25 มิ.ย.64 งานเทศกาลทุเรียนคลองม่วงปากช่อง

เปิดตัว ทุเรียนมาจากใจ
วิสาหกิจชุมชนทุเรียนคลองม่วงปากช่อง ร่วมกับสำนักงานเกษตรอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา จัดงานเทศกาลทุเรียนคลองม่วงปากช่อง 2564 Khlong Muang Pakchong Durian Festival 2021

“จัดยิ่งใหญ่” ณ สวนวงศ์สมิตกุล ตลอด 3 เดือน เริ่ม25 มิ.ย.-ส.ค. 64

ในงานเทศกาลทุเรียนคลองม่วงปากช่อง 2564 นี้ ทางวิสาหกิจชุมชนทุเรียนคลองม่วงปากช่อง ซึ่งประกอบไปด้วยสมาชิก สวนวงศ์สมิตกุล สวนเจ้าเงาะ สวนผู้ใหญ่ละมัย อินทร์ยิ้ม ไร่พ่อกะแม่เกษตรก้าวหน้า สวนน้องข้าวหอม สวนทุเรียนภูสวรรค์ บ้านไร่หวังวิธววธน์ ไร่ธนภัทร ไร่นายแผ่นดินธรรมเกษตรผสมผสาน สวนถ้ำค้างคาว สวนคุณสมชาย เฮงทรัพย์กูล และสวนสมาชิกทุกสวน เปิดตัวทุเรียน 3 ดีจากใจ เนื้อดี รสดี กลิ่นดี ทุเรียน ปากช่อง เขาใหญ่
ราชาแห่งผลไม้ คือ ทุเรียน

เพชรน้ำหนึ่งในวงการทุเรียน หนึ่งในนั้น คือ ทุเรียนปากช่องเขาใหญ่ เพราะผลผลิตทุกลูกนั้นมาจากใจ ดูแลด้วยใจตลอดทั้งปีจนได้ผลผลิต

“เฉลิมชัย”เดินหน้า”5ยุทธศาสตร์”ฝ่าวิกฤตโควิด

จับมือเอกชนเร่งพัฒนาแอร์คาร์โกพร้อมตั้งศูนย์ตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานสินค้าเกษตรอาหารเพิ่มศักยภาพการส่งออกเริ่มแห่งแรกที่ดอนเมืองก่อนขยายไปสุวรรณภูมิ ตั้งเป้าฮับอาเซียน

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แถลงวันนี้(13มิ.ย)ว่า ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้สั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งดำเนินการพัฒนาระบบการขนส่งทางอากาศ(Agriculture and Food Air Cargo Terminal :AFCT)สำหรับการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารโดย
จะมีการจัดตั้ง”ศูนย์ตรวจสอบคุณภาพสินค้าเกษตร-อาหาร”โดยเริ่มโครงการนำร่องที่ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง และท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิเป็นลำดับถัดไปก่อนจะขยายโครงการไปยังท่าอากาศยานภูมิภาคที่มีความพร้อมเช่นเชียงใหม่ ขอนแก่น หาดใหญ่ ภูเก็ต เป็นต้นเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในภาคเกษตรอาหารซึ่งเป็นโอกาสของประเทศไทยภายใต้วิกฤติโควิด19
นายอลงกรณ์กล่าวต่อไปว่า การส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารต้องการความสะดวกรวดเร็วส่งถึงลูกค้าปลายทางทั่วโลกด้วยคุณภาพและมาตรฐานระดับสากลโดยคงความสดสะอาดอร่อยสามารถเพิ่มเวลาการบริโภคหรือเวลาการขาย(Shelf life)มากขึ้น
สำหรับศูนย์ตรวจสอบคุณภาพสินค้าเกษตรอาหาร ณ คาร์โกเทอร์มินัลทำหน้าที่ให้บริการตรวจสอบรับรองสินค้าเกษตรอาหารเพื่อส่งออกตามเงื่อนไขของประเทศผู้นำเข้า และเป็นไปตามมาตรฐานสากล ประกอบด้วย สินค้าพืช ประมง และปศุสัตว์ โดยให้บริการกับผู้ขอรับบริการทั่วไปแบบวันสต็อปเซอร์วิสเพื่อบรรลุเป้าหมายการเป็นฮับการผลิตและขนส่งสินค้าเกษตรและอาหารของอาเซียน
“อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์การระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 ที่ได้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกและนำเข้าสินค้าเกษตรในปีที่ผ่านมา การประเมินการส่งออกอาหารของไทยในปี 2564 โดยสถาบันอาหาร คาดการณ์ว่าสินค้าอาหารของไทยจะมีมูลค่า 1.08-1.10 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.2-12.2% เทียบกับปีที่ผ่านมาที่หดตัวจากผลกระทบของโควิด 19 ดังนั้น ภายใต้ความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์และภาคเอกชน จึงเป็นกลไกที่สำคัญในสนับสนุนการส่งออกผลิตสินค้าเกษตรและอาหารที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล และความปลอดภัยของสินค้าเกษตรไทย จะเป็นส่วนสำคัญในการรักษาความเชื่อมั่นของตลาดต่างประเทศ เพิ่มปริมาณและมูลค่าสูงขึ้น และส่งผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวมต่อไป”
นายอลงกรณ์กล่าวว่าโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเดินหน้ายุทธศาสตร์ “ตลาดนำการผลิต”ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดร.เฉลิมชัย  ศรีอ่อน ที่จะขับเคลื่อนการทำงานด้วย 5 ยุทธศาสตร์ และ 15 แนวทางนโยบายหลักโดยเฉพาะยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิตเป็นยุทธศาสตร์หลักเพื่อปฏิรูปภาคเกษตรและ การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ด้านการเกษตร เพื่อตอบสนองต่อห่วงโซ่อุปทาน ที่เปลี่ยนแปลงไป และเพื่ออํานวยความสะดวกในการส่งออก และนําเข้าสินค้าเกษตร

รับมอบเครื่องวัดความดันโลหิตอัตโนมัติ

ศิษย์เก่าโรงเรียนวัดหนองจอก(ภักดีนรเศรษฐ์) สำนึกรักบ้านเกิด ร่วมด้วยช่วยกันจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ มอบให้โรงพยาบาลเวชการุณย์รัศมิ์     ใช้เยี่ยวยาผู้ป่วย 

นายแพทย์สุรชัย ภูพิพัฒน์ผล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเวชการุณย์รัศมิ์ และ อุษา บุญรอด พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ ประจำ โรงพยาบาลเวชการุณย์รัศมิ์ รับมอบเครื่องวัดความดันโลหิตอัตโนมัติชนิดสอดแขนจำนวน 2 เครื่อง มูลค่า 90,000.- บาท( เก้าหมื่นบาทถ้วน) จาก อ.อรุณ พ่วงสมบัติ อดีต ผอ.เขตมีนบุรี และ อ.โสภา รัตนาบดี เพื่อใช้ในการให้บริการประชาชนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของเขตหนองจอก ซึ่งกิจกรรมทำความดีครั้งนี้ประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์

เนื่องจากได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี จากบรรดาศิษย์เก่าและคณะครูโรงเรียนวัดหนองจอก(ภักดีนรเศรษฐ์)จบปี 2519 และศิษย์เก่าโรงเรียนมัธยมวัดหนองจอก(น.จ.รุ่น 22) นำโดย อัญชลี คล้ายปักษี, กิตติ ตรงไตรรัตน์, มยุรี บัตรประทาน, ชูชาติ เลี้ยงบำรุง และประพันธ์ ประดับสุวรรณ ณ โรงพยาบาลเวชการุณย์รัศมิ์ เขตหนองจอก

แจกประชาชนผู้มาฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19

พระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณหรือพระครูแจ้พระผู้มีแต่ให้ร่วมกับโรงพยาบาลบางพลี ตั้งกองมะละกอพร้อมเจลล้างมือชนิดหลอดแบบพกพาทำบิ๊กเซอร์ไพรท์ยืนแจกประชาชนผู้มาฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19เป็นวันที่2โดยมีนายสมศักดิ์ แก้วเสนา นายอำเภอบางพลีพร้อมด้ยนพ.พิเชษฐ พัวพันกิจเจริญ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบางพลีร่วมยืนแจก ประชาชนปลื้มยิมกันแก้มปริเป็นวันที่2

โดยในวันพรุ่งนี้ท่านพระครูแจ้ยังได้เตรียมกล้วยน้ำว้าและฟักทองไว้แจกจ่ายกับทุกท่าน อีกด้วย.

ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19วัดบางพลีใหญ่กลาง จ.สมุทรปราการ

มอบเตียง 2 ชั้น ให้แก่โรงพยาบาลสมุทรปราการ

ที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ
คุณนันทิดา แก้วบัวสาย นายก อบจ. สมุทรปราการ เดินทางมาโรงพยาบาลสมุทรปราการเพื่อส่งมอบเตียง 2 ชั้น ให้แก่โรงพยาบาลสมุทรปราการ เพื่อส่งต่อความช่วยเหลือในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 พร้อมเยี่ยมชมและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ

คุณนันทิดา แก้วบัวสาย นายก อบจ. สมุทรปราการ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลังส่งมอบเตียง 2 ชั้น ให้แก่โรงพยาบาลสมุทรปราการ วันนี้ดิฉันเป็นตัวแทนของคุณเอ๋ ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรปราการ ส่งมอบเตียง 2 ชั้นจำนวน 100 ชุด ให้แก่โรงพยาบาลสมุทรปราการ เพื่อส่งต่อความช่วยเหลือในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 โดยเฉพาะในจังหวัดสมุทรปราการที่มีสถิติผู้ติดเชื้อสูงสุดหนึ่งในสามของประเทศ ทำให้ทางโรงพยาบาลสนามเกิดปัญหาขาดแคลนเตียงสำหรับรองรับผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก ซึ่งที่ผ่านมาคุณชนม์สวัสดิ์ ได้ให้การสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จำเป็นในการรักษาพยาบาล ตลอดจนป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 มาโดยตลอด
ขณะเดียวกันในฐานะของนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ก็ขอเรียนว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ได้ดำเนินการจัดหาวัสดุอุปกรณ์ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 และการสนับสนุนวัสดุครุภัณฑ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นให้แก่โรงพยาบาลต่าง ๆ และการสนับสนุนการดำเนินการของโรงพยาบาลสนาม และ hospital ในจังหวัดสมุทรปราการของเรา เพื่อจะช่วยบรรเทาสถานการณ์ในปัจจุบันให้ได้เต็มกำลังความสามารถที่สุดเช่นเดียวกันค่ะ ภายหลังเสร็จสิ้นพิธีการคุณนันทิดา แก้วบัวสาย นายก อบจ. สมุทรปราการ เดินเยี่ยมชมการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสมุทรปราการพร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่กันอย่างอดทนท่ามกลางการแพร่ระบาดเชื้อโควิด 19

“กรมชลประทาน” เนรมิตเมืองอัจฉริยะเหนือน้ำสุดล้ำ

ผ่านนิทรรศการเสมือนจริง เฉลิมฉลองวันคล้ายวันสถาปนากรมชลประทาน 119 ปี

กรมชลประทาน เนรมิตเมืองอัจฉริยะเหนือน้ำในชื่อ “RID Floating City” ที่นำเสนอความหลากหลายของนวัตกรรมสู่สายตาประชาชนให้ได้ตื่นตาตื่นใจไปกับนิทรรศการเสมือนจริงรูปแบบ 360 องศา ภายใต้งาน “RID TEAM สานพลังน้ำเป็น 1 เพื่อทุกคน” การเรียนรู้ที่มาพร้อมกับความสนุกสนานของเรื่องราวเกี่ยวกับสายน้ำ และการบริหารจัดการน้ำที่สร้างวิถีชีวิตที่ยั่งยืนให้กับคนไทยมาตลอด 119 ปี ระหว่างวันที่ 11-13 มิถุนายนนี้ ทางเว็บไซต์กรมชลประทาน http://119year.rid.go.th/

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า “กรมชลประทานจัดงานวันสถาปนาครบรอบ 119 ปี ในรูปแบบนิทรรศการเสมือนจริง 360 องศา ภายใต้งาน RID TEAM สานพลังน้ำเป็น 1 เพื่อทุกคน โดยมีแนวคิด “สนุกไปกับนวัตกรรมแห่งสายน้ำ” ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่น่าสนใจที่กรมชลประทานต้องการนำเสนอศักยภาพความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชน ทั้งในเรื่องการจัดหา พัฒนาและบริหารจัดการน้ำ”

“นิทรรศการถูกจัดขึ้นเป็นปีที่ 2 ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 กรมชลประทานจึงปรับรูปแบบการนำเสนอเป็นระบบออนไลน์ทั้งหมด เพื่อรักษาระยะห่างทางสังคม โดยเชื่อว่านิทรรศการนี้จะสร้างความเพลิดเพลินให้กับทุกคนด้วยการเดินทางผ่านสายน้ำสู่เมืองอัจฉริยะเหนือน้ำ (RID Floating City) ที่จัดแสดงเรื่องราวของการบริหารจัดการน้ำ พันธกิจ และวิสัยทัศน์ ตลอดระยะเวลา 119 ปี ของกรมชลประทาน กับความภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในสร้างวิถีชีวิตและดูแลความเป็นอยู่ของประชาชน รวมถึงการเตรียมพร้อมสู่การเป็นองค์กรอัจฉริยะที่มุ่งสร้างความมั่นคงด้านน้ำ(Water Security) เพื่อเพิ่มคุณค่าการบริการ ภายในปี 2580 โดยเป็นการสอดแทรกเกร็ดความรู้ที่มาพร้อมกับความสนุกสนานผ่าน Virtual Exhibition 360 องศา ทางเว็บไซต์กรมชลประทาน http://119year.rid.go.th/”

นิทรรศการแบ่งออกเป็น 5 โซน ดังนี้ โซนที่ 1 : ปณิธานแห่งสายน้ำ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ นำเสนอโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ผ่านโมเดลจำลอง 3 มิติ, โซนที่ 2 : การเดินทางแห่งสายน้ำ การพัฒนาแหล่งน้ำและเพิ่มพื้นที่ชลประทาน นำเสนอแผนงานและโครงการภายใต้การบริหารจัดการน้ำของกรมชลประทาน ในการกระจายนํ้า โดยการขุดคลองเชื่อมโยงนํ้าระหว่างแม่นํ้าสายหลักและต่อยอดสู่การสร้างประตูระบายน้ำ รวมถึงการพัฒนาแหล่งเก็บน้ำขนาดใหญ่ ด้วยเทคนิคโฮโรแกรม 3 มิติ, โซนที่ 3 : เรื่องเล่าจากสายน้ำ การบริหารจัดการน้ำของกรมชลประทาน นำเสนอการบริหารจัดการน้ำและมาตรการเตรียมรับมือปัญหาตลอดจนการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (Smart Water Operation Center ) หรือ SWOC เพื่อทำหน้าที่ติดตาม รวบรวมข้อมูลสภาพภูมิอากาศ สภาพน้ำในแม่น้ำแบบเรียลไทม์, โซนที่ 4 : ชีวิตกับสายน้ำ การบริหารจัดการน้ำแบบมีส่วนร่วม โดยเปิดโอกาสให้ประชาชน และสมาชิกกลุ่มผู้ใช้น้ำ มีส่วนร่วมและเข้าใจขั้นตอนการส่งน้ำและบำรุงรักษาแหล่งน้ำ ผ่านการเล่นเกมตอบคำถาม ซึ่งเกิดขึ้นภายใต้หลักคิดว่า

-2-

การจัดการน้ำอย่างสมดุลเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องอาศัยการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน และ โซนที่ 5 : นวัตกรรมแห่งสายน้ำ กรมชลประทานกับการก้าวไปสู่การเป็นองค์กรอัจฉริยะ นำเสนอนวัตกรรมเด่นที่จะนำพาให้ กรมชลประทานก้าวไปสู่ความเป็นองค์กรอัจฉริยะ 4.0 ผ่านเทคนิควิดีโอ 360 องศาเสมือนจริง อาทิ กระบวนการสำรวจภาคพื้นดินด้วยสัญญานดาวเทียม กระบวนการสำรวจพื้นผิวน้ำ ด้วยเทคโนโลยี Echo Sounder แบบ Multi beam กระบวนการสำรวจทางอากาศโดยใช้เทคโนโลยีการถ่ายภาพทางอากาศ เป็นต้น
สำหรับนิสิตนักศึกษา นักเรียน เกษตรกร และผู้สนใจเข้าร่วมชมนิทรรศการเสมือนจริง 360 องศา : “RID TEAM : สานพลังน้ำ เป็น 1 เพื่อทุกคน” อย่างใกล้ชิด ในรูปแบบออนไลน์ และร่วมกิจกรรมเล่นเกมส์ เพื่อลุ้นรับของรางวัลส่งตรงถึงบ้าน กว่า 10,000 ชิ้น ตลอดทั้ง 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 11-13 มิถุนายนนี้ ได้ที่ https://www.rid.go.th/main/

วช. สนับสนุน นวัตกรรมจีโอโพลิเมอร์ปูนฉาบ ประกวดเวทีนวัตกรรมนานาชาติ คว้ารางวัลเหรียญเงิน

สภาวะแวดล้อมปัจจุบันที่มีการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม มีการขยายตัวของโรงงานอุตสาหกรรม

เกิดขึ้น ส่งผลทำให้มีการปลดปล่อยก๊าซกลุ่มไนโตรเจน และ ซัลเฟอร์ ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมในวงกว้าง นอกจากนี้ ในด้านงานก่อสร้าง ความเป็นกรดของน้ำฝนสามารถทำให้ผิวหน้าขององค์อาคารเกิดความเสียหาย
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เกียรติสุดา สมนา แห่งสาขาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน นครราชสีมา เปิดเผยว่า นวัตกรรมจีโอโพลิเมอร์ปูนฉาบต้านทานกรดมีแนวคิดที่มาจากการพัฒนานวัตกรรมปูนซีเมนต์ในการผลิตเป็นปูนฉาบ เนื่องจากปูนซีเมนต์ที่ใช้ทั่วไป ถ้านำไปฉาบผนังอาคารภายนอกที่สัมผัสกับน้ำฝนนาน ๆ ก็จะหลุดร่อนและอาจส่งผลกระทบต่อเหล็กเสริมในองค์อาคารจากการแทรกซึมของน้ำและความชื้นได้ และเหตุนี่เองจึงคิดค้นนวัตกรรมจีโอโพลิเมอร์ปูนฉาบต้านทานกรด ขึ้น โดยเริ่มจากการสังเคราะห์จากเถ้าถ่านหิน เถ้าแกลบ เถ้าชานอ้อย เถ้าปาล์มน้ำมัน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นวัสดุเหลือทิ้งในสิ่งแวดล้อม ที่สามารถทำปฏิกิริยากับสารละลายด่าง โซเดียมไฮดรอกไซด์ที่มีทรายเป็นมวลรวมละเอียด ทำให้เกิดเป็นโมเลกุลลูกโซ่ของผลิตภัณฑ์จีโอโพลิเมอร์ มีความสามารถในการรับกำลังอัดได้ดี และมีความทนทานต่อสภาวะแวดล้อมต่างๆ ได้ และเมื่อนำมาทดสอบด้วยการแช่จีโอโพลิเมอร์มอร์ต้าในสารละลายกรดไนตริก กรดซัลฟิวริคและฝนกรดสังเคราะห์ พบว่ากำลังอัดของวัสดุลดลงเล็กน้อย แต่ยังมีการแทรกซึมของกรดเข้าสู่เนื้อจีโอโพลิเมอร์ได้ดี แม้ระยะเวลาผ่านไป 90 วัน อีกทั้งมีระยะเวลาการก่อตัวช้า สามารถนำมาใช้เป็นวัสดุฉาบภายนอกอาคาร ป้องกันปัญหาการกัดกร่อนของฝนกรดที่ผิวหน้าของจีโอโพลิเมอร์ได้เป็นอย่างดี
ด้าน ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัย กล่าวว่า นวัตกรรมจีโอโพลิเมอร์ปูนฉาบต้านทานกรด ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ให้เข้าร่วมการประกวดนวัตกรรม “The 5th China (Shanghai) International Invention & Innovation Expo” ณ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ในรูปแบบออนไลน์ เมื่อวันที่ 15 – 17 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับรางวัลเหรียญเงิน มาครอง
การประกวดในครั้งนี้ วช. ได้สนับสนุนนักวิจัยและนักประดิษฐ์ไทยในการนำผลงานที่มีคุณภาพและมีศักยภาพด้านการวิจัยและด้านการประดิษฐ์คิดค้น เข้าร่วมการประกวดผลงานในเวทีระดับนานาชาติอย่างต่อเนื่อง
ทำให้ผลงานวิจัย สิ่งประดิษฐ์ และนวัตกรรมของคนไทยที่ไปเผยแพร่ เป็นที่รู้จักสามารถนำไปสู่การพัฒนาต่อยอดผลงานให้ได้มาตรฐานเกิดการยอมรับจากผู้ใช้งาน และเป็นที่ต้องการทางการตลาดและก้าวสู่เชิงพาณิชย์ต่อไป

ถ่ายทอดสด​ฟุตบอล​ยูโร​ 2020​ ​ทุกแมตช์​ เริ่มคู่​เปิดสนาม​ ตุรกี​ -​ อิตาลี​ 02.00​ น.​

ภาพข่าวจาก “ห้องข่าวหัวเขียว” ไทยรัฐทีวี

คนไทย​ได้เฮ​ รัฐบาล​อนุมัติ​ผ่าน​กรมประชาสัมพันธ์​ ถ่ายทอดสด​ฟุตบอล​ยูโร​ 2020​ ให้ได้ดู​ทุกแมตช์​ เริ่มคู่​เปิดสนาม​ ตุรกี​ -​ อิตาลี​ 02.00​ น.​ ชมสดผ่านช่อง​ NBT ทุกนัด

เข้า มอบหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ และถุงมือยาง

ผู้บริหารบริษัท เฟอร์นิช ดีไซน์ กรุ๊ป จำกัด เข้า มอบหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ และถุงมือยาง ให้แก่ศูนย์บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ภายในมหาวิทยาลัยรังสิต

วันที่ 9 มิถุนายน 2564 คุณธีรภัทร์ มีเดช ประธานกรรมการ บริษัท เฟอร์นิช ดีไซน์ กรุ๊ป จำกัด พร้อมด้วย คุณวศิน วรรณพฤกษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจองค์กร บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด เข้ามอบหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ และถุงมือยาง เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ของศูนย์บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ภายในมหาวิทยาลัยรังสิต โดยได้รับเกียรติจาก ดร.เริงศักดิ์ แก้วเพ็ชร ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายพัฒนาสังคมและศิลปวัฒนธรรม ผศ.ดร.สุพัฒนา นิรัตฆนาภรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานทะเบียน
ผศ.นพ.ชัยสิทธิ์ แสงทวีสิน รองคณบดีวิทยาลัยแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ผศ.ดร.สมชาย เล็กเจริญ รองคณบดีฝ่ายวิชาการ วิทยาลัยนวัตกรรมดิจิทัลเทคโนโลยี ผศ.สุเทพ มงคลเลิศลพ รองคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เป็นผู้รับมอบ และนำเยี่ยมชมการดำเนินงานภายในศูนย์บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของมหาวิทยาลัยรังสิต และนำเยี่ยมชมการดำเนินงานภายในศูนย์บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ภายในอาคารนันทนาการ มหาวิทยาลัยรังสิต

“กระทรวงเกษตรฯ”ชงงบเยียวยาช่วยเหลือเกษตรกรจากผลกระทบโรคลัมปีสกิน


“เฉลิมชัย”มอบกรมปศุสัตว์ผนึก”ม.จุฬาฯ.-ม.เกษตรฯ.”เป็นแกนAICเร่งพัฒนาวัคซีนสัตว์จากพืช(Plant based Vaccine)เมดอินไทยแลนด์เป็นครั้งแรก

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แถลงวันนี้(10มิ.ย)ว่า ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และนายประภัตร โพธสุทน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มอบนโยบายให้กรมปศุสัตว์เร่งเยียวยาเกษตรกรผู้เลี้ยงโค-กระบือที่ได้รับผลกระทบจากโรคลัมปีสกินพร้อมกับเร่งพัฒนาวัคซีนลัมปีสกินจากพืชด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่า plant based vaccine โดยความร่วมมือระหว่างกรมปศุสัตว์กับบริษัทใบยาไฟโตฟาร์มของมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์รวมทั้งมหาวิทยาลัยอื่นที่เป็นศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรมหรือศูนย์AICโดยคาดว่าจะสามารถเริ่มทดสอบวัคซีนได้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าโดยโรงงานวัคซีนของกรมปศุสัตว์พร้อมผลิตวัคซีนดังกล่าวทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศซึ่งเป็นครั้งแรกของประเทศไทยในการผลิตวัคซีนสัตว์จากพืชซึ่งจะเริ่มจากวัคซีนลัมปีสกิน

ทางด้านนายสัตวแพทย์สรวิศ  ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากกรณีที่เกิดการระบาดของโรคลัมปี สกิน กับโค-กระบือของเกษตรกร ในหลายพื้นที่ของประเทศ จนทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโค-กระบือได้รับผลกระทบจากความสูญเสียโค-กระบือไปนั้น กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตระหนักถึงความเดือดร้อนของเกษตรกรเจ้าของโค-กระบือเหล่านั้น จึงได้เตรียมการเยียวยาเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบจากโรคลัมปี สกิน ดังนี้
      ในกรณีที่เป็นการชดเชยกรณีสัตว์ตายหรือป่วยตาย โดยดำเนินการตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.๒๕๖๒ และมีขั้นตอน คือ
      1. รวบรวมข้อมูลความเสียหาย
      2. รวบรวมข้อมูลเสนอ คณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติอำเภอ (ปศุสัตว์อำเภอ)
      3. รวมรวมข้อมูลเสนอ คณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัด (ปศุสัตว์จังหวัด)
      4. ขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คือ ปศุสัตว์จังหวัด หรือกรมปศุสัตว์
ทั้งนี้ ชดเชยตามจริงแต่ไม่เกินรายละ 2 ตัว เป็นเงินสดผ่านบัญชีเงินฝากของเกษตรกร ตามหลักเกณฑ์ ดังนี้
หน่วย : บาท/ตัว
อายุ โค กระบือ
น้อยกว่า ๖ เดือน ๖,๐๐๐ ๘,๐๐๐
๖ เดือน ถึง ๑ ปี ๑๒,๐๐๐ ๑๔,๐๐๐
มากกว่า ๑ ปี ถึง ๒ ปี ๑๖,๐๐๐ ๑๘,๐๐๐
มากกว่า ๒ ปี ๒๐,๐๐๐ ๒๒,๐๐๐
อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หากเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์รายใด ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคลัมปี- สกิน  และมีความประสงค์จะขอรับการเยียวยา ขอให้ติดต่อสำนักงานปศุสัตว์อำเภอ หรือสำนักงานปศุสัตว์จังหวัด ใกล้บ้าน หรือศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านปศุสัตว์ กองส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์        ทางโทรศัพท์ 0-2653-4444 ต่อ 3315 และ e-mail : disaster@dld.go.th