกว่านางนิตยา จิวตระกูล โจทย์ผู้ฟ้อง 4 แม่เฒ่า เป็นหัวคะแนนและสนิทกับผม ขอยืนยันไม่เป็นความจริง การให้ข้อมูลลักษณะนี้เป็นเกมการเมือง เป็นการพยายามให้ร้ายป้ายสีผม พฤติกรรมเช่นนี้เป็นการกระทำที่เลวจริงๆ ตนไม่ได้สนิทสนมและไม่เคยพบกับนางนิตยา 20 กว่าปีแล้ว ซึ่งเมื่อวานตนรู้สึกโกรธมากที่ไปหาที่บ้านแต่ไม่เปิดบ้านให้พบ ดังนั้นข้อครหาไม่เป็นความจริง”นายสมศักดิ์ กล่าว

///

กอ.รมน. โดย ศรมน. ขอความร่วมมือประชาชน

ปฏิบัติตามมาตรการชั่วคราวที่กำหนด
พร้อมสร้างความเข้าใจกับผู้ประกอบการและแรงงาน
เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

วันนี้ (๓ ก.ค. ๖๔) พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษก กอ.รมน. ได้แถลงว่า ตามที่รัฐบาลได้ออกข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ ฉบับที่ ๒๕ เรื่อง การควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดในกลุ่มแรงงานก่อสร้าง โดยสั่งปิดสถานที่ก่อสร้าง สั่งหยุดทำงานก่อสร้าง และห้ามแรงงานเคลื่อนย้ายเป็นการชั่วคราวอย่างน้อย ๓๐ วัน เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของ โรคโควิด-19 ในพื้นที่เป้าหมายเฉพาะในเขตพื้นที่สถานการณ์ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล (นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร) และพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา) โดยมีผลตั้งแต่ ๒๘ มิ.ย. ๖๔ เป็นต้นนั้น
พล.ท.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ รองเลขาธิการ กอ.รมน.(๑) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษา ความมั่นคงภายใน ได้มอบแนวทางเร่งด่วนตามข้อกำหนดฯ (ฉบับที่ ๒๕) ให้ กอ.รมน.ภาค และ กอ.รมน.จังหวัด ร่วมบูรณาการกับหน่วยในพื้นที่กำกับติดตามการเคลื่อนย้ายของแรงงานข้ามเขตจังหวัด โดยเฉพาะแรงงานที่เดินทางมาจากในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด รวมทั้งบูรณาการร่วมกับสหวิชาชีพเพื่อสร้างการรับรู้พร้อมทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการและแรงงาน ถึงเหตุผลความจำเป็นในมาตรการชั่วคราวที่กำหนด และขอความร่วมมือกับประชาชนให้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดในชุมชน ให้ดำเนินการ ตามกฎหมายโดยเฉพาะในพื้นที่ควบคุมสูงสุด พร้อมทั้งขอให้ประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานในพื้นที่ ในการตรวจเขตชุมชน ตลาด หรือสถานที่เสี่ยงด้วยวิธีคัดกรองเชิงรุกและเร่งค้นหาผู้ติดเชื้อเพื่อจำกัดพื้นที่แพร่ระบาด หากพบการแพร่ระบาด เป็นกลุ่มก้อนจะดำเนินการตามมาตรการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการปิดสถานที่, กลุ่มเปราะบาง, ผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงอายุ
ทั้งนี้ กอ.รมน. หวังเป็นอย่างยิ่งในความร่วมมือจากประชาชน โดยปฏิบัติตามมาตรการชั่วคราวที่กำหนด และยังคงขอความร่วมมือช่วยกันเป็นหูเป็นตาสอดส่องดูแลแรงงานต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย โดยที่ผ่านมาสามารถสกัดกั้นจับกุมแรงงานต่างด้าว ที่หลบหนีเข้าเมืองได้จากการแจ้งเบาะแสเข้ามาที่ สายด่วนความมั่นคง ๑๓๗๔
กอ.รมน. พร้อมมุ่งมั่น บูรณาการ ขับเคลื่อน ประสานงาน และเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส

พบกันเสาร์นี้ 3 ก.ค. บ่าย 3 โมงตรง

ท่องเที่ยวจะต้องรอด ไม่รอความหวัง
📣“ความจริงคือสิ่งที่ต้องฟัง”📣
เราจะพูดพร้อมกันเพื่อความอยู่รอดของท่องเที่ยว

📌ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของกิจการ ร้านอาหาร โรงแรม กลุ่มดนตรี สปา ไกด์ ทัวร์ แท็กซี่หรือท่องเที่ยว
📌พบกันเสาร์นี้ 3 ก.ค. บ่าย 3 โมงตรงที่
tinyurl.com/TourismVoiceOpenMics

ทำงานเชิงรุก – “ปรพล” ที่ปรึกษาฯ รมว.ดีอีเอส พร้อมคณะ เตรียมเยี่ยมชมศูนย์ไซเบอร์กองทัพบก

นายปรพล อดิเรกสาร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยว่า ขณะนี้ คณะที่ปรึกษารมว.ดีอีเอส ประกอบด้วย
นายเกริกอิสร์ ลีวงศ์เจริญ ดร.พสุ เเก้วปลั่ง นายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี พร้อมด้วย ดร.ภัทรา โชติวิทยะกุล นักวิชาการชื่อดัง เตรียมเดินหน้าทำงานเชิงรุกเต็มที่ โดย ให้ความสำคัญในการบูรณาการการทำงาน ระหว่างหน่วยงานในกระทรวงดีอีเอส โดยมุ่งเน้นงานด้านประชาสัมพันธ์ในสื่อหลายรูปแบบผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์ม สร้างการรับรู้ และความเข้าใจกับประชาชน และเน้นการแก้ไขปัญหาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ (Cyber Security) ทั้งขยายความร่วมมือและทำงานร่วมกับหน่วยงานภายนอกต่างๆเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพตามนโยบายกระทรวงและรัฐบาล สืบเนื่องจากทางคณะที่ปรึกษาฯ ได้เข้ารับนโยบายจาก ท่านชัยวุฒิ ธ​นาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.64 ที่ผ่านมา ซึ่งท่านได้เน้นย้ำในการทำงานเชิงรุก ซึ่งคณะที่ปรึกษาฯ มีความพร้อมและความมุ่งมั่นในการทำงานเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดยวันพฤหัสบดีที่ 8 ก.ค.นี้ ทาง คณะที่ปรึกษาฯจะเดินทางไปเยี่ยมชมศูนย์ไซเบอร์กองทัพบก กองบัญชาการกองทัพบก เพื่อศึกษาและเยี่ยมชมการทำงานในด้านต่างๆ รวมทั้งหารือแลกเปลี่ยนมุมมองในด้านความมั่นคง ปลอดภัยไซเบอร์ (Cyber Security) ระหว่างกระทรวงดีอี
เอสกับศูนย์ไซเบอร์กองทัพบก โดยจะสรุปด้านภารกิจ บทบาทหน้าที่ของหน่วยงานดังกล่าว เพื่อนำเสนอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ต่อไป ทั้งนี้ทางคณะที่ปรึกษาฯ มีกำหนดการที่จะหารือและเยี่ยมชมหน่วยงานศูนย์ปฎิบัติการไซเบอร์ต่างๆ อาทิ กองทัพอากาศ กองทัพเรือ เเละ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต่อไป เป็นต้น

สวัสดีคลินิกเวชกรรม​ ประสบค​วามสําเร็จ​ในการรักษาด้วยส​มุนไพรกัญช​า​ ขึ้น​ปีที่ 5

ร่วมยินดี “สวัสดีคลินิกเวชกรรม” ​รักษาด้วยส​มุนไพรกัญช​า​ ขึ้น​ปีที่ 5 ผู้โชคดีได้รับส่วนลดพิเศษ 20 %

ประธาน​ชมรมผู้สื่อข่าวฯและคณะ ขอบคุณ​และร่วมแสดงความยินดีกับ​น.อ.​(พิเศษ)​พญ.​จินตนา​ มโนร​มย์ภัทรสาร​ ในโอกาสที่​ สวัสดีคลินิกเวชกรรม​ ประสบค​วามสําเร็จ​ในการรักษาด้วยส​มุนไพรกัญช​า​ ขึ้น​ปีที่ 5

นาย​ช​ยุต​ เมธา​วิชิต​ชัย​ ประธาน​ชมรม​ผู้​สื่อข่าว​และ​กัลยาณมิตร​กลุ่ม​จริงใจ​สา​ยบุญ​ พร้อม​ด้วย​ พล.ต.ต.ทวี​โรจน์​ ศิริ​สวัสดิบุตร​ ที่ปรึกษา​กิตติมศักดิ์ ชมรม​ผู้​สื่อข่าว​และ​กัลยาณมิตร​กลุ่ม​จริงใจ​สา​ยบุญ พล.ร.ต.หญิง ดร.​สุธิญา จันทร์​เจ้า​ฉาย พ.อ.นพ.​พงศ์​ศักดิ์​ ตั้ง​คณา, นาย​ ศักดา​ สัจจะ​มิตร​ พร้อม​ด้วยกัลยาณมิตร​มากมาย​ ได้เดินทางมาที่ สวัสดี​คลินิก​เวชกรรม​ ซอยพหลโยธิน​ 63​ กรุงเทพ​มหานคร​ เพื่อขอบคุณและร่วมแสดงความ​ยินดี​กับ​ น.อ.(พิเศษ)​ พญ.​จินตนา​ มโนร​มย์ภัทรสาร​ ในโอกาสที่​สวัสดีคลิ​นิกเวชกรรม​ประสบค​วามสําเร็จ
​ในการร​ักษาฯด้วยส​มุนไพรกัญช​า​ ขึ้นปีที่​ 5 ซึ่งในการตรวจวิเคราะห์และรักษาโรคต่างๆ ได้รับการดูแลและควบคุมเอาใจใส่เป็นอย่างดีจาก​พญ.​จินตนา​ มโนร​มย์ภัทรสาร ซึ่ง ​หลายคนนิยมเรียกว่า​ อาจารย์​หมอจินตนา โดยอาจารย์หมอจินตนาได้ใช้ประสบการณ์ในการเป็นแพทย์แผนปัจจุบัน รักษาผู้ป่วยฯมาแล้วมากกว่า 39 ปีโดยมีเกียรติประวัติเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเวชศาสตร์กัญชา
การใช้กัญชาทางการแพทย์ และแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู
สมรรถภาพทางกายภาพ, การฟื้นฟูจากโรคมะเร็ง,
การฟื้นฟูสมรรถภาพกีฬา และการดูแลผู้ป่วยประคับประคอง

สำหรับประวัติการทำงานที่ผ่านมา​ ของอาจารย์​หมอจินตนาฯ​
ได้แก่ คณะทำงานการพัฒนาความรู้บุคลากรทางการแพทย์ ด้านการใช้กัญชาทางการแพทย์ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการวุฒิสภาด้านสาธารณสุข วุฒิสภา อดีตประธานองค์กรแพทย์ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์โรงพยาบาลสังกัดวิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูอาวุโส ที่โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กองทัพอากาศไทย กรรมการสมาคมส่งเสริมการใช้พลังงานคนพิการแห่งประเทศไทย แพทยศาสตร์บัณฑิตคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้เชี่ยวชาญสาขาเวชศาสตร์ฟื้นฟูแห่งประเทศไทยโรงพยาบาลรามาธิบดีฯลฯ ปัจจุบันอาจารย์หมอจินตนา​ได้มาเปิดคลินิก​ชื่อ​ สวัสดี​คลินิก​เวชกรรม​ เพื่อการรักษาอาการต่าง​ๆ​ด้วยสมุนไพ​รกัญชา
ซึ่งหลายคนได้ขนานนามกัญชาว่า เป็น”​ราชาแห่งสมุนไพรไทย” Cannabis / Marijuana
MEDICAL & RECREATIONAL

​น.อ.(พิเศษ)​ พญ.​จินตนา​ กล่าวว่า สมุนไพร​กัญชา​เป็นพืชที่มีการจารึกไว้ในตำรายาต่าง ๆ ทั่วโลกโดยเฉพาะมีการใข้กัญชาครั้งแรกของโลกเมื่อประมาณ 4,700 ปีที่แล้ว โดยจักรพรรดิเสินหนงแห่งประเทศจีน ส่วนใน​ประเทศไทย​มีหลักฐานบันทึกการใช้กัญชาในการรักษาโรคมาตั้งแต่สมัยอยุธยาในยุค สมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยใช้เป็นส่วนผสมสำคัญในตำรับแพทย์แผนไทยถึง 98 ตำรับ

“มีความสุข​มากกับการรักษาผู้ป่วยด้วยสมุนไพ​รกัญชา
ด้วย​ประสบการณ์​ในการเป็นแพทย์แผนปัจจุบันมามากกว่า 39 ปีและตลอดระยะเวลากว่า 5 ปี​ ที่เน้นเรื่องการใช้สมุนไพรกัญชา​ ในการบำบัดรักษาได้เห็นถึงความมหัศจรรย์​ของประสิทธิผลที่ได้รับ โดยส่วนตัวเห็นว่า กัญชา​บำบัด​ (สมุนไพร​ธรรมชาติ​บำบัด)​ ช่วยประหยัดค่าใข้จ่ายในการรักษาได้มากและทำให้คุณภาพชีวิตและจิตใจ(ทั้งของผู้ป่วยและญาติมิตร)ดีขึ้น การเจ็บป่วยน้อยลง ผลข้างเคียงน้อยกว่าการรักษาทั่วไปอื่น ๆ” น.อ.(พิเศษ)​ พญ.​จินตนา​ กล่าว

พ.อ.นพ.​พงศ์​ศักดิ์​ กล่าวว่า​ โดยส่วนตัวรู้จักกับอาจารย์หมอ​ จินตนา​นับ​ 10 ปีแล้ว​ พอทราบว่าอาจารย์หมอได้ใช้สมุนไพรกัญชาในการรักษามะเร็งฯลฯ ก็เห็นดีด้วย พอทราบว่าประสบความสำเร็จในการเปิดคลินิกโดยใช้กัญชาบำบัดขึ้นสู่ปีที่5 วันนี้​จึงมาเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจ

พล.ต.ต.ทวี​โรจน์​ และ​กัลยาณมิตร​หลายคน ได้ร่วมกล่าวขอบคุณและแสดงความยินดีกับอาจารย์หมอจินตนาในโอกาสที่​ สวัสดีคลิ​นิกเวชกรรม​ พหลโยธิน​ 63​ ประสบค​วามสําเร็จในการร​ักษาฯด้วยส​มุนไพรกัญช​า​ ขึ้นปีที่​ 5 ซึ่งหลายคนได้ใช้สมุนไพรกัญชาสูตรของอาจารย์หมอ​จินตนา​แล้วเห็นผลดีและเร็วมาก

ทั้งนี้ ในปัจจุบันมีการยอมรับว่า​ สมุนไพร​กัญชา​ (หลายคนเรียกว่า “ราชาสมุนไพรไทย”)​ มีประโยชน์​ในการดูแลและเสริมสุขภาพ​มากกว่า​ 33​ คุณประโยชน์ และเพื่อเป็นการ​ ตอบแทน​บุญคุณ​แผ่นดินไทย น.อ.(พิเศษ)​พญ.จินตนา​ มโนร​มย์ภัทรสาร ได้จัดโปร​โม​ชั่น​พิเศษ​ ในโอกาสที่​สวัสดีคลินิกเวชกรรม​ พหลโยธิน ​63​ กรุงเทพ​ฯ ฉลองขึ้นปีที่​ 5 สำหรับ​ ข้าราชการ​ไทย​ และผู้สื่อข่าว​
รวมทั้งสายบุญผู้โชคดี
ที่ได้อ่านข่าวนี้ทั่วประเทศ​ไทย​ เพียงแสดงบัตรประจำตัว (ข้าราชการ​/ผู้สื่อข่าว​/บัตรประชาชน).จะได้รับการตรวจวิเคราะห์และรับส่วนลดพิเศษ 20​% สำหรับผลิตภัณฑ์สมุนไพรกัญชา​บำบัด​ของ​สวัสดีคลินิกเวชกรรม​ ซึ่งควบคุุมดูแลการผลิตและการบำบัดฯ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ/อาจารย์​หมอจินตนาฯ​และทีมงาน​ เพื่อความมั่นใจและเชื่อถือได้

ท่านใดสนใจสามารถสอบถามข้อมูลหรือจองคิวนัดหมายได้ที่ 02-972-4014, 093-438​-1515 หรือ​ 099-492-6996​ Line: @sawasdeeclinic FB: sawasdeeclinic อีเมล์ clinicsawasdee@gmail.com
www.sawasdeeclinic.com หรือติดต่อประสานงานฯ
ได้ที่
นาย​ ชยุต เม​ธาวิชิตชัย
ประธาน​ ชมรมผู้สื่อข่าวและกัลยาณมิตรกลุ่มจริงใจ​สา​ยบุญ
โทร.​ 099-492-6996
หรือ​ 064-298-7896​

รักษาผู้ป่วยด้วยสมุนไพ​รกัญชา

องค์การยาแห่งยุโรป เผย 4 วัคซีนป้องกันเชื้อเดลต้าได้

เว็บไซต์ วิทยุนานาชาติฝรั่งเศส (อาร์เอฟไอ) รายงานว่า นาย มาร์โก คาวาเลอรี หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์วัคซีน ประจำ สำนักงานยาแห่งยุโรป (อีเอ็มเอ) เปิดเผยเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา ยืนยันว่า วัคซีน 4 ตัวที่สหภาพยุโรป (อียู) ใช้ฉีดให้กับประชาชน สามารถป้องกันเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์สายพันธุ์เดลต้า ซึ่งพบครั้งแรกในประเทศอินเดียได้

“ข้อมูลที่ปรากฏจากหลักฐานในการใช้งานจริงแสดงให้เห็นว่าการได้รับวัคซีนเหล่านี้ครบ 2 เข็ม สามารถป้องกันเชื้อเดลต้า แวเรียนท์ ได้” นายคาวาเลอรีระบุ

ทั้งนี้วัคซีน 4 ตัวที่ใช้กันในอียู ประกอบด้วยวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์-ไบออนเทค, โมเดอร์นา, แอสตร้าเซนเนก้า และจอห์นสันแอนด์จอหน์สัน (เจแอนด์เจ) ซึ่งนอกจากจะป้องกันเชื้อเดลตาได้แล้ว ยังสามารถป้องกันเชื้อสายพันธุ์กลายพันธุ์อื่นๆ ที่แพร่ระบาดอยู่ในเวลานี้ได้อีกด้วย

นายคาวาเลอรี เปิดเผยด้วยว่า ทางอีเอ็มเอ กำลังศึกษาวิจัยอยู่ว่า จำนวน 2 เข็มของวัคซีนที่ใช้กันอยู่ในเวลานี้ก่อให้เกิดภูมิคุ้มกันที่เพียงพอต่อการป้องกันเชื้อเดลต้าและเชื้อโควิดกลายพันธุ์อื่นๆ หรือไม่ หรือจำเป็นต้องเพิ่มวัคซีนเข็มที่ 3 สำหรับกระตุ้นภูมิคุ้มกันสำหรับการป้องกันนี้

วัคซีน 4 ตัวฉีด 2 เข็มป้องกันเชื้อเดลต้าและเชื้อกลายพันธุ์อื่นๆได้

วช. นำนักประดิษฐ์และนักวิจัย สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย

กวาด 20 รางวัล งานประกวดนวัตกรรมที่สาธารณรัฐโปแลนด์
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) นำคณะนักประดิษฐ์และนักวิจัยไทยจาก 8 หน่วยงานคว้ารางวัลใหญ่ระดับนานาชาติจากงาน “E-NNOVATE 2021 Edition : International Innovation Show” ที่จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 22 – 24 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา
ณ สาธารณรัฐโปแลนด์ โดยจัดแสดงนิทรรศการในรูปแบบออนไลน์

ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เปิดเผยว่า ภารกิจที่สำคัญประการหนึ่ง
ของ วช. ในการขับเคลื่อนการวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ คือการสนับสนุนให้นักประดิษฐ์และนักวิจัยไทยเข้าสู่เวทีนานาชาติในระดับโลก ในเดือนมิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา วช.ได้นำนักวิจัยและนักประดิษฐ์ไทย เข้าร่วมการประกวดและจัดแสดงผลงานในเวทีนานาชาติ งาน “E-NNOVATE 2021 Edition : International Innovation Show”
ในรูปแบบออนไลน์ จนนักประดิษฐ์และนักวิจัยไทย คว้ารางวัลเหรียญทอง มาครองถึง 11 เหรียญ ได้แก่
เครื่องวิเคราะห์ชนิดของแอลกฮอล์อย่างง่าย พร้อมชุดแสดงผลผ่านอุปกรณ์ควบคุม Internet of Things (lot) แสดงผลบนสมาร์ทโฟน ของ นางสาวจิราพร ช่อมณี แห่ง มหาวิทยาลัยทักษิณ, แอปพลิเคชันสุขภาพโดยใช้เทคโนโลยีความจริงเสมือน (AR) บำบัดอาการออฟฟิศซินโดรมและปวดศีรษะด้วยการแพทย์แผนไทยแบบราชสำนัก ของ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ชุดาณัฏฐ์ สุดทองคง แห่ง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี, นวัตกรรมชุดตรวจ LAMP-PACHA สำหรับคัดแยกมะละกอดัดแปลงพันธุกรรมในอุตสาหกรรมการแปรรูปอาหาร การพัฒนาชุดตรวจคัดแยกมะละกอปลอด GM ในระยะต้นกล้าและผลเพื่ออุตสาหกรรมการแปรรูปอาหาร ของ ดร.ปิยรัตน์ ธรรมกิจวัฒน์ แห่ง สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน), การใช้ประโยชน์จากเถ้าแกลบในการผลิตคอนกรีตบล็อกแบบไม่รับน้ำหนัก ของ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เกียรติสุดา สมนา แห่ง สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน), ReLeep – A New Lifestyle Technology ของ เด็กชายณภคพล พิทักษ์ธีระธรรม
แห่ง ชมรมเยาวชนนักประดิษฐ์ไทย, ปากกาต่อต้านโรคระบาด ของ เด็กชายรณภัทร ศรีวรวิไล แห่ง โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม, FunPlosion – ระบบห้องน้ำอัจฉริยะระเบิดความสนุกสำหรับชีวิตวิถีใหม่ ของ เด็กหญิงปราณรัก บ่ายคล้อย แห่ง โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม, คิดส์เพลิน
ของ เด็กชายธิปก ตั้งศิริพัฒน์ แห่ง โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม, ชุดอุปกรณ์ช่วยออกกำลังกายในผู้ป่วยติดเตียง ของ เด็กชายธิปก ตั้งศิริพัฒน์ แห่ง โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม,
ชุดหมอนลดการนอนกรนเพื่อปรับสมดุลให้การนอนหลับมีคุณภาพและปลอดภัยที่สุด ของ นางสาวจ้าวไหม
ตั้งศิริพัฒน์ แห่ง โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม, และโปรแกรมฝึกคลื่นสมองด้วยเทคนิคสะท้อนกลับ ป้องกันสมองเสื่อมและลดปัญหาความรุนแรงจากสมาธิสั้น ของ เด็กชายกร เหมรัญช์โรจน์
แห่ง โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายมัธยม นอกจากนี้ ยังได้รางวัลเหรียญเงิน จำนวน 8 เหรียญ และรางวัลเหรียญทองแดง จำนวน 1 เหรียญ
สำหรับงาน “E-NNOVATE 2021 Edition : International Innovation Show” ในปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 จัดโดย Innovative Business Solutions (IBS) หน่วยงานเอกชนด้านการส่งเสริมนวัตกรรมสู่เชิงพาณิชย์
แห่งสาธารณรัฐโปแลนด์ มีผู้ส่งสิ่งประดิษฐ์เข้าร่วมแข่งขันทั้งหมดกว่า 195 ผลงาน จาก 16 ประเทศ ทั่วโลก

รฟฟท. ฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุฯในระบบรถไฟฟ้าสายสีแดง เตรียมความพร้อมก่อนเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการ 2 ส.ค. 64

บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ดำเนินการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุขัดข้องกรณีต่างๆในระบบรถไฟฟ้าสายสีแดง เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการในวันที่ 2 สิงหาคม 2564

นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดให้ประชาชนได้ทดลองใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ตามกำหนดการในวันที่ 2 สิงหาคม 2564 นั้น บริษัทจึงได้ดำเนินการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุขัดข้องกรณีต่างๆ และการจัดการเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในระบบรถไฟฟ้าสายสีแดง ได้แก่ กรณีแขนรับไฟ ( Pantograph ) ของขบวนรถไฟฟ้าเสีย กรณีขบวนรถไฟดีเซลรางไทยขอพ่วงหลุด , กรณีระบบห้ามล้อและระบบปรับอากาศของขบวนรถไฟฟ้าเสีย , กรณีขบวนรถไฟฟ้าเกิดเหตุเพลิงไหม้ , กรณีขบวนรถไฟฟ้าไม่ได้รับไฟฟ้าทั้งระบบ , การฝึกซ้อมกรณีขู่วางระเบิด และการตรวจพบวัตถุต้องสงสัย ณ สถานีบางซื่อ ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าด้วยการดำเนินการดังกล่าว จะสามารถอำนวยความสะดวก และสร้างความปลอดภัยให้แก่ผู้โดยสารที่มาใช้บริการในช่วงทดลองใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ส่วนงานบริการลูกค้าสัมพันธ์ Call Center 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ www.srtet.co.th , www.facebook.com/AirportRailLink และ Twitter : Airport Rail Link