อย.ประกาศเตือนพบบางล็อตเกิดความผิดปกติ

พบบางล็อตเกิดความผิดปกติ

วันที่ 29 มิถุนายน 2564 – 09:57 อย.ประกาศเตือน สาธารณสุขจังหวัด-โรงพยาบาล เฝ้าระวังและระงับการฉีดวัคซีนซิโนแวค หลังบางล็อตมีปัญหา เกิดเจลใส เขย่าไม่หาย

วันที่ 29 มิถุนายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ออกประกาศเรื่อง แจ้งเตือนเฝ้าระวังการเก็บรักษาวัคซีน CoronaVac เลขทะเบียน 1C 3/64 (NBC) ระบุว่า ด้วยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้รับรายงานวัคซีน CoronaVac รุ่นการผลิต C202105079 เลขทะเบียน 1C 3/64 (NBC) รุ่นการผลิต C202105079 วันที่ผลิต 10.05.2021 วันหมดอายุ 09.11.2021 มีลักษณะสารละลายของวัคซีนมีการรวมตัวเป็นเจลใสติดบริเวณด้านในของขวดวัคซีน และเจลดังกล่าวไม่หายไปหลังการเขย่า ซึ่งจากรายงานพบเพียงในแหล่งฉีดวัคซีนบางแห่งเท่านั้นสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา พิจารณาแล้วเห็นว่า ปัญหาดังกล่าวอาจเกิดจากกระบวนการเก็บรักษาและการขนส่งที่ไม่ควบคุมอุณหภูมิให้เป็นไปตามที่ได้รับอนุมัติในทะเบียนตำหรับยา คือ 2-8 องศาเซลเชียส

ดังนั้น เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคให้ใด้รับวัคซีนที่มีคุณภาพ ประสิทธิภาพ และปลอดภัย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาจึงเห็นควรให้แจ้งเตือนเฝ้าระวังการเก็บรักษาวัคซีนให้เป็นไปตามแนวทางการบริหารจัดการวัคซีน ของกรมควบคุมโรคซึ่งระบุคำแนะนำสำหรับการเก็บรักษาวัคซีนโควิด-19 ของ บริษัท Sinovac Life Sciences จำกัด ให้เก็บไว้ที่ชั้นกลางหรือชั้นที่ 2 ของตู้เย็น และห่างจากจุดปล่อยความเย็น

ทั้งนี้ หากท่านพบลักษณะของปัญหาดังกล่าว ขอให้ระงับการฉีดวัคซีนรุ่นการผลิตที่พบและแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป

ที่ปรึกษาสมาคมเยาวชนจิตอาสาพัฒนา มอบเครื่องคอมพิวเตอร์ ให้ ร.พ.ศรีธัญญา

ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย อธิบดีกรมสุขภาพจิต และผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีธัญญา รับมอบชุดอุปกรณ์เครื่องพิวเตอร์ จาก ดร.พิจักษณ์ เพชรสงค์ ที่ปรึกษา สมาคมเยาวชนจิตอาสาพัฒนา (องค์กรสาธารณประโยชน์) และ ดร.พิสัณห์ นุ่นเกลี้ยง เพื่อนำไปติดตั้ง ณ จุดบริการ ผู้เข้ารับการตรวจเชื้อโควิด 19 ต่อไป

“ถึงเวลาอีกครั้งหนึ่ง ที่เราคนไทยต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกันครับ ตลอดช่วงโควิดที่ผ่านมา มีประชาชนไปใช้บริการ ที่ ร.พ.ศรีธัญญา จำนวนมากทุกวัน ส่งผลให้ระบบคอมพิวเตอร์เกิดอาการแฮงค์บ่อยครั้ง จึงได้จัดหามามอบให้อย่างเร่งด่วน และทันการณ์ ขอบุญกุศลนี้ ถึงเพื่อนพ้องน้องพี่ ทุกๆคน พ้นภัย แคล้วคลาด จากโควิด19 ครับ” ดร.พิจักษณ์กล่าว

“เฮียเอี๋ยว”สุดใจ จิรยาภากร ผู้มีแต่ให้ พอมีเหลือแล้วแบ่งปัน ด้วยการให้แล้วสุขใจ

ถวายรถยนต์สมรรถณะความปลอดภัยสูง มูลค่า 6.5 ล้านบาท
แด่หลวงพ่อสายทอง เตชะธัมโม วัดป่าห้วยกุ่ม อำเภอเกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ
เมื่อเวลา 10.00 น.ของวันที่ 26 มิถุนายน 2564″เฮียเอี๋ยว”สุดใจ จิรยาภากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โคมอส คอร์ปอเรชั่น จำกัด/ประธานที่ปรึกษา กต.ตร.จังหวัดสมุทรปราการ ใส่ใจให้ความห่วงใย คำนึงถึงความปลอดภัยมาเป็นอันดับ 1ในการเดินทางตามกิจนิมนต์ เพื่อใช้เป็นพาหนะสงฆ์ในการเดินทางแสดงธรรมโปรดญาติโยมทั่วประเทศ จึงได้สั่งซื้อรถยนต์ ยี่ห้อ Lexus รุ่น LM 300h มูลค่า 6,500,000 บาท(หกล้านห้าแสนบาทถ้วน)มอบถวายแด่ หลวงพ่อสายทอง เตชะธัมโม วัดป่าห้วยกุ่ม อำเภอเกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ

         
                     เพื่อใช้งานตามวัตถุประสงค์เป็นพาหนะสงฆ์ต่อไป โดยมี พันตำรวจเอก ปริญญา กลิ่นเกษร ผกก.ตม.จว.สมุทรปราการ สละทรัพย์ส่วนตัวร่วมทำบุญครั้งนี้ด้วย 20,000 บาท(สองหมื่นบาทถ้วน)มี คณะศิษยานุศิษย์ร่วมอนุโมทนาบุญจำนวนหนึ่ง

รมว.ยุติธรรม แนะนักโทษอย่าตั้งแก๊งเกเรในคุก ชี้ต้องทำตัวให้ดีตั้งใจฝึกอาชีพที่ชอบ

ออกมาเป็นคนดีของสังคม อย่ายุ่งกับยาเสพติดเพราะโทษยึดทรัพย์แรงกว่าเดิม ยันราชทัณฑ์เร่งกระจายวัคซีนโควิดให้ครบ ญาติผู้ต้องขังไม่ต้องห่วง
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาตนลงพื้นที่ จ.สุโขทัย โดยได้ไปตรวจการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่เรือนจำ โดยเรือนจำจังหวัดสุโขทัย​ ฉีดไปแล้ว 1,034​ คน และเรือนจำอำเภอสวรรคโลก​ ฉีดไปแล้ว 711​ คน ถือว่าเกือบครบทั้งหมดแล้ว ซึ่งขอให้ญาติพี่น้องของผู้ต้องขังไม่ต้องเป็นห่วง ทางกรมราชทัณฑ์กำลังเร่งกระจายวัคซีนที่ได้รับมาจากกระทรวงสาธารณสุขไปยังเรือนจำต่างๆอย่างเร็วที่สุด นอกจากนี้ตนยังได้เน้นย้ำกับผู้ต้องขังขอให้ตั้งใจฝึกอาชีพที่เราได้จัดหลักสูตรไว้ เช่น การเรียนภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ การปลูกพืช การเลี้ยงสัตว์ งานฝีมือต่างๆ ตั้งใจฝึกอาชีพในสิ่งที่ตนเองชอบ เพื่อเมื่อพ้นโทษออกมาแล้ว จะได้มีงานทำเลี้ยงตนเอง เป็นการคืนคนดีสู่สังคม
ระหว่างการตรวจเรือนจำอำเภอสวรรคโลก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้ระบุกับผู้ต้องขังว่า ผมใส่ใจผู้ต้องขังทุกคนเพราะตนต้องการให้ทุกคนที่ได้รับการปล่อยตัวมีชีวิตที่ดีขึ้น มีงานทำ ไม่กลับสู่วังวนเดิม เวลานี้ที่อยู่ในเรือนจำ ทุกคนอย่าเกเร อย่าพยายามสร้างกลุ่มสร้างแก๊งข้างใน ต้องทำตัวให้ดีเพื่อให้ตัวเองเป็นนักโทษชั้นดี เวลามีการพิจารณาลดโทษ จะได้มีสิทธิตรงนี้ และเมื่อออกไปแล้วอย่าไปยุ่งกับยาเสพติดโดยเฉพาะการเป็นพ่อค้ายา เพราะประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่นั้น จะมีเรื่องของการยึดทรัพย์ที่สามารถยึดทรัพย์ย้อนหลังตามมูลค่ายาเสพติดได้ กฎหมายใหม่จะมีความรุนแรง ดังนั้นควรตั้งใจเรียนรู้ฝึกอาชีพประกอบอาชีพที่สุจริตเลี้ยงดูตนเองและครอบครัว”นายสมศักดิ์ กล่าว
////

“เฉลิมชัย” จับมือจุฬาฯ. ขับเคลื่อนเทคโนโลยีเกษตร4.0เดินหน้า”ผลิตวัคซีนลัมปิสกินจากพืช

เป็นโครงการเร่งด่วนตามด้วยซิลิคอนวัลเลย์เกษตรไฮเทคเมืองนวัตกรรมแก่งคอยตั้งเป้าสร้างรายได้2,500ล้าน

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยวันนี้(26มิถุนายน)ภายหลังนำคณะผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ.ประชุมหารือร่วมกับศาสตราจารย์ ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย ณ ห้องประชุม202 ชั้น 2 อาคารจามจุรี 4 สำนักงานอธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยว่า ความร่วมมือด้านเทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรรมระหว่างกระทรวงเกษตรกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในโครงการแรกคือการผลิตวัคซีนสัตว์ด้วยเทคโนโลยีโปรตีนพืช(Plant based Protein)เริ่มจากวัคซีนลัมปิสกินซึ่งเป็นโรคอุบัติใหม่ในไทยที่แพร่ระบาดในโค-กระบือหลายสิบจังหวัดและต้องนำเข้าวัคซีนจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่ใช้เทคโนโลยีนี้ในการผลิตวัคซีนสำหรับสัตว์โดยกรมปศุสัตว์และบริษัทใบยาไฟโตฟาร์ม คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยพร้อมดำเนินการทันทีโดยวางเป้าการผลิตเพื่อใข้ในประเทศทดแทนการนำเข้าและขยายสู่การส่งออก นับเป็นประเทศแรกๆของโลกที่ใช้เทคโนโลยีโปรตีนพืชผลิตวัคซีนสัตว์โดยทีมนักวิจัยของไทย

วันนี้ถือเป็นวันประวัติศาสตร์วันหนึ่งที่สำคัญต่อการพลิกโฉมหน้าภาคเกษตรกรรมของไทยเมื่อจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยตกลงจับมือร่วมทำงานกับกระทรวงเกษตรฯ. เพราะการพัฒนาภาคเกษตรในยุคปัจจุบันตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำต้องใช้วิทยาการและเทคโนโลยีเป็นหัวใจสำคัญ นอกจากนี้จะมีโครงการความร่วมมืออื่นๆที่สำคัญเช่นโครงการพัฒนาสมุนไพรเพื่อสุขภาพ,โครงการส่งเสริมสตาร์ทอัพเกษตร,โครงการพัฒนาฮาลาล , โครงการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมือง โครงการการพัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่(Young Smart farmer ) เป็นต้นรวมทั้งการพัฒนาพันธุ์ข้าวที่ขอฝากไว้เป็นพิเศษโดยมอบหมายให้ที่ปรึกษาอลงกรณ์ พลบุตรในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารAICเป็นผู้ประสานงานกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยทั้งนี้จะมีการทำเอ็มโอยู.ภายในสัปดาห์หน้า
ทางด้านศาสตราจารย์ ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกล่าวว่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยยินดีและพร้อมร่วมมือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อย่างเต็มที่ในการต่อยอดการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมสู่การใช้ประโยชน์ในการพัฒนาภาคเกษตรกรรมโดยทันทีโดยเฉพาะการพัฒนาวัคซีนสัตว์จากพืขเป็นโครงการนำร่องโครงการแรกรวมทั้งเสนอให้กระทรวงเกษตรฯ.ใช้พื้นที่ของสยามสแควร์อินโนเวชั่นดิสตริคท์(Siamsquare Innovation District)ในการนำเทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรมมาเปิดแสดงและสาธิตต่อยอดการลงทุนนวัตกรรมใหม่ๆของศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม(AIC)ทั่วประเทศรวมทั้งการดำเนินโครงการแก่งคอยอินโนเวชั่นดิสตริคท์(Kaengkoi Innovation District (KID)โครงการเกษตรอัจฉริยะ( Smart Farming), โครงการสมาร์ท โอท็อป(Smart OTOP), โครงการดิจิตอลไอทีวัลเลย์(Digital IT Valley),
นายอลงกรณ์กล่าวว่า โครงการความร่วมมือที่จะตามมาโดยเร็วคือโครงการพัฒนาแก่งคอยอินโนเวชั่นดิสตริคท์หรือเมืองนวัตกรรมแก่งคอยในพื้นที่ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่อำเภอแก่งคอยจังหวัดสระบุรีจะร่วมกันพัฒนาคล้ายกับซิลิคอนวัลเลย์(Silicon Valley)ในสหรัฐอเมริกาที่ริเริ่มดำเนินการโดยมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด(Stanford University) ซึ่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีสตาร์ทอัพกว่า200บริษัทที่พร้อมต่อยอดการลงทุนสตาร์ทอัพกลุ่มเทคโนโลยีเกษตรและอาหารรวมทั้ง(FoodtechและAgritech Start-Up)โดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยตั้งเป้าหมายเบื้องต้นจะสร้างคนสร้างงานสร้างรายได้กว่า2,500ล้านบาท

สำหรับคณะผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ.ประกอบด้วย
นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายธนา ชีรวินิจ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รองปลัดกระทรวง ผู้ช่วยปลัดกระทรวง เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร อธิบดีกรมปศุสัตว์ รองอธิบดีกรมประมง รองอธิบดีกรมวิชาการ คณะทำงานที่ปรึกษารัฐมนตรีเป็นต้น
ส่วนคณะผู้บริหารจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยประกอบด้วย รองอธิการบดี ผู้ช่วยอธิการบดี คณบดี และทีมนักวิจัยอีกหลายคน

ขอรังวัดที่ดินโฉนดโบราณ เสียชีวิต 10 เหลือเพียง 2 ถือกรรมสิทธิ์

คณะผู้สื่อข่าวจากส่วนกลาง ได้สัมภาษาณ์ พันเอก(พิเศษ) เธียรวิชญ์ กล่าวว่าที่ดินแปลงที่ขอรังวัด เป็นที่ดินมีโฉนดโบราณ เจ้าของกรรมสิทธิ์มีทั้งหมด 12 คน ขณะนี้เหลือเพียง 2 คน นอกนั้นเสียชีวิตหมดแล้

ตนเองเห็นว่าหลักหมุดอาจจะไม่ตรงกับความเป็นจริง จึงขอรังวัดที่ดินแปลงดังกล่าว เพื่อเป็นหลักฐานประกอบ สำหรับเรื่องนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนชั้นศาลเป็นผู้พิจารณา ตนเองต้องการความยุติธรรมและความถูกต้องจึงมาขอรังวัดที่ดินแปลงดังกล่าว

25 มิย.64 พันเอก(พิเศษ) เธียรวิชญ์ วรรธนะบูรณ์ ผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมในโฉนดที่ดินเลขที่ 1453 ต.เขาพระ อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี ยื่นขอรังวัดที่ดินและ ทำหน้าที่เป็นผู้นำชี้แนวเขตที่ดิน

โดยมี คณะสื่อมวลชน จากส่วนกลาง (กทม.)พร้อมด้วยคณะทนายความ ร่วมสังเกตุการ ก่อนทำการรังวัดที่ดิน
คณะสื่อมวลชน ได้ขอสัมภาษณ์ นายธวัชชัย บุญแก้ววรรณ เจ้าพนังงานที่ดินจังหวัดสุพรรณบุรี และหัวหน้านายช่างรังวัดที่ดิน สาขาเดิมบางนางบวช เพื่อรับทราบ นโยบายของกรมที่ดิน และแนวทางการรังวัดที่ดิน โฉนดเลขที่ 1453 ต.เขาพระ ฯ
ซึ่งมีกรณีพิพาทในแนวเขตที่ดิน ท่านฯจะให้ความเป็นธรรม เที่ยงตรงในการรังวัดที่ดินดังกล่าว โดยมอบหมายให้

นายศักดิ์ชัย ปัญจ์ภิรานนท์ ตำแหน่ง ช่างรังวัดชำนาญงาน เป็นผู้รับผิดชอบการรังวัด ต่อมาทีมงานได้ลงพื้นที่รังวัดที่ดินและ มีเจ้าหน้าที่ภาครัฐ พ.ต.อ.สมบัติ อ่อนสมบูรณ์ ผกก.เดิมบางนางบวช
พ.ต.ท.อำนวย แย้มมาก รอง ผกก.เดิมบางนางบวช ผู้แทน กรมเจ้าท่า ผู้แทน เทศบาลตำบลเข้าพระ
ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ตลอดจนผู้เป็นเจ้าของที่ดินแปลงข้างเคียง/ร่วมเป็นสักขีพยานในการรังวัด
จึงทำให้การรังวัดที่ดินแปลงดังกล่าว ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งจะที่ดินเจ้าของข้างเคียงบางแปลงเจ้าของที่ดินไม่ยอมรับการชี้แนวเขต หัวหน้านายช่างรังวัดจะทำรายงานเสนอผู้บังคับบัญชาเพื่อดำเนินการของกรมที่ดินต่อไป โดยภาพรวมการทำข่าวการสัมภาษณ์ การถ่ายภาพนิ่ง การถ่ายวิดิโอ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบ ในสื่อออนไลน์ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากทุกฝ่ายต้องขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้

คณะผู้สื่อข่าวจากส่วนกลาง ได้สัมภาษาณ์ พันเอก(พิเศษ) เธียรวิชญ์ กล่าวว่าที่ดินแปลงที่ขอรังวัด เป็นที่ดินมีโฉนดโบราณ เจ้าของกรรมสิทธิ์มีทั้งหมด 12 คน ขณะนี้เหลือเพียง 2 คน นอกนั้นเสียชีวิตหมดแล้ว

ตนเองเห็นว่าหลักหมุดอาจจะไม่ตรงกับความเป็นจริง จึงขอรังวัดที่ดินแปลงดังกล่าว เพื่อเป็นหลักฐานประกอบ สำหรับเรื่องนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนชั้นศาลเป็นผู้พิจารณา ตนเองต้องการความยุติธรรมและความถูกต้องจึงมาขอรังวัดที่ดินแปลงดังกล่าว

ร้องบ้านจัดสรรปล่อยน้ำเสียทนมานาน 6 ปี

///สมุทรปราการ ชาวบ้านติดคลองบางแก้วน้อยทนไม่ไหวร้องบ้านจัดสรรปล่อยน้ำเสียทนมานาน 6 ปี

เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลบางพลีใหญ่ร่วมกับนักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการ สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 13 (ชลบุรี) ลงพื้นที่สำรวจหมู่บ้านจัดสรรจำนวน 4 โครงการ ที่ตั้งอยู่ หมู่ 2 ซอยอำพร ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ รวมแล้วกว่า 1,000 กว่าหลังคาเรือน ที่มีชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากน้ำเสียซึ่งได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังองค์การบริหารส่วนตำบลบางพลีใหญ่ ว่ามีการปล่อยน้ำเสียมาลงในคลองบางแก้วน้อยและไหลไปไปที่ลงคลองสำโรง ระยะทางเกือบ 2 กิโลเมตร จริงหรือไม่ เมื่อกลุ่มนักข่าวกำลังเดินเก็บภาพน้ำเสียภายในคลองพลว่าได้มีการลักลอบปล่อยน้ำเสียมาจากท่อขนาด 12 นิ้ว และ 6 นิ้ว จำนวน 2 จุด คือลักษณะของน้ำมีกลิ่นเหม็นเน่า สีจะเป็นสีดำ ทำให้ปลาน้อยใหญ่ที่อยู่ในน้ำพากันตายและหายไปจนไม่แทบไม่เหลือ ชาวบ้านพากันลงหาปลากันเหมือนเช่นเคยไม่ได้ สาเหตุลงไปแล้วมีการคันทั้งตัว ชาวบ้านได้ทนมานานกว่า 5-6 ปี มาแล้ว หลังมีโครงการบ้านจัดสรรมาสร้าง
///ทางเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลบางพลีใหญ่หลังได้รับหนังสือร้องเรียนจึงได้ลงพื้นที่พร้อมด้วยกำนันและกลุ่มสื่อมวลชนหลายสำนัก ก่อนพบว่ามีคือลักษณะมีการแอบปล่อยน้ำเสียออกมาสู่คลองบางแก้วน้อยจริง จึงได้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อม สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 13 (ชลบุรี)ให้ลงตรวจสอบ ซึ่งก็ได้สำรวจบ่อบำบัดน้ำเสียของหมู่บ้านแต่ทางเจ้าของโครงการไม่ยอมให้ทางผู้สื่อข่าวเข้าไป ทางเจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อมได้เก็บตัวอย่างน้ำไปตรวจสอบ
///นางสาว มณฌิญา มีบุญรอด อายุ 23 ปี ชาวบ้านริมคลองที่ได้รับผลกระทบ เล่าว่าตนเองได้รับผลกระทบจากน้ำเสียมานานกว่า 5 ปี แล้ว หลังจากที่มีการสร้างหมู่บ้านจัดสรรขึ้นมาจำนวนกว่า 4 โครงการ มีบ้านกว่า 1 พันหลัง ได้มีการปล่อยน้ำเสียออกมาแต่ไม่ทราบว่ามีการปล่อยออกมาทางไหนบ้าง แต่ที่รู้แน่ๆคือคลองหน้าบ้านตนเองและห่างออกไปอีก 500เมตร ซึ่งเป็นการตั้งเวลาปล่อยน้ำออกมาจากบ่อพักน้ำ ยิ่งถ้าเป็นหน้าฝนหรือช่วงไหนที่ฝนตกหนักๆจะปล่อยออกมาถี่มากจนตนเองและชาวบ้านไกล้เคียงเหม็นแถมน้ำยังมีสีดำและมีฟองสีขาวออกมา สมัยก่อนที่ยังไม่มีหมู่บ้านมาตั้งก็ลงหาปลาลงเล่นน้ำได้ แต่ตอนนี้มีกลิ่นเหม็น จับมากินมาไม่ได้แล้ว ตอนนี้ลงเล่นไม่ได้มีอาการคันไปทั้งตัว จึงมีการร้องเรียนไปยังหน่อยงานที่เกี่ยวข้องให้มาตรวจสอบ จนมาถึงทุกวันนี้ยังคงเหมือนเดิมจึงฝากเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบให้ช่วยลงมาดูแลชาวบ้านด้วยซึ่งจนเองก็มีลูกแถมในหมู่บ้านก็มีเด็กเล็กหลายสิบคนอาศัยคลองเป็นพักอาศัย
///ด้านนาย ประพจน์ แย้มพราย กำนันตำบลบางพลีใหญ่ กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านจึงได้ออกสำรวจคลองบางแก้วน้อยพบว่ามีการตั้งลูกลอยเอาไว้มีการปล่อยน้ำเสียออกมาตลอดเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน เหมือนกับวันนี้เดินอยู่ดีๆก็ต้องตกใจที่มีการปล่อยน้ำเสียออกมาประมาณ 1 นาที ก่อนจะตัดไป ซึ่งน้ำมีกลิ่นเหม็น ลักษณะน้ำมีสีดำ ฟองสีขาว ซึ่งชาวบ้านในระแวกใกล้เคียงและชาวบ้านที่อาศัยอยู่คลองสำโรงได้รับผลกระทบโดยตรง จึงอยากฝากให้ทางเจ้าของโครงการช่วยดูแลจุดบกพร่องของโครงการด้วยรวมทั้งบ้านจัดสรรอีกหลายแห่งซึ่งบางครั้งก็ต้องจำเป็นต้องตรวจสอบหลังจากมีการร้องเรียนหรือมีการตรวจพบ
///ด้านนางสาวตุลาพร อนันต์นาวีนุสรณ์ นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการ สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 13 (ชลบุรี) หลังรับทราบเรื่องจึงได้ลงพื้นที่สำรวจครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 พบว่ามีการปล่อยน้ำเสียลงคลองจริงและมีการสำรวจน้ำพร้อมเก็บตัวอย่างน้ำไปตรวจพิสูจน์ก็เข้าข่าวเป็นน้ำเสียและต้องรอผลออกอีกภายใน 15 วัน หากพบว่าเป็นน้ำเสียที่ไม่มีการผ่านการบำบัดจะได้ให้ดำเนินการโดยจะมีการปรับวันละ 5,000 บาท จนแก้ไขแล้วเสร็จ พร้อมกับสรุปว่าหลังจากได้มีการเดินสำรวจท่อและจุดที่ตั้งบ่อบำบัดน้ำเสียของหมู่บ้านจัดสรร เบื้องต้นมีจุดบกพร่องของอุปกรณ์หลายอย่างชำรุดเช่นประตูน้ำรวมถึงเครื่องควบคุมการดูหรือทำระบบหมุนเวียนของน้ำขัดข้องจึงให้มีการปรับปรุงแก้ไขไปก่อนพร้อมกับให้เจ้าหน้าที่ติดตามการแก้ไขปัญหาแต่ก็ยังพบความไม่ชัดเจนหลายอย่างและทางหมู่บ้านยังไม่มีการส่งมอบเป็นนิติ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้เรียกบริษัทหรือเจ้าของโครงการที่รับผิดชอบหมู่บ้านมาชี้แจงอีกครั้ง และจะได้เข้าตรวจสอบต่อพร้อมกับเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าเพื่อหาแหล่งต้นตอของการเกิดน้ำเสียและทางกรมเจ้าท่าหากพบว่ามีการกระทำผิดจริงจะได้เข้าแจ้งความเอาผิด กับเจ้าของโครงการ เพื่อดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายต่อไป

จีนมั่นใจ ไทยเฉียบแก้ปัญหาฉับไวเด็ดขาดหลังเกิดปัญหาสวมสิทธิ์ทุเรียนจันทบุรี

พร้อมออก6มาตรการเร่งด่วน “เฉลิมชัย”สั่งขยายผลกวาดล้าง พบเบื้องหลังเป็นขบวนการใหญ่ข้ามชาติ

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยวันนี้(24มิ.ย)ว่า สื่อมวลชนจีนให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพของทุเรียนไทยโดยเฉพาะกรณีการสวมสิทธิ์ทุเรียนจันทบุรีซึ่งตนได้ให้ความมั่นใจไปว่าได้สั่งการให้ดำเนินคดีขั้นเด็ดขาดทั้งทางอาญาและทางแพ่งพร้อมกับถอนใบรับรองGAPและGMPสำหรับผู้ที่มีส่วนร่วมในการกระทำผิดทุกคน
และเป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากมาตรการป้องกันปัญหาทุเรียนอ่อนซึ่งนับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีทำให้การส่งออกไปจีนได้มากขึ้นทั้งเชิงปริมาณ และมูลค่า ชาวสวนทุเรียนได้ราคาสูงขึ้น อาจเป็นเหตุจูงใจให้มีการลักลอบนำเข้าทุเรียนต่างประเทศมาสวมสิทธิ์ทุเรียนจันทบุรีซึ่งชุดเฉพาะกิจจังหวัดจันทบุรีสามารถจับกุมได้ทันท่วงทีและกำลังขยายผลการสืบสวนสอบสวนทราบจากรายงานเบื้องต้นว่าทำกันเป็นขบวนการใหญ่
ซึ่งสื่อมวลชนจีนที่มาสัมภาษณ์แสดงความพอใจและมั่นใจที่กระทรวงเกษตรฯดำเนินมาตรการได้อย่างรวดเร็วมีประสิทธิภาพและเด็ดขาด

ทางด้านนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรเปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมแก้ไขปัญหาการนำเข้าทุเรียนเวียดนามสวมสิทธิ์ทุเรียนไทยส่งออกไปประเทศจีน ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่าจากรายงานการจับกุมและข้อมูลใหม่ที่ได้จากหลายหน่วยงานในการประชุมวันนี้ทำให้เห็นภาพชัดขึ้นและเป็นไปตามข้อสันนิษฐานว่า ทำกันเป็นขบวนการใหญ่มีหลายบริษัทในหลายจังหวัดเกี่ยวข้องทั้งคนไทยคนจีนซึ่งจะได้ขยายผลการสืบสวนสอบสวนนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษขั้นเด็ดขาดตามข้อสั่งการของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพราะถือเป็นการบ่อนทำลายเศรษฐกิจของประเทศและทำลายภาพลักษณ์ของทุเรียนไทยซึ่งเป็นผลไม้เศรษฐกิจอันดับหนึ่งของไทยมีมูลค่าการส่งออกไปต่างประเทศในปีที่แล้วกว่า6หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ที่ประชุมได้กำหนดมาตรการเร่งด่วน6มาตรการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้น ได้แก่

  1. มาตรการเฝ้าระวังทุกจังหวัดโดยเฉพาะภาคใต้ซึ่งกำลังเริ่มต้นฤดูผลไม้
  2. มาตรการเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจตราหน้าด่านทั้งด่านบกด่านเรือและด่านอากาศแหลม
  3. มาตรการป้องปรามผู้ผลิต ล้ง โรงงาน ผู้นำเข้า และผู้ส่งออก
  4. มาตรการปราบปรามผู้กระทำผิดอย่างเฉียบขาด
  5. มาตรการความร่วมมือกับประเทศผู้ค้าเช่นจีนและเวียดนามในการขจัดพ่อค้านักธุรกิจที่ฉ้อฉล
  6. มาตรการตรวจสอบย้อนกลับเพื่อปัองกันการใช้ใบรับรองGAPและGMPปลอม
    ในการประชุมดังกล่าวมีผู้เข้าร่วมประชุมและหน่วยงานต่างๆได้แก่นายเมฆินทร์ เอี่ยมสอาด นายณฐกร สุวรรณธาดา นายยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา นายชรัตน์ เนรัญชร คณะที่ปรึกษา รมว.กษ. ผู้แทนกรมส่งเสริมการเกษตรในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ Fruit Board) และผู้เข้าร่วมการประชุมผ่านระบบ zoom meeting โดยมี นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการ จ.จันทบุรี พ.ต.อ.คณกร อัศวเมธี ผู้กำกับการ สภ.เมือง (แทน ผบก.จว.จันทบุรี) นางปัทมา นามวงษ์ เกษตรจังหวัดจันทบุรี น.ส.ธารารัตน์ โพธิ์ศรี กษ.จว.จันทบุรี และนายชลธี นุ่มหนู ผอ.สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตร เขต 6 นายพีรพัฒก์ อุทัยศรี ผู้อำนวยการกองสำนักบริการการค้าต่างประเทศ กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ผู้แทนกรมสอบสวนคดีพิเศษ และผู้แทนกรมศุลกากร ร่วมกันหารือการดำเนินคดีกรณีการจับกุมขบวนการลักลอบนำเข้าทุเรียนจากประเทศเวียดนามมาสวมสิทธ์ทุเรียนจันทบุรีส่งออกไปจีน
    นายอลงกรณ์เปิดเผยว่า ภายหลังการประชุมได้รายงานผลความคืบหน้าของการประชุมต่อ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ซึ่งรัฐมนตรีเกษตรฯ.ได้แสดงความชื่นชมการปฏิบัติงานของชุดเฉพาะกิจจังหวัดจันทบุรีและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยเดินหน้ากวาดล้างให้ถึงที่สุด

มอบน้ำดื่ม จำนวน 5,000 ขวด ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์

วันที่ 24 มิถุนายน 2564 นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด พร้อมด้วย นางพัชร์ณัฐ โหตระไวศยะ ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการรักษาความสะอาด บริษัท รักษาความปลอดภัย เอเชีย คลีนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด ร่วมมอบน้ำดื่ม จำนวน 5,000 ขวด ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ เพื่อเป็นการสนับสนุนภารกิจวาระการฉีดวัคซีนแห่งชาติ โดยมี นางจตุพร เนียมสุข ผู้ช่วยปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นผู้รับมอบ ณ สถานีกลางบางชื่อ กรุงเทพมหานคร

ปรพล อดิเรกสารตรวจเยี่ยมและแลกเปลี่ยนประสบการณ์


นายปรพล อดิเรกสาร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นำทีมคณะที่ปรึกษารมว.ดีอีเอส (นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์) พร้อมด้วย ดร.เอกพงษ์ หริ่มเจริญ ผอ.กองกิจการ

อวกาศเเห่งชาติ ไปตรวจเยี่ยมและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ที่กรมเทคโนโลยีสารสนเทศเเละอวกาศกลาโหม โดยมี พล.ท.เจษฎา เปรมนิรันดร เจ้ากรม
ทสอ.กห.รองเจ้ากรมฯเเละ คณะ มาให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ซึ่งนับได้ว่าเป็นการริเริ่มความร่วมมือระหว่างกันที่จะก่อให้เกิดบรรยากาศในการทำงานที่เป็นประโยชน์กับส่วนรวม กรมทสอ.กห.พร้อมที่จะร่วมจัดทำนโยบายขับเคลื่อนเทคโนโลยีดิจิทัล ไซเบอร์ และเทคโนโลยีดาวเทียมกับ กับกระทรวงดีอีเอส อีกทั้งมีความพร้อมที่จะจัดทำโครงการนำร่องที่นำเทคโนโลยีสมัยใหม่และทรัพยากรที่มีอยู่แล้วมาก่อให้เกิดประโยชน์และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในทุกๆด้านต่อไป ณ ศูนย์ปฎิบัติการไซเบอร์ กรมเทคโนโลยีสารสนเทศเเละอวกาศกลาโหม

นายปรพล อดิเรกสาร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นำทีมคณะที่ปรึกษารมว.ดีอีเอส (นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์) พร้อมด้วย ดร.เอกพงษ์ หริ่มเจริญ ผอ.กองกิจการ
อวกาศเเห่งชาติ ไปตรวจเยี่ยมและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ที่กรมเทคโนโลยีสารสนเทศเเละอวกาศกลาโหม โดยมี พล.ท.เจษฎา เปรมนิรันดร เจ้ากรม
ทสอ.กห.รองเจ้ากรมฯเเละ คณะ มาให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ซึ่งนับได้ว่าเป็นการริเริ่มความร่วมมือระหว่างกันที่จะก่อให้เกิดบรรยากาศในการทำงานที่เป็นประโยชน์กับส่วนรวม กรมทสอ.กห.พร้อมที่จะร่วมจัดทำนโยบายขับเคลื่อนเทคโนโลยีดิจิทัล ไซเบอร์ และเทคโนโลยีดาวเทียมกับ กับกระทรวงดีอีเอส อีกทั้งมีความพร้อมที่จะจัดทำโครงการนำร่องที่นำเทคโนโลยีสมัยใหม่และทรัพยากรที่มีอยู่แล้วมาก่อให้เกิดประโยชน์และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในทุกๆด้านต่อไป ณ ศูนย์ปฎิบัติการไซเบอร์ กรมเทคโนโลยีสารสนเทศเเละอวกาศกลาโหม